วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Review Supermom Professional Concealer Palette & Contouring+Hilighting Kit หน้าเรียวดั่งใจคิดด้วยเซทเครื่องสำอางค์เหล่านี้!


สวัสดีค่า มาแล้ว 
หลายคนอาจจะสงสัยว่า รูปบนนี้มันตัวไรเนี๊ยะ
ขอบอกเลยว่า  วันนี้จะมาคอนทัวร์ ทำหน้าเรียวสักหน่อย
คือมันเหมือนตัวประหลาดเพราะยังไม่เสร็จสมบูรณ์นั่นเอง
ดังนั้น เพื่อความสมบูรณ์ โปรดติดตามต่อด้านล่างเลยค่ะ



วันนี้จะมาหน้าเรียวด้วยการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ค่ะ นั่นก็คือ 
Concealer Palette และ Contour & Hilighting จาก Supermom Thailand 
หลายคนอาจจะยังไม่ชินกับผลิตภัณฑ์คอนซีลเลอร์ กับคอนทัวร์ที่ทางแบรนด์ออกมาใหม่ แต่ถ้าพูดถึง
ฟองน้ำลงรองพื้น Supermom หลายๆคนคงต้องร้อง อ๋อ แน่ๆ 
ซึ่งวันนี้ดาวจะใข้คู่กันค่ะ ทั้งตัวเชดดิ้งหน้า แล้วก็ ตัวฟองน้ำ
ใช้คู่กันแล้วโอเคมากๆ
เพราะอย่างที่ดาวเคยรีวิวฟองน้ำไป  ดาวชอบใช้ฟองน้ำมาก เพราะว่ามันสุดจะเนียน
ยิ่งใช้กับการทำเชดดิ้งยิ่งเพอร์เฟคค่ะ



รีวิวให้ดูกันหน่อย
ตัวแรกคือ Concealer palette เนื้อครีม ที่มีทั้งหมดด้วยกัน  10 เฉดสี
แต่จะสังเกตได้ว่า มันจะมี โทนนั่นก็คือ
 โทนเหลือง ที่อยู่ด้านบน  กับโทนชมพูอยู่แถวล่าง
เพราะฉะนั้นสีทั้งสองแถว แม้ว่าจะไล่สีจากอ่อนไปเข้ม แต่ด้วยเนื่องจากมันคนละโทนผิว ดังนั้น สีไล่จากอ่อนไปเข้มของทั้งสองแถวนั้น จะมีสีที่แตกต่างกัน

ส่วนสีที่ได้นั้นก็ตามสีจากหลุมเลย ส่วนพิกเม้นไม่ค่อยเข้มมาก ต้องทาหลายๆ ครั้งสีถึงจะชัด
ถ้ามองเป็นข้อดีก็คือ play safe ค่ะ ทาแล้วไม่อันตราย หน้าไม่ดำเป็นถ่าน
ซึ่งดูจะใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่หัดคอนทัวร์ 
ตอนทาค่อยๆ เพิ่มเลเยอร์ทีละนิด จะได้ไม่พลาดแล้วหน้าดำเหมือนถ่านนั่นเอง
กลิ่น – ไม่มีกลิ่น
ติดทน – ติดตั้งแต่เช้าถึงเย็นค่ะ 


ซึ่งเจ้าตัวนี้ก็มีทั้งข้อดีข้อเสียที่เหมือนเป็นดาบสองคม
ซึ่งก็แล้วแต่คนจะชอบ คือ

ข้อเสียคือ
สียังไม่ชัดมาก ต้องทาประมาณ 2-3 รอบ 
แพคเกจใหญ่ พกยาก กลัวแตก เพราะฉนั้นสำหรับดาวมันจะอยู่ประจำการที่บ้านมากกว่า

ข้อดีคือ
ค่อยๆเพิ่มได้ทีละเลเยอร์ จนกว่าจะพอใจ ควบคุมได้ง่าย
แพคเกตใหญ่ แต่ดูโปรเฟสชันเนล


วิธีทาของดาวก็คือ หลังจากทารองพื้นเสร็จแล้วนั้น
ดาวเลือกทาเฉดชมพู บริเวณใต้ตาก่อน เพื่อให้มันกลบรอยใต้ตาดำ
การทาเฉดชมพูใต้ตาจะพรางได้ดีกว่าการนำเฉดสีเหลือมาทาบริเวณใต้ตา
เพราะแม่สีมันตัดกัน ทำให้สีชมพูกลมกลืนกว่าสีเหลือง
ถ้าเอาสีเหลืงมาทาตาจะดูลอยๆ
(ทฤษฎีสีตัดกัน)

ส่วนเฉดสีเข้ม ดาวใช้โทนสีเหลืองทาบริเวณกรอบหน้าค่ะ
หลังจากนั้นก็ใช้ฟองน้ำที่ชุบน้ำหมาดๆแล้ว เบลนด์ทุกสิ่งอย่างให้เข้ากัน
เริ่มจากการเบลนด์สีสว่างก่กอนสีเข้ม
เพราะถ้าทาสีเข้มแล้ว ไปโดนดสีสว่างหน้าอาจจะหมองไปทั้งหน้าเลยก็เป็นได้นะจ๊ะ



เมื่อลงตัวคอนซีลเลอร์แล้วนั้นก็ตามด้วยแป้งฝุ่นทับ
หลังจากนั้นก็ตามด้วยตัวนี้
นั้นก็คือ Contouring + Hilighting Kit
ชุดคอนทัวร์หน้าครบทุกเฉด
ตั้งแต่สีขาว สีเหลือง สีเนื้อ สีชมพูอ่อน
เรียกได้ว่า มีตลับเดียวครบเลยแหละ
สามารถใช้ได้ทุกสีผิวทุกโทน
ก็ทาลงไปตามปกติ บริเวณกรอบหน้าฝาก โหนกแก้ม แก้ม และคาง รวมถึงสันจมูกด้วย
เพื่อให้หน้าแลดูมีมิตินั่นเอง


