วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

How to get False eyelash สอนติดขนตาฟรุ้งฟริ้งจิงเกอร์เบล

ปฏิเสธไม่ได้เลยนะค่ะว่า สมัยนี้ขนตาปลอมนั้นกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของสาวๆไปเสียแล้ว
จากยุคเดิมที่ขนตาปลอมหนาๆเป็นแพ ก็พัฒนากลายมาเป็นบางๆ ธรรมชาติ ดูแล้วสบายตามากขึ้น
บางยี่ห้อจับไม่ได้เลยทีเดียวว่าติดขนตา ก็เลือกๆกันไปตามใจชอบนะค่ะ 
ส่วนจะเลือกยี่ห้อไหนแบบไหนนั้นก็แล้วต่ความชอบของแต่ละคน เพราะว่าแต่ละยี่ห้อก็มีลักษณะและเบอร์ขนตาที่แตกต่างกันไป
ซึ่งส่วนใหญ่ที่จะติดใจเบอร์ไหนสักเบอร์ ก็ต้องเกิดจาก การทดลอง ก่อนทั้งนั้น
ว่ามันเข้ากับดวงตาและสไตล์ของเราหรือไม่
ถ้ามีคนชมว่าสวย แน่นอนเราจะติดขนตาแบบนั้นต่อไป ฮ่าๆ 


ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ แม้ว่าทุกวันนี้คนจะเลือกซื้อขนตากันมากขึ้น 
แต่สาวๆหลายๆคนอาจจะยังติดขนตาไม่เป็น
วันนี้เลยจะมาติดให้ดูกัน! (จากการรีเควส)
 วันนี้ดาวมาสอนติดขนตาแบบฟรุ้งฟริ้ง ทั้งขนตาบนและที่สำคัญ คือขนตาล่าง!!!
เพราะหลายๆคนติดขนตาล่างไม่เป็น

ดาวจะติดให้ดูทั้งขนตาบนและล่างล่าง แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ 
ในคลิปจะเห็นได้ว่า มันจะฟูๆ พองๆ ติดแล้วฟรุ้งฟริ้งที่สุด




จะบอกว่าขนตาบนแบบนี้ดาวติดบ่อยที่สุด ไม่รู้จะใส่อันไหนก็อันนี้แหละ ติดแบบไม่ต้องคิดเลย 
มันเลยเหมือนเป็น ขนตารุ่น Signature ของดาวไปละ
ซึ่งก็คือยี่ห้อ Lash'er ขนตาบน D10 และขนตาล่าง Z24
( IG : Lasher.official
FB : https://www.facebook.com/lasher.official )

ส่วนขนตาล่าง จะติดเมื่องานสำคัญๆ ค่ะ เพราะว่าขี้เกียดดึงออก
ซึ่งนานๆทีจะติดเท่านั้นแหละค๊าา

งั้นเราไปดูกันเลยดีกว่านะค่ะ 


How to get False eyelash สอนติดขนตาฟรุ้งฟริ้งจิงเกอร์เบล



เอาละค่ะ จบแล้ว
หวังว่าเพื่อนๆ คงชอบฮาวทูนี้กันนะค่ะ
ดูขนตาฟรุ้งฟริ้งแล้วตามไปฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวได้กันต่อในเพจนะค่ะ
เพราะว่าเรามีแจกของรางวัลพิเศษฉลองครบรอบ 3000 Likes ที่ผ่านมานานละ 55
ใครอยากฟรุ้งฟริ้งก็ตามไปน้า

โดยกติกามีอยู่ว่า 
1. ต้องเป็นเพื่อนกันก่อนโดยการกดไลค์ Dujdowfanpage ให้เรียบร้อย
2. แชร์รูป ที่ดาวติดขนตาปลอมแล้ว 
3. ตอบคำถามที่คอมเม้นใต้รูปว่า "คุณจะเลือกซื้อขนตายี่ห้อหนึ่งเพราะอะไร" เอาสั้นๆก็ได้นะพอเข้าใจตรงกัน หลังจากนั้นตามด้วยชื่อที่อยู่ที่จะให้จัดส่ง
*อย่าลืมเปิดเป็นPublic นะค่ะ จะได้รับขนตาไปติดกันให้สวยๆ

**ขอสวนสิทธิ์ สำหรับผู้ที่ทำตามกติกาเท่านั้น **

ร่วมสนุกได้ถึง 10 มิถุนายน 58 
อย่าลืมมาร่วมสนุกกันเยอะๆนะค่ะ
วันนี้ขอตัวลาไปก่อน บั้ยบายย


วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

How To แต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเอง ฉบับDujdow #Throwback

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ 
ช่วงนี้หลายๆมหาวิทยาลัยก็เริ่มรับปริญญากันแล้วนะค่ะ 
ดาวก็เลยมาแต่งหน้ารับปริญญาให้ดู
ขอบอกว่า เป็นลุคเดียวกับที่ดาวใช้แต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเองในวันงานนั้นๆ และทุกครั้งที่ถ่ายรูปนอกรอบนะคะ


แต่วันนี้จะมาแต่งให้ดูกันอีกรอบแบบ Throwback ที่ปีที่แล้วไม่ได้ทำเพราะตัวเองรับเอง เลยไม่มีเวลาทำ เลยมาทำให้ดูกันในปีนี้ 

