สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
และแล้วก็ถึงคราวของประเทศไทยเราสักทีที่ได้นำคุชชั่นตัวนี้เข้ามา
วันนี้ดาวรีบมาอัพเดทให้ดูเลยสำหรับ
สำหรับของที่อยู่ในมือดาวตอนนี้
ดาวเชื่อว่าสาวๆ
จะต้องกรีดร้องกันอย่างแน่นอน เพราะตอนที่ของมาถึงมือดาวก็กรีดร้องหนักมาก
เค้าคือตัวนี้นั่นเอง
“YSL LE CUSHION ENCRE DE PEAU”
คุชชั่นสูตรแรกของ
อีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์ โบเต้ เป็นตัวใหม่ล่าสุดที่เข้ามาวางขายในประเทศไทย ที่บอกเลยว่าก่อนเข้ามาก็กระแสแรงมากๆแล้ว
และเป็นคุชชั่นที่ดาวเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งตัวที่สาวๆ ตั้งหน้าตั้งรอรอคอย
เพราะนอกจากมันจะมีคุณสมบัติเป็นรองพื้นแล้วแพคเกจของเค้ายังไฮโซโก้เก๋สะดุดตาผู้หญิงอย่างเราๆ
ด้วย
ดาวเชื่อเลยว่าเป็นคุชชั่นอีก
1 ตัวที่สาวๆ ใฝ่ฝันอยากจะครอบครอง >< ก็แหมมม มัน
เอาเป็นว่าเราตามมาดูรีวิวกันก่อนดีกว่าว่าคุชชั่นตัวนี้เค้าจะน่าเป็นเจ้าของกันขนาดไหน
คุชชั่นตัวนี้เป็น New Product ใน Line ของ ENCRE DE PEAU เป็นรองพื้นที่สาวๆ ทุกคนเคยกรี๊ดกร๊าดกันมาก่อนเพราะมันให้ลุคที่เป็นงานผิ๊วผิว
คนรักงานผิวจะชื่นชอบและกดเลิฟ แต่! คุชชั่นตัวนี้เป็นสูตรที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ เพราะฉะนั้นมันก็มีความต่าง
ซึ่งเป็นอะไรที่เราจะเลิฟมากกว่าเดิม เพราะสิ่งที่ต่างออกไปนั่นคือ....
คุณสมบัติที่ให้การปกปิดที่มากขึ้น แต่ผิวยังดูธรรมชาติอยู่
แถมเป็นตลับพกพาง่าย สามารถเติม touch up ระหว่างวันได้ พกแล้วก็แสนเก๋ ถือแล้วสวยหรูดูแพงมีคลาสมากๆ
ในส่วนของ Package
ก็อย่างที่เห็นแหละว่าแพคเกจเค้าสะดุดตาขนาดไหน
ตลับหรูหรามีระดับด้วยสีทอง-ดำมันวาว
แฝงไปด้วยความเท่
ความมั่นใจและทำให้ดูหรูหรา คลาสสิค น่าใช้งาน
มีสัญลักษณ์ YSL
ฝังอยู่ข้างหน้าแบบขลังๆ
สำหรับตัวนี้แบรนด์
จัดได้ว่าเป็น accessory แนวสตรีทสไตล์ที่ดูดีมีระดับ
สำหรับดาวคิดว่าไม่ใช่แค่เครื่องสำอางแต่ยังเป็นเครื่องประดับที่พกแล้วดูสวยหรูอีกด้วย
ในส่วนของแพคเกจนี้ดาวเทคะแนน+เทใจให้เลยเต็ม
100 เลย
แบบว่าเห็นแค่เพคเกจสาวๆอย่างเราก็อยากจะครอบครองแล้วจริงมั้ย ?