มาดูดีกว่าว่าถ้าใช้ทั้งสองอย่างแล้วผลมันออกมาเป็นอย่างไร 





ดาวทำรูปไว้ให้ดูด้วยนะค่ะ ว่าดาวทาอย่างไร
เริ่มจากการทาคอนซีลเลอร์ของ Supermom
ดูว่าช่วงไหนควรทาสีสว่างหรือไฮไลต์ กับ ส่วนไหนควรทาสีเข้มหรือคอนทัวร์
ซึ่งขอยืมรูปกราฟฟิคจากกูเกิ้ลเป็นแบบ เพื่อให้เห็นได้ชัดเจนขึ้นว่าควรทำตรงไหน

ดาวทาที่คางด้วยเพราะดาวเป็นคนคางตัด
พอทาแล้วจะทำให้คางเราดูเรียวขึ้นค่ะ 

ไปดูรีวิว BEFORE – AFTER ที่ดาวทำไว้ด้านล่างได้เลยค่ะ


คือไม่ต้องตั้งใจว่าเราจะต้องทาตามแบบเป๊ะๆ 
คือทาไปแบบเละๆก็ได้เพราะเราต้องเบลนมันอยู่แล้ว 
แค่ทาให้เป็นไปตามกรอบรูปก็พอ


เบลนด์โดยใช้ฟองน้ำของ Supermom  (Supermom Sponge) ของทางแบรนด์นี้เช่นกัน
เป็นฟองน้ำขนาดเล็กแต่แน่น และเจ๋งเมื่อได้ลองใช้งานค่ะ
ความเล็กของมันจะซอกซอนเข้าไปในส่วนที่แคบๆได้อย่างดีเลยแหละ
ส่วนคุณภาพก็ถือว่าดี เพราะฟองน้ำนี่แน่น ทำให้ไม่กินเนื้อครีมค่ะ 

อย่างที่บอก ว่าแนะนำให้ชุบน้ำหมาดๆก่อนใช้ 
พอใช้เสร็จแล้วแนะนำให้ล้าง แล้วตากไว้อีกรอบ 
ใช้ครั้งต่อไปจะได้สะอาดและไม่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรีย
ไม่งั้นสิวจะถามหาเอาได้นะค่ะ

ฟองน้ำนี้มีกล่องใสมาให้เราเก็บได้เป็นที่เป็นทาง 
และไม่ปะปนกับเครื่องสำอางอื่นๆที่จะทำให้สกปรกค่ะ



ก่อนทา - ระหว่างทา-และหลังการใช้แบบ Finished ค่ะ
สำหรับดาว เวลาถ่ายรูปหน้าจะดูมีมิติขึ้นและเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ
จบแล้วสำหรับรีวิวการคอนทัวร์และเชดดิ้งหน้าของดาวนะค่ะ
เพื่อนๆหลายคนอาจจะยังไม่กล้าทำ แต่ลองเอาไปทำดูก็ได้นะค่ะ
การเชดดิ้งหน้าด้วยเนื้อครีมมันไม่ยากอย่างที่คิด
แม้ว่าจะเสียเวลาหน่อยในขั้นตอนการเตรียมหน้า แต่ขอบอกเลยว่า เมื่อทำแล้วโครงหน้าเราจะเป๊ะแบบธรรมชาติสุดๆเลยนะค่ะ แล้วมันทำให้ถ่ายรูปขึ้นสุดๆด้วยเช่นกัน
ยังไงขอฝากไว้เพียงแต่เท่านี้ก่อนนะค่ะ  ไว้เจอกันกระทู้หน้าอีก
สำหรับวันนี้ไปก่อนแล้วจ้า บายจ้า


ใครสนใจเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่
https://www.facebook.com/Supermomsponge
IG : supermomthailand 


#dujdowmakeup

Like dujdowFanpage on Facebook.
Follow @darudow on Instagram.
For questions, product reviews, advertisements and partnership, email me at dow.swnchot@gmail.com

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Review เครื่องสำอางแบรนด์คนไทย ภูมิใจนำเสนอ Paponk Makeup


สวัสดีจ้าา วันนี้ดาวมาแนะนำเครื่องสำอางแบรนด์ไทยน้องใหม่ มาแรง
PAPONK MAKEUP  อ่านว่า ปาป๊อง
เป็นเครื่องสำอางคนไทย ที่เอาไปอวดอินเตอร์ได้ เย่!
แหม่ เห็นแค่แพคเกจก็อยากจะโกยแล้ว 
ส่วนคุณภาพจะเป็นอย่างไร ต้องมาติดตามดูกันจ้ะ


มาเริมกันที่แป้ง
ตัวนี้เป็นแป้งผสมรองพื้นนะค่ะ
Paponk skintone foundation powder

ตัวนี้ดาวใช้เบอร์  Y-02 เป็นสีแป้งที่ค่อนไปทางสีเหลืองเหมาะกับคนเอเชียได้อย่างชัดเจนมาก
ส่วนเรื่องปกปิดทำได้ดีค่ะ ตบแป้งอย่างเดียวไม่ทารองพื้นก็ยังได้
อารมณ์ว่าปกปิด หนาระดับกลางค่ะ ไม่หนาเตอะ 
ดาวใช้แปรงปัดแป้งเอา เพราะไม่ชอบลุค Finish ขนาดหน้าไม่มีรูขุมขนเลย (ซึ่งแป้งตัวนี้มันให้ความละเอียดแบบเนียนกริ้ปเลยแหละ)
แบบหนาๆนั้นจะเอาไว้ทาออกงานค่ะ
ส่วนทาทุกวันจะชอบใช้แบบแปรงปัดแป้งเอาไม่ให้หน้ามันดีกว่า