เอาเป็นว่าไปดูกันเลยนะค่ะ ว่าแต่งหน้าอย่างไรให้ได้อย่างนี้บ้าง




คอนแทคเลนส์ปัจจุบันที่ใช้อยู่อาจไม่มีความเหมาะสมที่จะใช้ในวันงาน
มหาลัยไหนที่เข้มงวดอาจจะต้องใส่เป็นเลนส์ใส หรือไม่ก็เลือกคอนแทคเลนส์ที่แบบธรรมชาติมากๆ 
ประสบการณ์ตอนนั้นวันซ้อมดาวจะใส่คอนแทคเลนส์สี ส่วนวันจริงก่อนเข้าห้องประชุมจะไปเปลี่ยนเป็นคอนแทคเลนส์ใส (เนื่องจากใส่คอนแทคเลนส์สีแล้วส่วนตัวจะรู้สึกถ่ายรูปสวยกว่า )
อย่างตอนนั้นดาวใช้คอนแทคเลนส์รุ่น Fairy Tear's Brow  น่าจะของ Pretty lens มั้ง จำไม่ได้แล้วค่ะ ซึ่งก็เลือกใช้ให้เหมาะสมแล้วกันนะค่ะ แต่ปัจจุบันดาวใช้เลนส์อันนี้อยู่เลยต้องทำอันนี้ไปก่อนอ่า

ไปดูกันเล้ยยยย







เครื่องสำอางที่ใช้ 

ผิวหน้า
Begin moisurizer mist 
Benefit pore professional primer
MAC StudioFIX Fluid NC20
Mac concealer Prolong wear NC20
MAC concealer NC30
ELF Cream Blush #superstar
MTI ครีมรองพื้น BASE #N7
Mistine Super vivid Litening #2

คิ้ว
mille celeb3d eyebrow #light brown
mille 3d brow mascara
Kate designing eyebrow

ตา
Elf eyeshadow primer
Naked 2 
mille max black gel liner
mille forever black pen liner
Maybeline Rocket volumn express
Paponk THE EYESTER'S PENCIL LINER EP03 สีเนื้อมุก
แก้ม 
NYC bronzer
sleek blush pixie pink

ปาก
บำรุง puffguin papaw ointment
MAC Please me










จบแล้วสำหรับรีวิวนี้
ใครมีคำถามก็ไปพูดคุยในเพจได้นะค่ะ 
ทั้งเรื่องประสบการณ์การรับปริญญาว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร 
หรือมีคำถามอื่นๆอะไรสงสัยเกี่ยวกับการรับปริญญาก็แวะไปพูดคุยกันได้ในเพจ Dujdowfanpage นะคะ
สำหรับวันนี้ดาวขอตัวลาไปก่อนแล้วค่ะ 
บ้ายบายค่า



วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

แชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลและแก้ไขปัญหาผิวในชีวิตประจำวัน by Cethaphil + Giveaway

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ วันนี้ดาวจะมาพูดคุยเล็กๆน้อยๆ 
พร้อมทั้งแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลและแก้ไขปัญหาผิวหน้าในชีวิตประจำวันของดาวเองนะค่ะ
ซึ่งเป็นประสบการณ์ผิวจริงๆที่ดาวเจอมา แล้วจะมาบอกเล่าให้หลายๆท่านได้ทราบกันค่ะ
เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆท่านโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้ากันเนาะ 

กระทู้นี้เป็นโปรเจคร่วมกับ Cetaphil ดังนั้นจะเห็นีวีดีโอแนบอยู๋ในบทความเป็นะระยะๆด้วยนะคะ 
เป็นเรื่องราวสั้นๆ ลองกดดูเนื้อหาได้
และสำหรับผู้ที่อ่านจบถึงตอนท้ายก็จะมี แจกผลิตภัณฑ์จาก Cetaphil ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยม
ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแนะนำ ให้ท่านผู้อ่านได้ลองนำไปใช้กันด้วยนะค่ะ 
ซึ่งสำหรับใครที่สนใจอยากจะนำผลิตภัณฑ์ไปลองใช้ก็ร่วมสนุกกับดาวได้
แต่อ่านให้จบถึงข้างล่างก่อนนะค่ะ


บทความนี้ดาวอยากมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับการดูแลและแก้ไขปัญหาผิวในชีวิตประจำวัน 
และบอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ผิวหน้าที่เคยเป็นสิวมาให้ฟังกันค่ะ
ดาวเคยเป็นสิว ช่วงนั้นมันคือช่วงนรกมากๆๆๆๆ 



สุขภาพผิวที่ดีช่วยให้เรามีความมั่นใจได้หรือไม่?

สำหรับดาวผิวสุขภาพดีนั้นช่วยสร้างความมั่นใจให้กับดาวได้เกินล้านเปอร์เซ็นค่ะ
ดาวจะรู้สึกหดหู่มากๆ เวลามีสิว ทุกอย่างจะแย่ เราจะหงุดหงิดเมื่อสิวขึ้น หน้าไม่เนียน  กังวลตลอด
นั่งมองหน้าคนอื่นที่เนียนๆตลอด รู้สึกโรคจิตมากๆ อยากสิวหาย แล้วสภาพจิตใจก็ไม่โอเคเลย และช่วงนี้จะเป็นในทุกๆครั้งที่ประจำเดือนจะมา สิวจะขึ้นเยอะตลอดๆ เราก็จะกลายเป็นโรคจิตสักพักตลอดๆเลยอะ

แต่ช่วงนี้สิวลดลงกว่าเมื่อก่อน เลยรู้สึกว่าสภาพจิตใจของตนเองนั้นดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน ปัจจุบันจะเป็นสิวเป็นพักๆเลยค่อยพอรับได้
เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วมานั้น ดาวสิวผุดยิ่งกว่าดอกเห็ด เดินไปไหนมาไหนมีแต่คนทักว่าไปทำอะไรมา
จากที่หน้าเนียนๆ กลายเป็นสิวเต็มหน้า
ตอนนั้นพูดตรงๆเลยค่ะว่าเครียดมากๆ แบบเคยร้องไห้เลยนะ ไม่เว่อร์ เพราะไม่เคยเป็นสิวเยอะขนาดนี้
ตอนนั้นพยายามรักษาทุกทางค่ะ แต่ทำยังไงก็ไม่หาย ซ้ำยังเป็นหนักเพิ่มขึ้นกว่าเดิม จนไอ้เราก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วอะ รักษาคลีนิคก็แล้ว กดสิวก็แล้ว(กดทุกสองสัปดาห์) ปล่อยผ่านไปเพราะคิดว่าเสียเงินเปล่า ไม่รู้จะรักษาทางไหน จากนั้นเริ่มรักษาเองแต่กผลก็ไม่ค่อยน่าพอใจ จนพึ่งทางเลือกที่เค้าว่าดีคือ สถาบันโรคผิวหนังตรงอนุสาวรีย์จนอาการดีขึ้นมา