ส่วนด้านหลังก็จะมีบอกเบอร์สีที่เราใช้
และบอกรายละเอียดผลิตภัณฑ์ เค้าเขียนว่า Liquid Foundation Compact –
All day wear. Flawless Coverage Shine Free. Moisturising Freshness ซึ่งใครที่ยังไม่ทราบพอมาอ่านดูคร่าวๆ
ก็ต้องร้องอ๋อว่ารองพื้นตัวนี้งานผิวแน่นอน
เอาหละ
พอกดเปิดเข้ามาก็จะเจอแผ่นพัฟฟ์ (pillow applicator)
อยู่ข้างในตลับ
วางอยู่ข้างบนฝาปิดตัวคุชชั่นเพื่อไม่ให้ระเหย
สำหรับฟองน้ำของเค้านุ่มมากกกกกกก
มีความละมุนหน้าที่สุด ด้านหน้าจะเป็นสีดำมีสายคาดที่ปักลาย YSL ให้ขนลุกยิ่งขึ้นไปอีก
ส่วนอีกด้านจะเป็นฟองน้ำสีเนื้อ มีรูเล็กละเอียด ช่วยเกลี่ยรองพื้นได้สม่ำเสมอและนวลเนียน
สามารถจับผิวได้ดี ซึบซับเนื้อคุชชั่นได้ในปริมาณที่เหมาะสม
(เทคนิคคือ เราต้องกดคุชชั่นแต่พอดี
ไม่แรงจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้มีปริมาณคุชชั่นติดมาที่ฟองน้ำเยอะเกินความพอดีในการลงรองพื้น)
ชื่นชมข้างบนเสร็จแล้วเปิดตลับมาเจอข้างล่าง
แต่เอ๊ะยังไม่เจอของจริงหรอก เพราะต้องเจอ Seal ก่อน
ทีนี้พอเราจะใช้ก็แกะมันออกมาค่ะ
(ขนาด Seal ยังขลังโดยการพิมคำว่า YSL ดาวนี่ไม่กล้าทิ้งเลย เอาไปแปะไว้บนชั้นบนฝาปิด
มันเลอค่าจนไม่อยากทิ้งแม้กระทั่งพลาสติก ฮ่าๆ )
ตื่นเต้นมากกกกกตอนเปิด
พอเปิดออกมาก็จะเป็นเยี่ยงนี้…เนื้อคุชชั่นจะอยู่ในแผ่นฟองน้ำ ขอบอกว่าคุชชั่นฟูมาก อิ่มมาก ไม่ต้องกดก็ติดนิ้วมือแล้ว อ่อ
ช่วงที่ใช้แรกนี่ต้องระวังอย่ากดแรง ไม่งั้นมันจะติดฟองน้ำมาเยอะไปค่ะ)
สำหรับรองพื้นตัวนี้มือเทคโนโลยี
อิ้งค์-อิน (ink-in) ที่เค้าบอกว่าจะหลอมรวมรองพื้นเป็นหนึ่งเดียวกับผิวราวกับน้ำหมึกพร้อมความติดทนนานด้วยสูตรเทคโนโลยีแอร์ไลท์
ฟิล์ม ฟอร์มมิ่ง (Air-light
Film Forming System)
พอทาไปแล้วจะรู้สึกได้เลยทันทีว่าเย็นสบายผิวและเบาผิวหน้ามาก
เพราะมีสูตรลิควิด-ทู-พิกเม้นต์ (liquid-to-pigment)
ตัวนี้การปกปิดจะอยู่ที่ระดับ
Light to Medium เนื้อ คือสามารถปกปิดได้ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว
สามารถ Buildable
ได้แต่ก็อยู่ในระดับ
medium ไม่ถึงกับปิดปกได้เนียบกริ๊บ เพราะเค้าเน้นที่ความเป็นธรรมชาติ
ย้ำว่ายังคงเป็นงานผิวอยู่
สำหรับคนที่มีปัญหาผิวจริงๆก็แนะนำให้ใช้คอนซีลเลอร์ช่วยค่ะ
ดาวชอบเนื้อสัมผัสของรองพื้นตัวนี้ที่กึ่งแมทท์เบาๆ ทาแล้วแห้งซึมเข้าสู่ผิวทันที
ลูบแล้วไม่มีติดมาตามมือเลย แห้งคือแห้ง
ด้วยเทคโนโลยีที่เค้าว่า Ink-In อารมณ์เหมือนเวลาเราทำน้ำหมึกหยดลงเสื้อแล้วน้ำหมึกซึมลงเสื้อ มันก็จะแห้งติดเสื้อไปเลยทันที ทำนองเดียวกันกับสัมผัสการใช้รองพื้นตัวนี้....เหมือนกันเลย คือทาไปแล้วซึมสู่ผิวทันที