เนื้อแป้งเนียนละเอียดมากๆ 
ทาแล้วลื่นปี้ดๆเลย แล้วก็เกลี่ยง่ายด้วย 
ส่วนตอนใช้แปรงไปวนๆ เนื้อแป้งก็ออกมาเป็นผงๆเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันละเอียดมาก

ส่วนเรื่องความติดทนนั้น เนื่องจากเป็นคนหน้ามัน จึงเติมไป 1 ครั้ง / วัน 
แต่ถามว่ามันสามารถอยู่ได้เช้า-เย็นมั้ย มันโอเคมั้ย ต้องบอกว่ามันค่อนข้างทำได้ดี
แต่หักหน่อย ตรงที่สีมันเหลืองไปนี่แหละ



ตัวต่อมา Eyeshadow จ้ะ
Paponk First Time Eyeshadow Palette 
ตัวนี่มีชื่อว่า Flirt Time 
เป็นโทนสีเบสิคมากๆ ทอง-น้ำตาล-ดำ
แต่.... พาเล็ตต์นี้คือชิมเมอร์ล้วนๆ ไม่มีเนื้อแมทเลย 
เพราะฉนั้น ถ้าใครชอบแมทอาจจะต้องใช้สีจากชิ้นอื่นทาประกอบด้วย
เพราะ เมื่อเอามาผสมกันแล้วมันจะสวยมากๆๆๆๆ

ตาเราจะดูเป็นประกาย เหลือบๆ ยิ่งสีทองยิ่งสวยมากเลยแหละ
ซึ่งเค้าใช้ชิมเมอร์ละเอียด ที่สำคัญ พิกเม้นคือแน่นแบบไม่มีที่จะแทรกแล้ว 
ที่ตลับสีไหน ทาออกมาก็สีนั้นเลยอย่างไงอย่างงั้นแหละ!
ไม่ได้โม้เลยนะดูสิ..


มาดูกันที่ตัวต่อไป 
Paponk 24/7 Lids Wonder Stick eyeshadow
อายแชโดว์เนื้อครีมในรูปแบบแท่งนี้หล่ะ
เห็นอย่างนี้นะ สีนี่เหมือนที่แท่งเด๊ะๆเลยแหละ พิกเม้นมาเต็มอีกแล้ว ทาสีไหนได้สีนั้นเลย
โดยเฉพาะเขียวขี้ม้า สี Brave เนี่ย คือแบบบสีสวยโฮก 
ทาแล้วน่าจะดูลึกลับน่าค้นหามากๆ คือชอบสุดๆ

ส่วนตัวพอทาเจ้าตัวนี้ไปแล้วก็ทาอายแชโดว์แบบฝุ่นทับลงไปอีกที 
กันมันผสมความมันบนเปลือกตาแล้วหลุดร่อนจ้า


มาที่ตัวต่อไป
Paponk The Eyester's Pencil
อายไลน์เนอร์ เนื้อครีมรูปแบบแท่ง 
เวลาใช้หมดแล้วต้องใช้กบเหลาเอา

ซึ่งขอบอกว่าเนื้อนี่นุ่มโฮกกกก ไม่มีบาดตาเลย
แถมพิกเม้นคือชัดเกินระดับ 10
โดยเฉพาะสีดำ คือดำแบบดำสะใจไปเลย 
นี่ถ้าให้เปรียบก็เปรียบกับ Urban Decay สี Perversion ได้อย่างสบายๆเลยนะ 
แถมราคาถูกกว่ากันเยอะเลย 
แต่.... มันเป็นสีดำที่มีกากเพชรอะ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบ
โดยส่วนตัวก็ไม่ชอบ แต่มันใช้ได้นะ โอเคเลยพอทาไปแล้วไม่ค่อยเห็นกากเพชร
เหมือนมันดำสนิทจนลืมกากเพชรของมันไปเลย

ดังนั้นมันจะเปรียบได้กับสี Oil Slick ของ Urban Decay จ้า
ส่วนคุณภาพก็เท่ากันเลยอะ แต่ของ paponk สบายกระเป๋ากว่าเยอะเลยยยย!!

ส่วนสีขาวที่เห็นในรูป มันจะออกขาวเนื้อมุก ทาหัวตาแล้วจะนวลๆ ทำให้หัวตาดูสว่างขึ้นค่ะ
ที่สำคัญ รุ่นนี้กันน้ำแบบไม่เขยื้อน ไม่โม้นะ  แบบว่าลองเอาไปถูมันก็ไม่หลุด 
นี่ก็แอบตกใจ อะไรจะติดทนขนาดนั้น

ส่วนพิกเม้นแน่นจนไม่มีที่จะเบียดแล้ว! เอาใจไปเลย 

มาถึงลิปสติกละ 
ตัวนี้เป็นลิปวิป ชื่อว่า
Paponk The Laugher's Whip Lip
จะเป็นเนื้อครีมข้นที่พิกเม้นแน่นมาก
ขวดสีนี้ พอทาออกมาก็เป็นสีนี้แหละตามนั้นเลย 

สามารถเกลี่ยทาที่แก้มได้เนื้องจากมันเป็นเนื้อครีม
เพราะฉนั้นมันจึงเป็น 2in1 ได้ด้วยแหละ 
แต่คำเตือนคือ ควรใช้ในปริมาณที่น้อยมากๆ เพราะเนื่องจากแบรนด์นี้พิกเม้นแน่นจริง 
ใช้แค่นิดเดียวก็ติดชัดแล้ว ถ้าใช้เยอะมากแก้มจะเป็นตูดลิงเอาได่นะ