แต่จะขอบอกว่า ตอนที่เป็นสิวมากๆนั้น ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลยจริงๆ
พยายามแต่งหน้าเพื่อสร้างความมั่นใจ ซ้ำ สิวยิ่งขึ้นไปอีก เพราะยิ่งแต่ง เครื่องสำอางก็ยิ่งไปอุดตัน
สรุปทำอะไรก็ไม่ดีสักทาง

จากที่เคยพยายามทุกอย่าง รักษาทุกทาง จนคิดว่าเออ ปล่อยวางเหอะ ให้มันเป็นไป เดี๋ยวมันก็หายเอง
เพราะตอนนั้นคิดว่า  เรายิ่งไปกังวลกับมัน มันก็จะยิ่งขึ้น ประมาณว่า ยิ่งเครียด ยิ่งหนักใจก็ยิ่งขึ้นนะ
จนมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ พอเราเริ่มไม่เครียดไม่คิดมากมันก็เริ่มดีขึ้นจริงๆ จากเมื่อก่อนสิวเต็มหน้า ตอนนี้เหลือแต่รอยสิวกับสิวอุดตันประปรายค่ะ ถือว่าอาการดีขึ้นมากแล้วแต่ก็ไม่ได้ว่าหายขาย เพราะทุกวันนี้ก็ยังแต่งหน้าเยอะอยู่

ผ่านมาจนถึงตอนนี้ทราบเลยค่ะ ว่ากำลังใจสำหรับคนเป็นสิวนั้นสำคัญมากๆ คนเป็นสิวเยอะๆนี่สภาพวะจิตใจเค้าแย่มากเลยนะค่ะ แนะนำค่ะ แทนที่จะถามเค้าแล้วทำหน้ายี้ เราแนะนำเค้าดีกว่าว่าทำยังไงจะหายสิว แหงะ! คนไม่เคยเป็นสิวคงไม่เข้าใจหรอกค่ะ #ร้องไห้หนักมากค่ะ



เราควรดูแลผิวอย่างไร?

แล้วทำอย่างไรสิวจะหายหล่ะ คำตอบนี้ตอบไม่ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย
บางคนอยากสิวหาย แต่นอนดึก กินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ทำตัวสกปรกเละเทะก็ยากที่จะหายนะค่ะ
เอาง่ายๆ จะแบ่งการดูแลผิวเป็นหมวดหมู่ในการรักษาแล้วกันนะค่ะ

1 การล้างหน้า ต้องล้างให้สะอาด สำคัญมาก
อย่าให้เครื่องสำอางของเมื่อคืนยังหลงเหลืออยู่ในวันถัดไป

ขี้เกียดขนาดไหนก็ต้องล้างหน้า ไม่งั้นสิวขึ้นๆ ท่องไว้เลยค่ะ
เมื่อก่อน ไปเที่ยวกลับมาคิดว่าหน้าใส สิวไม่ขึ้นหรอกๆ
เวลาผ่านไปความสกปรกเลยสะสมค่ะ สิวระเบิดทีเดียว จะโทษใครก็ไม่ได้ ได้แต่โทษตัวเอง ทำตัวเองทั้งนั้น ดังนั้นใครที่ยังคิดอย่างนี้อยู่รีบเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมโดยด่วน!

กลับบ้านมาต้องล้างหน้าให้สะอาด แต่งหน้าก็ต้องล้างหน้าด้วย cleansing ให้สะอาดไม่เหลือคราบ
จะเมาก็ต้องบอกเพื่อนให้ล้างหน้าค่ะ! อย่าเป็นชะนีขี้เมาไม่ดูแลตัวเอง!! (ถ้าไม่ดูแลตัวเองก็ให้เพื่อนช่วยดูแล 555 ) ต้องมั่นใจว่าหน้าสะอาดค่ะ
สำหรับดาว จะมีที่ล้างหน้าสองอย่างคือ ใช้ Cleansing แบบ OIL แบบที่เป็นน้ำนมเนาะ ล้างเมคอัพให้หมดจด หรือถ้าใครรีบมากก็ใช้ Cleansing tissue กระดาษเช็ดเครื่องสำอางเช็ดออกสัก 2-3 รอบให้มั่นใจ แล้วใช้สเปรย์น้ำฉีดแล้วเช็ดออกด้วยทิชชู่เปียกเช็ดตูดเด็กอีกรอบค่ะ

จากนั้นก็ใช้โฟมล้างหน้าที่เกี่ยวกับคนเป็นสิว เน้นความบอบบางและสำคัญที่สุด วิธีล้างของเราต้องล้างให้สะอาดหมดจรดค่ะ เพราะต่อให้โฟมล้างหน้าดีแค่ไหนแต่ล้างไม่สะอาดมันก็เท่านั้นค่ะ
ยังไงหน้าต้องสะอาดๆ ท่องไว้

2 การบำรุง


ในการซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เราควรคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง?