พอทาสักพักแล้วลองไปจับที่หน้าอีกทีก็รู้สึกได้เลยว่าเหมือนไม่ได้ทา คือมันซึมลงสู่ผิวทันทีแถมรู้สึกเบาสบายผิว
และชอบตรงที่มีความชุ่มชื้นที่ผิวหน้ากำลังดี ไม่แห้งไป ไม่ฉ่ำเกินไป
ลูบแล้วไม่มีติดมาตามมือเลย แห้งคือแห้ง
ด้วยเทคโนโลยีที่เค้าว่า Ink-In อารมณ์เหมือนเวลาเราทำน้ำหมึกหยดลงเสื้อแล้วน้ำหมึกซึมลงเสื้อ มันก็จะแห้งติดเสื้อไปเลยทันที ทำนองเดียวกันกับสัมผัสการใช้รองพื้นตัวนี้....เหมือนกันเลย คือทาไปแล้วซึมสู่ผิวทันที
พอทาสักพักแล้วลองไปจับที่หน้าอีกทีก็รู้สึกได้เลยว่าเหมือนไม่ได้ทา คือมันซึมลงสู่ผิวทันทีแถมรู้สึกเบาสบายผิว
และชอบตรงที่มีความชุ่มชื้นที่ผิวหน้ากำลังดี ไม่แห้งไป ไม่ฉ่ำเกินไป
แต่ในขณะที่เนื้อสัมผัสของรองพื้นตัวนี้กึ่งแมทท์เบาๆ
ทาแล้วแห้งซึมเข้าสู่ผิวทันที
ลูบแล้วไม่มีติดมาตามมือเลย
แห้งคือแห้ง
ด้วยเทคโนโลยีที่เค้าว่า
Ink-In อารมณ์เหมือนเวลาเราทำน้ำหมึกหยดลงเสื้อแล้วน้ำหมึกซึมลงเสื้อ
มันก็จะแห้งติดเสื้อไปเลยทันที
ทำนองเดียวกันกับสัมผัสการใช้รองพื้นตัวนี้....เหมือนกันเลย
คือทาไปแล้วซึมสู่ผิวทันที
พอทาสักพักแล้วลองไปจับที่หน้าอีกทีก็รู้สึกได้เลยว่าเหมือนไม่ได้ทา
คือมันซึมลงสู่ผิวทันทีแถมรู้สึกเบาสบายผิว
และชอบตรงที่มีความชุ่มชื้นที่ผิวหน้ากำลังดี ไม่แห้งไป
ไม่ฉ่ำเกินไป
มี
6 เฉดสีให้เลือก มีตั้งแต่เบอร์ 10-60 ดาวมีโอกาสได้ลองเป็นช่วงแรกๆ
ที่มีแค่สีเดียวเลยได้เบอร์ 20 ซึ่งขอบอกว่ามันยังขาวกว่าหน้าดาวไปมากและคิดว่าเหมาะกับคนที่มีผิวเฉดชมพู
ซึ่งยังไม่ค่อยตรงกับผิวของดาวสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นสี 30 ทีลดลงมา 1 เฉดนี่น่าจะกำลังโอเค
ซึ่งเพื่อนๆสามารถไปลองเทสดูสีที่เหมาะกับเราได้ทีที่เคาเตอร์กันได้เลยนะคะ
และสำหรับตัวนี้มี SPF 23/ PA++ ที่ช่วยปกป้องแสงแดด แต่ทางที่ดีเราก็ควรทากันแดดที่หน้าเพื่อป้องกันไว้ก่อนนั่นและจะดีที่สุด
ส่วนสำหรับกลิ่น มีกลิ่นของน้ำหอมสไตล์ YSL นั่นแหละ หอมอ่อนๆ น่าหลงใหล กลิ่นไม่โอเว่อร์จนเกินไป
ปริมาณสุทธิ 0.51 oz./ 14g. ราคา 2300 บาท
สรุป
สำหรับตัวนี้ดาวหลังจากที่ดาวได้ทดลองใช้ไป ดาวอินกับเนื้อคุชชั่นของเค้ามาก
ให้ผ่านเลยค่ะคุณภาพของรองพื้น(ยกเว้นสีของมันที่ยังไม่ตรงผิว ถ้าได้ตรงสีผิวจะปลื้มปริ่มกว่านี้เลย)
ช่วงนี้บอกเลยว่าดาวเอาพกติดกระเป๋าไว้ตลอด
เพราะเวลาออกไปข้างนอกก็หยิบมาอวดคนอื่นได้ ฮ่าๆ
ถือได้ว่าเป็น
must have item accessory ของสาวๆ fashionista เลยแหละ