ลิปสีแซ่บมากเว่อร์ๆเลย
ทาแล้วดูสดใสซาบซ่า


มาที่ตัวสุดท้าย
Paponk The Laughter's Super Lip Cream
เป็นเนื้อครีมอ่อน ไม่ได้กลบสีปากมากมาย แต่พิกเม้นแน่นเหมือนเคย
 สีที่ได้มานั้นค่อนข้างไปทางโทนธรรมชาติ สามารถทาได้ทุกวัน
ได้แก่ สีสมพูอ่อน  สีส้มอ่อน 
ลิปตัวนี้ติดทนไม่มาก เพราะมันจะเน้นใสๆมากกว่า 
ถ้าอยากได้ติดทนต้องรุ่นวิปเลยจ้า
ส่วนที่เด่นชัดตัวนี้คือ สีสวยธรรมช๊าตตต ธรรมชาติดีแท้เลยหล่ะ



เอาละ หมดแล้ว อาจจะยาวไปสักหน่อย แต่ขอพูดอีกนิดนึงว่า
 Paponk นี่มองเผินๆที่หลายคนคง งง ว่าอ่าว นี่ของไทยเหรอ?

คือใช่แล้วค่ะ แล้วก็ยินดีที่จะนำเสนอและสนับสนุนแบรนด์ดีๆของไทยด้วย เย่ๆ 


เคยนั่งคิดอยู่ว่าไทยเรานี่น่าจะมีแบรนด์ที่สามารถซื้อเป็นของฝากได้สำหรับสาวๆที่มาเที่ยวประเทศไทยและหลงไหลในเครื่องสำอาง
ยกตัวอย่างเช่น เราไปเกาหลีก็จะซื้อ Etude skinfood Stylenanda etc. ไปอังกฤษก็จะซื้อ ฺBarryM งี้

คือว่าไม่ได้นะ Paponk เป็นแบรนด์ที่ดาวอยากแนะนำและจัดให้อยู่ในพวกทำนองนี้เดียวกันเหมือนกัน

 อย่างน้อยเวลานึกขึ้นได้ว่ามันมาจากไหนก็จะนึกขึ้นได้ว่า อ่อ ซื้อมาที่ประเทศไทยเรานี่แหละ!

ฮี่ๆ ภูมิใจอะ 



ส่วนตัวผลิตภัณฑ์ขอสรุปโดยรวมตรงนี้ว่าก็ไม่ใช่เล่นๆเลยนะจ๊ะ 

พิกเม้นแน่น ติดทนกันน้ำ คุณภาพดีจัดว่าไฮเลยทีเดียว 
พูดอย่างนี้อาจจะไม่เชื่อ ลองเองเลยดีกว่านะค่ะ 
สำหรับวันนี้ไปก่อนแล้วจ้าา เจอกันใหม่กระทู้หน้า

บายบ้ายคะ


วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Review Beauté Classique 3D Eyebrow Sculpture วาดคิ้วสวยราวกับสักคิ้วด้วยตัวเอง


สวีดัด สวัสดีค่ะ ดาวดุจดาวมาแล้ว พร้อมรีวิวดินสอเขียนคิ้วชิ้นเด็ดที่น่าลองมากๆเลย 
หลังจากที่ดาวได้ลองมาเองกับตัวแล้วพบว่า มันควรค่าแก่การนำมาบอกต่อ
นั่นก็คือ .......Beauté Classique 3D Eyebrow Sculpture  นั่นเอง



รักแรกพบกับดินสอเขียนคิ้วตัวใหม่นี้
แรกพบสบตาที่ได้เห็นเจ้าตัวนี้ไม่เหมือนดินสอเขียนคิ้วเลย
ออกแนวปากกาเมจิกสะมากกว่า เป็นปากกาหัวตัด ในรูปแบบน้ำ
ดูเผิญๆ นี่มันปากกาเมจิกชัดๆ
แต่ไม่สิ ดึงสติอีกที เห้ย นี่ไม่สิ มันคือดินสอเขียนคิ้วนี่หว่า




Beauté Classique 3D Eyebrow Sculpture สร้างคิ้วให้สวยได้รูปและติดทนนานตลอดวัน
เสมือนการสักคิ้วถาวรอะๆ ลองเทสดูหน่อย
เค้ามีให้เลือกอยู่ด้วยกัน เฉดสีธรรมชาติ สีนะค่ะ นั่นก็คือ สีอ่อน (Light Brown)กับสีเข้ม (Dark Brown)
สีเข้มจะเข้มพอสมควร เข้มแบบคิ้วคม  
ส่วนสีอ่อน เมื่อตอนทาเหมือนจะสีแดง แต่พอแห้งแล้วสีจะไปทางคนผมทองนิดนึง

ส่วนตัวดาวใช้สีอ่อนค่ะ 

ส่วนตัวเนื้อผลิตภัณฑ์นั้น
สูตร water-based & tinted with dyes เป็นน้ำ เขียนง่าย สีชัดคมทันที ไม่แข็งกระด้าง ไม่จับตัวเป็นก้อนแต่ต้องระวังการควบคุมมือให้ดี อาจจะยากหน่อยสำหรับคนใช้ช่วงแรกๆ เพราะน้ำหนักมือในการควบคุมการเขียนมันต่างกับแบบดินสอ แบบน้ำนี้แนะนำให้เขียนอย่างเบามือ ซึ่งพอใช้จนชินมือแล้วจะพบว่ามันเขียนง่ายมากๆ

แต่สำหรับคนที่ยังไม่ชิน แม้ว่าจะเขียนเลอะก็สามารถรีบเช็ดออกได้ในช่วงที่มันยังไม่แห้งโดยไม่เลอะเทอะเปรอะเปื้อน
แต่อย่ารอให้ส่วนที่เลอะมันแห้งนะ เพราะมันจะติดทนอย่างดีทีเดียวเชียวแหละ
เรียกได้ว่าติดทน ให้ 9 เต็ม 10 เลย 
(เหลือไว้อีก 1 คะแนนสำหรับคนที่ใช้มันอย่างทรหดเกินไป)