ในช่วงนั้นตอนแรกๆเสียสติไปเยอะค่ะ ซื้อทุกอย่างที่คิดว่าต้องทำให้ตัวเองหาย
ซืิ้อโน่นซื้อนี่มาใช้ ทั้งผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ทั้งครีมทั่วไปสำหรับคนเป็นสิว ครีมแพทย์ โอ้ยย บลาๆๆๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือ นั่งศึกษาแล้วนะ แล้วก็สอบถามจากคนที่เป็นสิวมาก่อน ว่าใช้อะไรดี ซึ่งที่สำคัญเลยเราต้องศึกษาและดูรีวิวจากหลายๆที่ค่ะ เป็นไปได้ อย่าพยายามเชื่อรีวิวร้าน และมีสติในการที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละอย่างค่ะ จะปลอดภัยสุด

สรุปสุดท้าย ดาวพยายามใช้อะไรที่มันเป็นเวชสำอางอะค่ะ ที่มันได้รับการรับรอง ว่าปลอดภัย มีส่วนประกอบของสารเคมีน้อยที่สุด เพื่อป้องกันการแพ้ และที่สำคัญทุกอย่างที่ใช้ต้องอ่อนโยนมากๆ เพราะผิวช่วงเป็นสิวจะบอบบางมากๆ
ตอนนั้นเปลี่ยนใช้อยู่หลายตัวเหมือนกัน จนสุดท้ายที่ยังใช้อยู่คือครีมของคลีนิคหนึ่งกับครีม Benzac ทาละลายไขมันที่ก่อให้เกิดสิว และสำหรับในปัจจุบันก็จะเน้นครีมที่ลดรอยสิวมากเป็นพิเศษเนื่องจาก รอยสงครามบนหน้ายังมีอยู่เยอะมาก
แนะนำสำหรับคนเป็นสิว เราควรรักษาสิวให่หมดเสียก่อนแล้วค่อยมาคิดเรืองรอยสิวกันนะค่ะ
ใจเย็นๆค่ะ ทุกอย่างมันค่อนเป็นค่อยไป
อ่อ อย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำด้วยนะคะ อันนี้ก็ขาดไม่ได้เช่นกันๆ

3 การออกกำลังกาย สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก
กายออกกำลังกายมันจะช่วยขับเหงื่อ ขับของเสียออกจากร่างกายออกมาค่ะ
ที่สำคัญเลย เราต้องออกกำลังกายทุกวันอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ต้องหักโหมขนาดหนัก
เอาให้เหงื่อออกบ้างก็พอค่ะ
อย่างช่วงดาวซ้อมดรัมเมเยอร์อย่างหนักหน่วง ต้องวิ่งวันละ 10 รอบ สนามบอล ช่วงนั้นก็ยังเป็นสิวนะคะ แต่พอออกกำลังกายทุกวันๆ จะสังเกตได้เลยว่า สิวลด หน้าเรามันจะมีออร่าขึ้นอย่างบอกไม่ถูกเลยหล่ะ
เนื่องจากพอออกกำลังกายกำจัดของเสียออกไป สิวเราก็ลดลงค่ะ ลองมาแล้ว ไม่เชื่อต้องลองนะค่ะ 

เพราะเมื่อเราออกกำลังกายเราจะเสียน้ำและระบายความร้อนออกมาผ่านรูขุมขนของเรา และนั่นก็คือของเสียที่ร่างกายขับออกมาด้วย มีผลทำให้สิ่งอุดตันที่อยู่บริเวณรูขุมขนหลุดตามออกมา นั่นหมายถึงว่ายิ่งเราออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะยิ่งทำให้รูขุมขนเราโล่ง โปร่ง สบาย สามารถช่วยลดการเกิดสิวอุดตันได้ค่ะ (อ้างอิง http://acnedefend.blogspot.com/2013/10/exercise-acne.html)

อ่อและที่สำคัญ เปลือยไปเลยค่ะหน้า
ไม่ต้องแต่งหน้าไปออกกำลังกาย เพราะมันจะไปอุดตันรูขุมขนค่ะ

4 อาหาร You are what you eat 
กินอะไรก็เป็นแบบนั้น
ถ้ากินอะไรที่มันไม่มีประโยชน์ร่างกายเราก็จะไม่ได้รับประโยชน์อะไร
และสิ่งที่เรากินบางอย่างก็ส่งผลต่อสุขภาพผิวด้วยเช่นกันนะคะ
พยายามทานอาหารให้ครบห้าหมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้
และอย่างอาหารต้องห้ามสำหรับคนที่เป็นสิว เช่น อาหารรสจัด ของหวาน ของมัน อาหารทะเล เป็นต้นเอาเป็นว่าถ้าอยากทานก็ทานแต่พอเหมาะ ให้หายอยาก อย่ารับประทานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน เพราะอาหารเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้เกิดสิวขึ้นนั่นเอง


ที่สำคัญทานน้ำเปล่าเยอะๆค่ะ จะช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย และช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกายให้เราอีกทางคะ
เอาเป็นว่าท่องไว้ๆ เด่วสิวก็จะหายแล้วๆ อดใจไว้อีกนิด




และปัจจุบันกับหน้าสด 
ถือว่าดีขึ้นมากๆๆๆ 



ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ดาวทำแล้วมันก็ดีขึ้นนะค่ะ
ดูได้จากรูป เมื่อก่อนและปัจจุบัน
อาจจะเห็นว่ามันเยอะแยะ แต่ต้องพยายามทำให้เป็นกิจวัตรประจำวันไปค่ะซึ่งมันก็ดีต่อตัวเราเองด้วย
แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงจะดูแลตัวเองให้มากกว่านี้
ดูแลสุขภาพกายแล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพผิวนะค่ะ 
ใครมีประสบการณ์เลวร้ายมาแชร์กันได้ 




และก่อนจากไปก็จะมาแจก Give away เนาะ 
เป็นผลิตภัณฑ์จาก Cethaphil ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าขนาดทดลอง
เป็น Skin Care แบรนด์ที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังทั่วโลกแนะนำ 
ว่าสามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยนแต่มีประสิทธิภาพใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายเลยค่ะ 
ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารสบู่ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวค่ะ  ดาวให้ไปทดลองใช้กันด้วยคะ 

ง่ายๆ เพียงตอบคำถามสั้นๆใต้คอมเม้นใน facebook.com/dujdowfanpage ว่า
ผิวสุขภาพดีสามารถสร้างความมั่นใจให้กับคุณได้อย่างไร?
จากนั้นตามด้วยชื่อที่อยู่ที่สะดวกจัดส่ง

จากนั้นเราเลือกสุ่มผู้โชคดี มา 18 รางวัลค่ะ
หมดเขต 30พค นะคะ
มาร่วมสนุกและแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับความมั่นใจของคุณกันนะคะ


วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Review วิตามินหน้าเงา So White!