จะบอกว่าช่วงนี้ดาวติดคุชชั่นมากๆ
เพราะนอกจากพกพาสะดวกแล้วยังช่วยประหยัดเวลาการลงรองพื้นไปได้เยอะเลย(แถมให้ผลลัพธ์ที่เนียนและบางเบากว่าด้วย)
อย่างที่เค้าว่ามีรองพื้นดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง แต่แค่นั้นไม่พอต้องรู้วิธีใช้ด้วย
สำหรับวันนี้ดาวจะมาบอกเทคนิคการใช้
Cushion ตัวใหม่ของ YSL ใน Line ENCRE DE PEAU กันคะ
นั่นก็คือ
1. PRESS : กดแผ่นพัฟฟ์ลงบนตลับหมึกเบาๆ
2. INK : ปล่อยให้เนื้อรองพื้นถ่ายเทจากตลับหมึกสู่แผ่นพัฟฟ์
และจากแผ่นพัฟฟ์สู่ผิว
3. STAMP: สอดนิ้วชี้
นิ้วกลาง และนิ้วนางเข้าไปใต้แถบผ้า แล้วลงน้ำหนักมือทีละนิ้ว
กดแผ่นพัฟฟ์ลงบนผิวเบาๆ โดยเริ่มจากขอบพัฟฟ์ด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง
เหมือนคุณกำลังม้วนแผ่นพัฟฟ์ไปบนผิวช้าๆ
แค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ
เท่านี้ก็ได้ผิวสวยพร้อมอวดแล้วหล่ะค่ะ
ดาวแอบแต่งหน้าลุคสุขุมแต่เรียบหรูสไตล์
Cara Delevingne มาให้ดูกันด้วย จะแต่งให้เหมือนไม่ได้จริงๆเพราะแต่ด้วยเบ้าหน้าที่อยู่คนละแถบซีกโลก
เลยขอเอาแค่สไตล์มาพอ โดย Makeup
Point เริ่มจากผิวดีโดยใช้
cushion ตัวใหม่ของ YSL ทาตาเข้มๆ ด้วยอายแชโดว์สีน้ำตาลและทาอายไลน์เนอร์สีดำให้ลุคขรึมแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นจากลิปสติกสีส้มอมชมพู
แค่นี้ก็เรียบร้อย
ซึ่งใช้ไอเท็มเหล่านี้
- YSL LE CUSHION ENCRE DE PEAU - no.20
- Naked Smoky สี Radar ทาลงไปใหทั่วบริเวณเปลือกตาแล้วเบลนให้ดูฟุ้งกระจาย
- Beauty People Flash Fix Pearl Pigment - no.06 Wood Light ทาทับลงไปกึ่งกลางดวงตาให้ดูมี ประกาย
- NARS Minorque Kohliner ทาอายไลน์เนอร์สีดำสนิทลงไปทั้งขอบตาบนและล่าง
- Charlotte Tilbury Cheek to Chic Blusher สี Ecstasy ปัดแก้มสีชมพูอมส้มเพื่อให้ผิวดูสุขภาพดี
6 YSL Rouge Volupte Shine Lipstick – no.15 Corail Intuitive สีส้มอมชมพูเนื้อครีมมีทำให้ปากดู ชุ่มชื้น
และเมื่อแต่งออกมาทั้งหมดก็จะได้ลุคตามนี้เลยค่ะ
^^
หวังว่าบล็อกนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆที่กำลังหาข้อมูลอยู่นะคะ
สำหรับวันนี้ดาวต้องขอตัวลาไปก่อนแล้ว
เจอกันใหม่ครั้งหน้าจะเป็นอะไรต้องติดตามค๊า
ดุจดาว
Like DujdowFanpage on Facebook. www.facebook.com/dujdowfanpage
Follow @darudow on Instagram.For questions, product reviews, advertisements and partnership, email me at dow.swnchot@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น