ความเห็นส่วนตัวของดาวต่อผลิตภัณฑ์นี้
ดาวเป็นคนคิ้วบาง เพราะฉนั้นในการเขียนตัวนี้ มันจะทำให้คิ้วดาวจากที่ไม่มีอะไรเลย ดูคม ดูเข้มขึ้นมากๆ
ดาวชอบหัวปากกามันเป็นดินสอเขียนคิ้วหัวฟองน้ำ ปลายแท่งหัวตัด เวลาตีกรอบมันตีง่าย
นึกถึงเวลาเขียนเหมือนเราใช้เมจิกที่เป็นปากกาหัวตัดวาดที่กระดาษอะ
และผลลัพธ์ที่มันออกมาที่กระดาษเราจะเห็นได้วา เวลาที่เราใช้ปากกาหัวตัดวาดนั้น เส้นมันจะคมกริบ! เช่นเดียวกัน เวลาดาวใช้รู้สึกว่า ขอบคิ้วดาวคมกริบ
คิ้วคม เหมือนคนที่ัสักคิ้วมาเลย 
แต่คือขอโทษที นี่ใช้แค่ดินสอเขียนคิ้วเองจ้า

ที่สำคัญกว่านั้นอีก คือ ด้วยสูตรของมันที่เป็นน้ำแล้วแห้ง มันจะทำให้ติดทน
ซึ่งถามว่าเหมาะกับสภาพบ้านเรา ที่เร่าร้อนขนาดนี้มั้ย 
ขอตอบเลยว่ามากค่ะ!!!
เพราะ ร้อน เหงื่อก็ออก บางคนคิ้วเลือนระหว่างวัน 
แต่เจ้าตัวนี้คลายกังวลได้เลย เพราะอารมมันเหมือนแทตทูคิ้วด้วยอะ
โดนน้ำแล้วไม่ลอก แต่ถ้าถูถึงจะออก ประมาณนั้นค่ะ


มาดูการใช้กันบ้าง



วิธีใช้
นะนำอย่างแรกก่อนว่า ให้กันคิ้วให้ได้รูปเสียก่อนจากนั้นเขียนคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วตัวนี้ลงไปเลย 


มาดู Before After กันนะ



มาดูขั้นตอนง่ายๆ 

เริ่มจากการตีกรอบคิ้วตีกรอบล่าง ตีกรอบบน แล้วถมคิ้ว แล้วคิ้วมันจะเป๊ะมากๆ
แต่ขั้นตอนการถมคิ้วนั้น เราไม่ต้องลงน้ำหนักเท่ากันลงไปทั้งคิ้ว ไม่งั้นคิ้วเราจะปลิงค่ะให้ลงน้ำหนักหัวคิ้วอ่อน หางคิ้วเข้ม แค่นี้นะค่ะ ลองทำดู




เสร็จออกมาได้แบบนี้ค่ะ 
ดาวจะถมคิ้วแบบเว้นหัวคิ้วไว้นิดนึง มันจะได้ดูไม่ปลิงค่ะ 

เว้นไว้ก่อนนิดนึงดังรูปข้างล่างค่ะ


แค่นี้มันยังสวยไม่พอ มันยังดูสวยไม่เสร็จเท่าไหร่
จะให้สวยสมบูรณ์ เราต้องมีเทคนิดหน่อยค่ะ
เทคนิคการใช้หลังจากที่ดาวได้ลองใช้มา ก็พบทางสว่างว่า
ในการใช้ให้มันดูสวย เป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตาเหมือนคนสักคิ้วมาใหม่ๆ ที่มันจะเงาๆ แล้วคิ้วเป็นสะพานด้วยนั่นคือ... การใช้อายแชโดว์ หรือ ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น
ขอเป็นสีน้ำตาลอ่อนที่เข้ากับสีผมเราเข้าช่วยค่ะ
ขอเป็นแบบแมทด้วยนะ ให้ทาทับลงไปเบาๆ
โดยเฉพาะ หัวคิ้วเราต้องเกลี่ยให้เบาๆ เนียนๆ มันจะดูเป็นธรรมชาติมั่กๆๆๆ



เสร็จแล้ว 1 ข้าง ไปทำต่ออีกข้างได้ ทำตามสเต็ปง่ายๆ 
Step 1 เริ่มจากไม่มีอะไรเลย
Step 2 ใช้ Beauté Classique 3D Eyebrow Sculpture วาดคิ้ว
Step 3 ตามด้วย ELF eyebrow kit เอาเฉพาะแบบฝุ่นทาทับลงไป




เป็นอันเสร็จเรียบร้อย




หลังจากการใช้งานจริงดาวให้คะแนนโดยรวมคือ 9.5/10
ให้ 9 คะแนน สำหรับการใช้งานที่ติดทน กันน้ำกันเหงื่อจัดว่าระดับเหนือชั้น ไม่หลุดลบเลือน ไหลย้อย ระหว่างวันและประทับใจตรงเส้นคิ้วดูคมกริบจริงๆ
ส่วนอีก 0.5 ให้คะแนน สำหรับของใหม่ เรียกง่ายๆว่าเห่อนั่นเอง





เอาละค่ะ จบแล้วสำหรับรีวิวนี้ ดินสอเขียนคิ้วตัวใหม่ที่ดาวกำลังอินมากๆเลย 
มาพร้อมกับรูปที่เยอะมาก เพราะบ้ากล้องค่ะ 555 
ตัวนี่้ราคาน่ารักแท่งละ 395 บาทนะคะ
สามารถหาซื้อได้ที่เคาน์เตอร์  Bisous Bisous ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือ จะซื้อผ่านเว็บไซต์ก็ได้ 
แนะนำถ้าซื้อหน้าร้านตัวแทนจำหน่ายจะถูกกว่าค่ะ รวมถึงราคาโปรโมชั่นด้วยอาจจะได้ราคาน่ารักมากกว่านี้