สวัสดีค๊า ดุจเดงเอ๊งง ง ง 
วันนี้จะมาบอกต่อ เกี่ยวกับเรื่องวิตามินที่เคยได้ลองกินมาเดือนกว่าๆ ตัวล่าสุดที่เคยทานเลย
แล้วทีนี้ผลลัพท์มันโอเคค่ะ โอเคยังไงเดี๋ยวอ่านให้จบก่อนเนาะ
 คือพอมันโอเคดาวเลยตัดสินใจลงเขียนลงบล็อก
คืออันนี้หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักเพราะมันไม่ใช้วิตามันตลาดเท่าใดนัก 
เป็นวิตามินของรุ่นพี่ที่รู้จักกัน เค้าคอนเฟิร์มว่าทานแล้วปลอดภัยแน่นอน 
แล้วอีกอย่างพี่เค้าเป็นเจ้าของเอง คือผิวดีมากเว่อร์ แบบออร่าจับเลยอยากลองมั่ง 55
ดุจดาวก็เลยตอบตกลงโอเคเลย เอามาลองทานดูเลยค่ะ เพราะไว้ใจพี่เค้า
ซึ่งตอนนั้นเอาจริงๆยังไม่รู้สรรพคุณเท่าใดนัก รู้เพียงแต่ว่า มันคือ "วิตามินหน้าเงา"


ดาวเป็นคนมีปัญหาผิวอยู่ด้วย คือ มีสิวผดเล็กๆที่หน้า มีสิวอุดตัน หน้าแห้งเพราะใช้ Benzac 
ทานน้ำน้อยเลยไม่มีความสมดุลในผิว ผิวแลดูว่าเหมือนจะขาวแต่ไม่เปล่งปลั่ง มันเลยดูไม่ใส
นี่ปัญหาผิวก่อนทานเบื้องต้น พอจะนึกออกกันไหมค่ะ



ส่วนเจ้าตัวนี้แหละค่ะคือวิตามินหน้าเงาที่พี่เค้าแนะนำมา
มันจะมีส่วนผสมของวิตามันซีเยอะ เลยจะใสขึ้น
 ยังมีอีกตัวเป็นสีชมพู ตัวนั้นจะคือวิตามินช่วยทำให้ผิวขาวขึ้น 
แต่ส่วนตัวดาวไม่ได้ผิวขาวเท่าใดนัก และดาวไม่ได้คลั่งความขาว 
ดังนั้นดาวจึงคาดหวังจากกล่องสีฟ้านี้มากกว่า


ตัวสีชมพูคือวิตามันขาวใส เพราะมีส่วนประกอบหลักจาก L-Glutatione ถึง 250 มิลลิกรัม
และยังมีส่วนผสมของคอลลาเจนเข้มข้นจากรกปลาแซลม่อนด้วย
ทำให้ผิวละเอียด รูขุมขนกระชับขึ้นค่ะ


กล่องฟ้าวิตามินหน้าใสจะเม็ดวงรี สีม่วง 
ส่วนตัวขาวนั้นจะเป็นเรียวยาว สีชมพู
สีพาสเทลน่ากินมาก
1 แผงมี 10 เม็ด
ซื้อเป็นเซ็ตจะทานได้ทั้งหมด 1 เดือนพอดีนะค่ะ 

มาดูส่วนประกอบกันบ้างดีกว่านะค่ะ 

อะเซโรลา เชอร์รี่สกัด
ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์
สารสกัดจากทับทิม 
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 
สารสกัดจากแครอท
สารสกัดจากมะเขือเทศ 

ซึ่งดูๆแล้วมันก็คือสารสกัดจาก ผัก ผลไม้ที่มีวิตามีนซี ที่มีส่วนช่วยให้ผิวขาวใสนั่นเอง 
พอผิวได้รับสารอาหารและคุณประโยชน์ดีๆ มันก็ทำให้ผิวใส หน้าผ่องขึ้นโดยที่เราไม่ได้ทานผักและผลไม้สดๆ แต่มันรวมมาอยู่ในเม็ดนี้แล้วนั่นเอง

โดยจุดเด่นที่บอกไว้อยู่ที่ อะเซโรลา เชอร์รี่สกัด ที่เป็นวิตามินซีสกัดเข้มข้นมากกว่าวิตามินซีที่ได้จากส้มถึง 50-80เท่า 
ช่วยป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและทำให้แก่ก่อนวัย 
มันจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวและความเต่งตึงกระชับให้แก่ผิว ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ เนียนใส
ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน สาเหตุหลักของฝ้า กระ จุดด่างดำ ช่วยลดรอยหมองคล้ำและรอยดำจากสิว ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ทำให้ไม่เป็นหวัดง่ายและร่างกายซ่อมแซมได้เร็ว


ส่วนตัวนี้มีส่วนประกอบคือ แอลกลูต้าไธโอน 
แซลม่อนพลาเซนต้า รกแซลม่อน
กรดอัลฟ่าไลโปอิค 
แอลซิสเทอิน 
เมล็ดองุ่น เปลือกสน อะเซโรล่าเชอร์รี่ 
royal jelly(นมผึ้ง)  สารสกัดจากมะเขือเทศ 
โคเอ็นไซม์คิวเท็น วิตามินบี3 วิตามินC

ซึ่งส่วนประกอบเราจะเห็นว่า มันมีกลูต้านั่นเองเลยทำให้ผิวเราแลดูขาวขึ้น
และเช่นเดิม จากที่เค้าเคลมไว้ 
กลูต้ากับแซลม่อนพลาเซนต้าช่วยบำรุงให้ผิวพรรณดูขาวกระจ่างใส ออร่า เปล่งปลั่ง แลดูผิวสุขภาพดี
ช่วยลดการอักเสบของสิว ลดเลือนจุดด่างดำ กระ ฝ้า ลดอาการหมองคล้ำใต้ตา รู็ขุมขนกระชับ ผิวละเอียดขึ้นช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวให้ตึง เรียบเนียนขึ้นด้วย


ซึ่งพอทานคู่กันมันโอเคเลยค่ะ เพราะมันมีทั้ง วิตามินซีจากกล่องฟ้า
ซึ่งหลายๆคนอาจจะทราบกันดีว่าวิตามินซีมันมีคุณประโยชน์เกี่ยวกับผิว ทำให้ผิวดีมากขนาดไหนเนาะ  
นอกจากมีแอลกลูต้าจากกล่องชมพู ซึ่งมันจะเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
คล้ายๆ เรากินกลูต้าแล้วต้องกินวิตามินซีด้วยนั่นแหละ เพื่อให้มันได้ผลลัพท์ที่ดีขึ้น 
แต่สำหรับสองกล่องนี้ก็จะได้คุณประโยชน์ที่มากขึ้นจากส่วนประกอบตัวอื่นด้วย!

มากขึ้นอย่างไรมาดูผลลัพท์กันดีกว่า



ตอนนี้ทานได้1เดือนแล้ว ผลที่รู้สึกได้ตอนนี้คือ ผิวเนียนขึ้นค่ะ หน้าใสขึ้น รอยลดลง แต่ไม่ใช่ว่าทานแล้วหายไปเลย ซึ่งอย่างนั้นอาจจะต้องใช้เวลานานขึ้นหน่อย
และก็รู้สึกว่าไม่ได้ขาวขึ้น ซึ่งจากที่บอกไปตั้งแต่แรกว่าไม่ได้คลั่งขาวอยู่แล้ว เลยไม่หวัง
แต่หวังว่าผิวจะดูสุขภาพดีขึ้นค่ะ ซึ่งจะเห็นได้ว่า รูขุมขนดูกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ
ส่วนรอยสิว รอยแดง ผื่นน้อยๆ ที่เคยกล่าวไปตั้งแต่แรกว่ามันเป็นปัญหาผิวของดาวนั้น ก็จางลงแบบเห็นได้ชัด โดยรวมคือ ผิวเนียนขึ้น นุ่มขึ้น ผิวใสไบร์ทๆขึ้น สรุปคือชอบอะค่ะ
และชอบอีกอย่างนึงคือ แต่งหน้าเรียบเนียนขึ้นด้วยคะ


วิธีทาน
 รับประทานวันละ 1 -2 เม็ด 
หรือทาน เม็ด ตอนเช้าตอนท้องว่าง และ เม็ด ก่อนนอน
แนะนำให้ทานตอนท้องว่าง หรือตอนก่อนนอน โดยทานกับน้ำอุ่น
 หรือ แบบเร่ง ทานวันละ 2 เม็ด เช้าและก่อนนอน ใน 7 วันแรก


รีวิวนี้คือผลจากการทดลองทานนะค่ะ 
คือ รีวิวนี้ไม่ได้บอกว่าสินค้าตัวนี้ดีแล้วไปซื้อเถอะ 
แต่คือจะบอกว่า มันปลอดภัยค่ะ ดาวทานได้โดยไม่มีอันตรายซึ่งทุกคนสามารถลองได้
แต่ขอย้ำให้ดูส่วนประกอบนะค่ะว่าแพ้อะไรหรือเปล่าก่อนเลือกซื้อ
ที่สำคัญการที่มีมีผิวหน้าดีขึ้นนั้น ก็ต้องประกอบกันทานอาหารครบ 5 หมู่และหมั่นออกกำลังกายด้วยนะค่ะ มันจะได้เสริมซึ่งกันและกันด้วย


 การเลือกใช้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนเนาะ
แล้วก็ผลลัพท์อาจจะขึ้นอยู๋กับแต่ละบุคคลด้วยนะค่ะ บางคนอาจจะทานบางตัวเห็นผล บางตัวไม่เห็นผลเพราะไม่ถูกกันก็มีซึ่งก็ต้องเลือกดูเอา
นอกจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับพื้นผิวเดิมของแต่ละคนด้วย 
สำหรับวันนี้ไปก่อนแล้วค่า

ข้อมูลเพิ่มเติม 
line: sowhitegluta

ig: sowhitegluta

fb: sowhitegluta 



บ้ายบายค่า

Review เทียบแป้ง 3 รุ่น ที่เคยได้ลองใช้ในแต่ละ gen ตั้งแต่ระดับมัธยมจนถึงมหาลัย มีอะไรบ้างมาดูกัน

สวัสดีค่ะ ดุจดาวเองค่ะ 
วันนี้ว่างๆเลยจะมารีวิวแป้งให้ดูตั้งแต่สมัยยังสก๊อยอยู่จนถึงช่วงวัยปัจจุบันว่าดาวใช้อะไรมาบ้าง
ตามหัวข้อที่บอกว่าในแต่ละ generation นั่นก็คือ  
สมัยเด็ก(มัธยมปลาย) ถึงสมัยปัจจุบัน(ช่วงมหาลัยถึงตอนเรียนจบแล้ว) ก็ประมาณนี้แหละค่ะ 
ยังไม่ใช้คำว่าโตแล้วกันเนาะ เพราะยังไม่ได้อายุเยอะขนาดนั้น (เข้าข้างตัวเอง 55)

เกณฑ์การให้คะแนวันนี้ 
กลิ่นหอม
ปกปิด
ควบคุมความมัน
ติดทนนาน
ราคา 

ส่วนรูปที่ใช้ในกระทู้นี้เป็นการถ่ายใหม่ตอนปัจจุบันเพื่อให้เห็นเนื้อแป้งนะคะว่ามันปกปิดมั้ย
ส่วนรายละเอียดในการใช้อื่นๆขอให้อ่านจากประสบการณ์ดังด้านล่างนะคะ 