ยังไงต้องขอขอบคุณทาง  Bisous Bisous Thailand สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ดาวได้รับมาจากการไปร่วมงานด้วยนะค่ะ 
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้านะคะ


เพิ่มเติม 
Lipstick Wet n' wild สี Rose Bud 
ขนตา Lasher.official เบอร์ P12
Contact Lens Freshlook Gray

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

แนะนำ! ฟองน้ำหน้าเนียน เพื่อผิวหน้าสวย เป๊ะ ด้วยผลิตภัณฑ์ของ CHOU




หลายๆคนที่ดูคลิปแต่งหน้าของดาวจะสังเกตได้เลยว่าดาวชอบใช้ฟองน้ำลงรองพื้น 

ดาวชอบ เพราะอะไร??
เพราะมันเนียนไปกับผิวและให้ลุคที่ดูเนียนเป็นธรรมชาติมากกว่า มือ แปรง 
วิธีการนี้คือ เนียนและบาง สุดเท่าที่เคยใช้มานะ 
ที่สำคัญคือ สบาย ไม่หนักหน้า



ต้องขอขอบคุณฟองน้ำยี่ห้อ C H OU อ่านว่า โช (คือตอนแรกดาวอ่านว่าชูมาตลอด) 
ที่ส่งฟองน้ำคุณภาพดีมาให้

สำหรับฟองน้ำของโชนั้นมีเนื้อละเอียด นุ่ม และ แน่นฝุดๆ
( ไม่แน่นแนะนำให้ปาทิ้งที่พื้น แหะๆ )



แน่นแล้วมันดียังไง ?
สำหรับดาว คิดว่า ถ้ามันแน่นแล้วมันก็จะไม่กินผลิตภัณฑ์ไง
ลองนึกตามนะว่า
ใช้ฟองน้ำที่ไม่แน่น บีบฟองน้ำแล้วนิ้วมือชนกันได้อะ หรือ มีรูเยอะๆ 
พอทาไปแล้ว แทนที่รองพื้นมันจะไปติดที่หน้า มันกลับติดอยู่ที่รูฟองน้ำแทนไง
มันก็เปลืองผลิตภัณฑ์  รองพื้นของเราก็หมดเร็ว 
เราก็ไม่โอเคปะ ร้องฮือ
นอกเหนือจากนั้นแล้ว ที่สำคัญเลย ดาวคิดว่า ยิ่งแน่น ยิ่งเนียน!
ส่วนเคล็ดลับการใช้คือ 
ให้นำฟองน้ำไปชุบน้ำก่อน พองแล้วมันจะยิ่งนุ่มขึ้นและไม่กินรองพื้นค่ะ
ตอนใช้จะรู้รึกเย็นๆหน่อยแต่รับรองว่า ผลลัพธ์ เนียนเกินคาดค่ะ

และดาวชอบฟองน้ำเพราะมันสามารถเกลี่ยได้เนียนจริงๆ 
ส่วนเรื่อง ทนทานของฟองน้ำ ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ใช้งานได้นานมากๆ 
ล้างซ้ำได้ ล้างบ่อยๆยิ่งดีจะได้ไม่สกปรก
แต่ต้องระวังเล็บขูด หรือสิ่งแหลมคม อาจจะทำให้ฟองน้ำเราเยินได้

นอกจากนั้นมันยังสามารถใช้กับ เบส บีบี แป้งฝุ่น บรัชออนได้ด้วยแหละ 
แนะนำว่าใช้กับพวกแบบเนื้อน้ำ หรือ เนื้อครีมอะจะเวิคสุดละนะจ้ะ




ส่วนครีมกันแดดของ Chou นั้น ตอนที่ไปทะเล ดาวลืมเอาครีมกันแดดทาตัวไป!!
สำหรับแดดประเทศไทยคือร้ายแรงมาก  อีกนิดนึงฆ่าคนตายได้แล้ว
แต่แล้วก็มองไปเห็นครีมกันแดดของโชนี่แหละ
เลยจัดมาทาทั้งหน้าทั้งตัว แต่ปกติมันเอาไว้ทาหน้าไง

ทาเสร็จ ก็ลั้นล้า ไม่ได้กลัวดำอะไรเลย เพราะเค้ามี spf ตั้ง 50 เราก็เลยเอามาทาตัวแก้ขัดไปด้วย
เพราะ เคยดูรีวิวในเว็บนึง แล้ว เค้าว่าเป็นครีมกันแดดคุณสมบัติขั้นเทพที่น่าลอง เพราะคุณสมบัติมันดี 
เค้าแนะนำว่ามันน่าใช้ น่าลอง ด้วยแฮะ ก็เลยทา...
แต่ดาวก็ไม่แพ้นะ โอเคผ่าน อีกสเต็ป


ของ Chou เป็นครีมกันแดดเนื้อเนื้อครีมสีขาวเนียน ละเอียด 
เป็นเนื้อครีมเบาๆ ทาแล้วรู้สึกไม่หนักหน้าเลย
เวลาทาตอนแรกจะเหมือนขาวๆ 
(เพราะเค้าบอกว่ามี Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ที่ช่วยสะท้อนรังสี UV )
เค้าเคลมว่าปราศจากน้ำมัน สูตร oil free จึงคุมมัน (ที่เค้าเน้นมากๆเลยแหละ)      
    

ความรู้สึกที่ทาไปคือ ทาแล้วมันลื่นๆ แห้งไปเลย มันซึมเข้าไปตอนไหนไม่รู้เพราะเนื้อมันเบามาก
แต่ส่วนตัวดาวเป็นคนหน้ามัน จึงมีหน้ามันบ้างนิดนึงอ่ะ

สำหรับดาวถือว่าเป็นครีมกันแดดที่สามารถทำแล้วทาแป้งทับไปได้เลย 
ใช้ในวันสบาย วันที่ไม่แต่งหน้า แต่ต้องทากันแดดนะจ้ะ ห้ามขาดเด็ดขาด ฝ้า-กระจะถามหาเอา
ตัวนี้มีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วยนะจ้ะ 

ส่วนดาวชอบตรงนี้ที่ทาแล้วหน้ามันจะกระจ่างใสขึ้นจริงๆ เป็นครีมกันแดดที่ทาแล้วหน้าไม่เทานะค่ะ 
แต่ไม่ได้ปกปิดอะไรนะ มันจะดูผ่องๆขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยตัวของมันเองอะ
ทาเสร็จแล้วครีมจะกลืนไปกับผิว แล้วทาแป้งฝุ่นทับ เป็นอันเสร็จในวันสบายๆได้เลย


 มาแนะนำเพียงเท่านี้จ้าา 

ใครสนใจสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/chouthailand 
หรือทาง Line : Chouthailand จ้า

วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Review Mameido Mask มาเมะโดะ Facial Mask มาส์กบำรุงชุ่มชื้น 5 สูตร



สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
วันนี้จะชวนมาบำรุงผิวหน้ากัน ด้วยวิธีการ MASK หน้า
โดยดาวได้รับของทางแบรนด์ Mameido (มา เมะ โดะ) ส่งมาให้ทดลองใช้
ซึ่งก็ได้ทดลองใช้แล้วก็เหมือนเดิมค่ะ  นำมาบอกเล่าเก้าสิบ
ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรนั้นต้องติดตามด้านล่างนะค่ะ


สำหรับมาส์ก มาเมะโดะนี้นั้น เป็นแผ่นมาร์กหน้านำเข้าจากไตหวันเกรดพรีเมี่ยม
มีส่วนผสมสกัดจากสารธรรมชาติบริสุทธิ์  ทั้งน้ำที่สะอาด และสารบำรุงจากธรรมชาติคุณภาพดี
ซึ่งเมื่อมาส์กเสร็จแล้วก็ไม่ต้องล้างออกเพราะสามารถทาบำรุงต่อเนื่องข้ามคืนไปได้เลย
เค้าบอกว่าจะให้ความรู้สึกสดชื่นต่อใบหน้า และช่วยฟื้นฟูคืนความอ่อนเยาว์ให้กับเซลล์ผิว

ซึ่งหลังจากที่ได้ลองแล้วนั้น ดาวลองทาข้ามคืนก็ไม่เหนียวเหนาะหนะค่ะ 
ตื่นมาตอนเช้าก็ล้างออก ตอนล้างจะรู้สึกเหมือนมีอะไรเคลือบหน้าอยู่ 
ส่วนผลลัพท์คือดาวรู้สึกว่าสบายหน้าอย่างรู้สึกได้ เพราะหน้าชุ่มชื้นขึ้น 
รู้สึกชุ่มขื้นขึ้นหลังจากใช้งานค่ะไม่รู้สึกหน้าแห้งตึงๆ เหมือนตอนก่อนใช้

และผลิตภัณฑ์เคลมว่าเป็นอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว โดยส่วนตัวดาวใช้แล้วไม่แพ้ค่ะ




มาเมะโดะ มีด้วยกันทั้งหมด 5 สูตร คือ

1.       Collagen Facial Mask เพื่อผิวเรียบเนียนรูขุมขนกระชับ ผิวนุ่มชุ่มชื้น
2.       Hyaluronic Acid Facial Mask เพื่อผิวยืดหยุ่น ผิวหน้ากระชับเต่งตึง ให้ความนุ่มและชุ่มชื้น
3.       Rejuvenation Facial Mask เพื่อผิวแลดูอ่อนเยาว์ ฟื้นฟูสภาพผิว บำรุงได้อย่างล้ำลึก
4.       White Peral Facial Mask เพื่อผิวขาวขึ้น แลดูสว่างกระจ่างใส
5.       Silk Protien Face Mask เพื่อลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูสภาพผิว ผิวเปล่งมีประกาย


มาดูส่วนประกอบหลักแต่ละสูตรกันค่ะ 


White Peral Facial Mask เพื่อผิวขาวขึ้น แลดูสว่างกระจ่างใส

มีส่วนผสมหลักของ ชะเอมเทศและวิตามินบี3 คุณสมบัติช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสอย่างเห็นได้ชัด ช่วยลดการสร้างเม็ดสีที่เรียกว่า เมลานิน ที่มีอยู่ในชันผิวหนัง 

เหมาะกับผิวแบบไหน?
-          ผิวที่มีฝ้า กระ จากรังสียูวีในแสงแดดหรือจุดด่างดำ รอยแดงจากสิว
-          ผิวหมองคล้ำต้องการการบำรุง
-          ผิวที่ต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆ


Rejuvenation Facial Mask เพื่อผิวแลดูอ่อนเยาว์ ฟื้นฟูสภาพผิว บำรุงได้อย่างล้ำลึก 
                
ด้วยสารสกัดจากลาเวนเดอร์ ซึ่งสามารถลดรอยแผลเป็นได้อย่างรวดเร็วและยังมีส่วนช่วยในการป้องกันการสูญเสียความชื้น ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ลดรอยหยาบกร้าน

เหมาะกับผิวแบบไหน?
-          ผิวหน้าแห้งเสีย ต้องการการฟื้นฟู
-          ผิวหย่อยคล้อยต้องการความกระชับและยืดหยุ่น
-          ผิวมีรอยอักเสบบนผิวหน้า