มาดูกันเลยดีกว่า 
ตัวแรกค่ะ Etude Secret Beam Powder Pact #2
แป้งตลับม่วง พลาสติก เนื้อมุก
ลายฟรุ้งฟริ้งเจ้าหญิง


ตัวนี้เป็นเครื่องสำอางยี่ห้อแรกนะที่ใช้ในชีวิต ตอนนั้นสมัย ม.5 จำได้ว่า นั่งอยู่ในหองเรียน เพื่อนเอาแคตตาล๊อคมาให้ดู คือมีคนจะไปเกาหลีแล้วก็ต้องฝากซื้อ ประมาณนั้น ไอ้เราก็ไม่รู้เรื่องเอาตามๆเพื่อน ตอนนั้นเหมือนเริ่มอยากจะสวย อยากจะใช้เครื่องสำอางละ ก็เลยสั่งไป แล้วก็ได้มาลองใช้จนทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่นะค่ะ แต่อาจจะไม่บ่อย เพราะพอโตขึ้นเราก็ได้ลองอะไรใหม่ๆมากขึ้น


ให้คะแนนดังนี้ 
กลิ่นหอม 3/5 แป้งมีกลิ่นค่ะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกหอมขนาดนั้น
ปกปิด 2/5 
ควบคุมความมัน 3/5 
ติดทนนาน 2/5
ราคา ประมาณ 700 ไม่เกินนี้ ถือว่าราคาสูงสำหรับอายุช่วงมัธยมปลายสมัยนั้น



อธิบายเพิ่มเติม 
แป้งเป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งดังนั้นมันจึงไม่ค่อยปกปิดค่ะมันจะเหมือนแค่ทาให้รู้ว่าทาแป้งนะ และจะเหมาะสำหรับคนที่มีผิวหน้าดีอยู่แล้ว เหมาะกับเด็กวัยแรกที่กำลังใช้เครื่องสำอาง ส่วนใหญ่จะมีผิวหน้าที่ดีอยู่แล้ว ก็จะทำให้ใช้ดีค่ะ เพราะยังไม่ต้องปกปิดอะไรมาก แต่สำหรับดาวปัจจุบันตอนนี้มันอาจจะไม่ตอบโจทย์เพราะรอยสิวมันเยอะมาก ตอนนี้เลยรู้ว่าแป้งตัวนี้มันให้การปกปิดที่บางเบามากๆจริงๆ เพราะแป้งไม่ปิดรอยดำรอยแดงเลย


ส่วนเฉดสีนางก็ยังคงขาวอยู่แม้นี่จะใช้เบอร์ 2  คือทาแล้วมันยังไม่กลืนไปกับผิว ยิ่งเวลาเหงื่ออกมันจะยิ่งดูลอยๆไม่กลืนไปกับผิว แต่สิ่งที่ดีคือ นางควบคุมความมันได้ในระดับนึงนะค่ะ ส่วนเรื่องการติดทนนานอย่างที่บอกว่านางไม่ได้ผสมรองพื้น นางก็จะเลือนหายไปตามกาลเวลา เติมใหม่ก็จะเป็นคราบเล็กน้อย


 ส่วนตัวเนื้อแป้งมีวิ้งๆด้วยค่ะดังนั้นนางจะไม่เป็นธรรมชาติแต่นางจะให้ความผ่องเด้งค่ะ ใช้ทัชอัพในส่วนที่อยากให้กระจายแสง อยากให้หน้าไบร์ทๆ หรือใช้เป็นไฮไลท์ และเนื้อแป้งมีความละเอียดพอตัว แต่เวลาใช้แปรงวนแล้วไม่ออกเป็นผงเท่าไหร่ อาจะจะเป็นเพราะไม่ได้ผสมรองพื้นเลยมีความกระด้างอยู่นิดหน่อย (มันจะไม่นุ่มเหมือนพวกแป้งผสมรองพื้น)

สรุปคือ บางเบา ไม่ปกปิด คุมมันและหน้าผ่อง



ส่วนตัวต่อไปค่ะ
Laura mercierตลับม่วงเข้มค่อนไปทางดำ
แพคเกจสี่เหลี่ยมเฉยๆ เรียบๆ แต่ไม่หรู


พอเริ่มโตแล้วก็จะหาอะไรใหม่ๆมากขึ้น ได้ทดลองจากเพื่อนๆบ้าง นั่งเม้ามอยกันว่าอะไรดีไม่ดี 
พอได้ลองใช้ของเพื่อน พอมันใช้ดีก็อยากได้ก็ซื้อตาม
จนได้ลองใช้ Laura Mercier เค้าว่าแป้งเทพแต่ราคาสูงเอาการอยู่คะ
 ตอนนั้นก็คิดว่าลองดู แต่พอใช้หมดไป 1 ตลับ อยากใช้ต่อนะคะจะซื้อแต่ละครั้งก็ทำใจนานอยู่ เพราะราคา 1500 up ต่อตลับเลยนะ ตอนนี้ทำงานแล้วเลยซื้อได้แบบสบายใจหน่อย
ตอนนี้ดาวใช้Laura Mercier Foundation Powder เบอร์#2

ให้คะแนนดังนี้ 
กลิ่นหอม 2/5 ให้น้อยเพราะเหมือนไม่มีกลิ่น
แต่ดมดีๆจะเหมือนกลิ่นเครื่องเขียน ไม่ได้เหม็นแต่ไม่ได้หอม
ปกปิด 3/5 
ควบคุมความมัน 4/5 
ติดทนนาน 4/5