Collagen Facial Mask เพื่อผิวเรียบเนียนรูขุมขนกระชับ ผิวนุ่มชุ่มชื้น

แผ่นมาส์กหน้าคอลลาเจนช่วยป้องกันและลดการสลายคอลลาเจนของผิว โดยการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวนุ่มชุ้มชื้น ฟื้นฟูผิวให้กระชับเต่งตึง ลดริ้วรอย

เหมาะกับผิวแบบไหน?
-           ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ
-          ผิวขาดสมดุลความชุ่มชื้น
-          ผิวเสียจากการเผชิญมลภาวะ
-          ผิวที่มีรอยแผลเป็นหรือแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัด
-          ผิวเหี่ยวย่น ผิวเสื่อมสภาพก่อนวัย


 Hyaluronic Acid Facial Mask เพื่อผิวยืดหยุ่น ผิวหน้ากระชับเต่งตึง ให้ความนุ่มและชุ่มชื้น

แผ่นมาส์กหน้าไฮยาลูโรนิค มีสารอนุพันธ์จาก กรดไฮยาลูโรนิค ให้ความนุ่มชุ่มชื้น สร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว และให้ผิวหน้ากระชับ

เหมาะกับผิวแบบไหน?
-          ผิวที่แห้ง ผิวขาดน้ำ
-          ผิวที่ต้องการความชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง
-          ผิวที่เหี่ยวย่น ผิวที่มีริ้วรอยแห่งวัย


Silk Protien Face Mask เพื่อลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูสภาพผิว ผิวเปล่งมีประกาย

มีโปรตีนจากไหมที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นและทำให้ผิวเติมเต็มความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยฟื้นฟูผิวและลดขนาดรูขุมขนให้ดูเล็กลง เพื่อผิวที่เรียบเนียนและเปล่งประกาย

เหมาะกับผิวแบบไหน?
-          ผิวแห้งเสียที่ต้องการความชุ่มชื้น
-          ผิวอ่อนแอ ที่ต้องการสร้างภูมิต้านทานให้ผิวชั้นนอกแข็งแรงขึ้น
-          ผิวแพ้ง่าย ผิวอักเสบติดเชื้อ ผิวที่มีสิว
-          ผิวเสียจากการโดนรังสียูวีในแสงแดด




ตอนแรกก็เลือกอยู่นานแบบไหนดี ซึ่งความต้องการของดาวคือ ต้องการการบำรุง ให้ผิวหน้ามันชุ่มชื้นขึ้น ก็เลยเลือกสูตรที่มันเขียนว่าบำรุงฟื้นฟูไว้หลังซอง นั้นก็คือสูตร
Rejuvenation Facial Mask เพื่อผิวแลดูอ่อนเยาว์ ฟื้นฟูสภาพผิว บำรุงได้อย่างล้ำลึก นั่นเอง
ดาวใช้หลังจากอาบย้ำเสร็จก่อนนอน ไม่ได้ทาอะไรก่อนทั้งนั้นอาบเสร็จปุ๊บ ฉีกซอง แปะที่หน้าปั๊บ ให้มันไปบำรุงทันทีเลย        


แผ่นตัวมาส์กนั้นมีพลาสติกอยู่ด้วยต้องลอกออกมาด้วยความระมัดระวัง เพราะแผ่นค่อยข้างบางอยู่คะ

                                                    


หลังจากนั้นก็จับเวลา นอนรอไป 15 นาทีแล้วเอาแผ่นมาส์กหน้าออกค่ะ 
พอเอาออกแล้วไม่ต้องล้างหน้า ก็นวดๆ ให้มันซึมเพื่อไปบำรุงต่อได้เลย แล้วก็หลับไปยันเช้า สบายหน้าดีแท้




พอตื่นเช้ามาก็รู้สึกสบายผิวหน้า รู้สึกว่ามันได้รับการบำรุงบ้างอะไรบ้างก็รู้สึกดี
ส่วนตัวดาวเน้นแค่เรื่องชุ่มชื้น 
ส่วนผลลัพธ์ข้างซองนั้นอาจจะต้องใช้ระยะเวลาและการใช้ที่ถี่จึงจะเห็นผลได้ชัด 
และอย่างที่เค้าบอกถ้าจะให้เห็นผลนั้นต้องใช้ต่อเนื่องสัปดาห์ละ 2-3 แผ่นต่อสูตรค่ะ 


เหลืออีก 4 สูตรที่ดาวยังไม่ได้ลอง และจะทำการใช้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะไม่ได้แพ้อะไรค่ะ
ซึ่งสูตรต่อไปที่ดาวจะลองคือ คือ Silk Protien Face Mask เพื่อลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูสภาพผิว ผิวเปล่งมีประกาย เพราะรู้สึกว่า ผิวอ่อนแอ ที่ต้องการสร้างภูมิต้านทานให้ผิวชั้นนอกแข็งแรงขึ้น   อักเสบติดจากสิว  แล้วก็เป็นผิวที่มีสิว ซึ่งเหมาะมากๆสำหรับผิวดาวที่ควรจะต้องใช้


สำหรับวันนี้มาแนะนำเพียงเท่านี้ก่อน
สำหรับใครที่สนใจ แบรนด์ Mameido (มา เมะ โดะ)นั้น ตอนนี้รู้สึกว่ายังไม่มีขาย
แต่อาจจะเข้ามาขายที่ไทยเร็วๆนี้ น่าจะช่วงเดือนมิถุนายนนี้นะคะ
ยังไงใครสนใจก็สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/mameidofacialmask
ได้เลยค่ะ 

ยังไงต้องขอขอบคุณผลิตภัณฑ์จากทางแบรนด์ Mameido (มา เมะ โดะ)สำรหรับผลิตภัณฑ์ที่ให้มาทดลองใช้ นะค่ะ

สำหรับวันนี้ไปก่อนแล้วค๊า บะบรุยย