อธิบายเพิ่มเติม 
ตัวแป้งมีความละเอียดและเป็นผงมากถ้าใช้แปรงปัด เหมือนมันเหมาะกับการใช้ฟองน้ำในการทามากกว่า ซึ่งฟองน้ำที่ให้มานั้นถือว่าเหมาะกัน เนื่องจาก มันเป็นฟองน้ำที่มีรู้ขนาดใหญ่ กินแป้งแล้วมาทาที่หน้าได้พอเหมาะพอดีแบบ ไม่หนาด้วย


แป้งตัวนี้ให้การปกปิดรอยสิวดาวได้ (ไม่ลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์)รอยเล็กๆหายหมดแต่ถือว่าปกปิดในระดับนึงคือเพราะว่ามันผสมรองพื้นด้วยแหละ มันเลยให่้ลุคการปกปิดที่ดีกว่าตัวเมื่อกี้
สามารถทำได้ทั้งเปียกและแห้งโดยทีเราไม่ต้องทารองพื้นก่อนก็ได้หน้าก็ยังเนียน
และลุคที่ได้คือ บางเบา มีความเป็นธรรมชาติ



สีแป้งอันเดอร์โทนเหลืองสีเหมาะกับหน้า พอทาไปแล้วมันจะกลืนและเนียนไปกับหน้า มีเหงื่อก็ไม่วอกนะแต่ยิ่งกลืนยิ่งเนียนยิ่งผ่อง
ควบคุมความมันได้ดี เวลาผ่านไปมันกลายเป็นหน้าเงาๆ ไม่ได้ดูมัน ส่วนความติดทน ก็ติดทนพอสมควรคือ แต่งหน้าตั้งแต่เช้าถึงกลางวันในห้องแอร์หน้าก็ยังดูเนียนๆ อยู่
ส่วนเรื่องการทาทับลงไปไม่เป็นคราบนะค่ะลองตอนเหงื่อโชกๆแล้วทาทับลงไปยังดีอยู่
สรุป  บางเบาแต่ปกปิด เเป้งเนื้อแมท คุมมัน

ตัวสุดท้าย
Bisou Bisous ตลับส้ม แพคเกจตลับลายดอกไม้สีส้ม มีที่ห้อยฟรุ้งฟริ้ง ผู้หญิงสุดๆ


Bisous Bisous Brightening Foundation Powder  Collagen, Vitamin C #2
เคยได้ลองใช้อยู่ครั้งนึงแล้วแล้วรู้สึกว่ามันเนียนดีแฮะ เลยไปตามหา
ตัวนี้ใช้สลับกับ Laura  เพราะราคาพอรับได้ ราคาอยู่ที่ตลับละ 985 
ชอบที่มันบางเบา ใช้กับวันที่ไม่หนักมาก เป็น Everyday ได้ 
ตัวนี้สูตรเค้าจะเน้นเรื่องความกระจ่างใสของหน้าด้วย เพราะดูจากที่เค้าใส่ คอลลาเจนกับวิตามันซีมาให้

มาดูก่อนนะว่าให้คะแนนเท่าไหร่
ให้คะแนนดังนี้ 
กลิ่นหอม 3/5 กลิ่นหอมบางๆ 
ปกปิด 4/5 
ควบคุมความมัน 3/5
ติดทนนาน 4/5




แป้งผสมรองพื้นเนื้อแมทเนียนนุ่มและเนื้อละเอียดเป็นผงๆ กว่าทั้ง 2 รุ่นด้านบน
ดาวใช้เบอร์1 ไม่ได้ ดาวไม่ขาว ทาแล้วหน้าวอก เบอร์สองจะ อันเดอร์โทนเหลืองพอดี


ส่วนคุณภาพแป้งตัวนี้เหมือนเป็นตัวกลางระหว่าง สองตัวบนอะ ราคาก็กลางๆระหว่างสองตัวบนด้วย
 คือไม่ลำบากกระเป๋าสตางค์มากและคุณภาพโอเค 
โอเคที่นี้คือ ทาแล้วให้ความเป็นธรรมชาติอยู่ รู้สึกบางเบาต่อผิวหน้า ไม่หนักหนา 
ส่วนการปกปิดทำได้ดีค่ะ ถือว่าเป็นจุดเด่นของตัวนี้
 รอยเล็กๆสามารถหายไปได้เลยแม้ไม่ทารองพื้นกับคอนซีล  สำหรับคนมีรอยเยอะไม่แนะนำให้ทาเดี่ยวๆ


เนื้อบางเบา ทาแล้วเนียน ดูสว่างไบรท์ๆขึ้น เนื้อแป้งติดทนนะ แต่การคุมมันทำได้ปานกลางเท่านั้น หน้ามันต้องซับ เช่น สมมุติทาตอนเช้าพอเทียงหน้าจะมัน ดังนั้นสำหรับคนหน้ามันมากไม่แนะนำ  แต่พอทาทับไม่เป็นคราบคะ 
สรุป บางเบาธรรมชาติ เนียน ปกปิด


จบแล้วค่ะ สำหรับรีวิวแป้งที่เคยได้ลองใช้ในแต่ช่วงชีวิต 
จริงๆมีเคยใช้อันอื่นด้วยแต่ก็ได้รีวิวผ่านการทำฮาวทูไปบ้างแล้ละ 
แต่เจ้า 3 ตัวนี้มันไม่ค่อยได้ออกสื่อเท่าใดนัก เลยอยากจะมอบประสบการณ์ให้ผู้อื่นได้ทราบผ่านการรีวิวนี้เนาะ 
แต่พึงระลึกนะค่ะว่า สภาพผิวของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป 
ใครที่ใช้แล้วอาจจะไม่เหมือนในรีวิวก็ไม่ต้องบอกว่าดาวไม่จริง ดาวโม้งี้555
อย่าลืมว่าการใช้มันก็แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลเนาะ 
อยากมาแชร์ให้ดูกัน เพราะคิดว่ามันคงจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่เลือกซื้อแป้งอยู่นะค่ะ
ส่วนใครที่ใช้อยู่แล้วก็มาแชร์กันได้นะค่ะ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
สำหรับวันนี้ บ้ายบายค๊าา