วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

รับคำท้าเปิดกล่อง Pantene Brush Experiment Box ทดสอบผมนุ่มใน 3 นาที

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ดาวได้รับ Pantene Brush Experiment Box จากแพนทีน ซึ่งมาพร้อมกับคำท้าให้ดาวมาทดลองผลิตภัณฑ์   Pantene 3 Minute Miracle
ที่จะช่วยฟื้นฟูผมที่เปราะบาง แห้งเสียและโดนทำร้ายจากการทำสีผมให้กลับมาดูสุขภาพดีและแข็งแรงขึันได้ค่ะ


ซึ่งเจ้า Pantene 3 Minute Miracle เข้าเคลมว่าปัญหาผมเสียของสาวๆ ไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหนก็ตาม
สามารถช่วยให้กลับมาแข็งแรงและสุขภาพดีขึ้นด้วยค่ะ
นอกจากนั้นยังมีเคลมว่าสามารถฟื้นบำรุงผมเสียสะสมนาน 3 เดือน ให้นุ่มสวยขึ้นใน 3 นาที
อย่างนี้ต้องขอพิสูจน์
            ----------------------------------------------------

เรามาดูกันว่าในกล่องที่ดาวได้มามีอะไรกันบ้างนะค่ะ เปิดกล่องมาก็จะเจอชุดทดลอง โหห เหมือนย้อนกลับไปเรียนวิชาศิลปะเลยอะ  ในกล่องก็จะมี จานสี สี Pantene 3 Minute Miracle  และพู่กันที่ขนแปรงทำมาจากเส้นผมจริงๆ ค่ะ


ซึ่งสภาพขนแปรงจากผมในภาพก่อนได้รับการบำรุง เค้าบอกว่าเป็นผมจริงที่ผ่านการทำสีจนผมเสีย
จะเห็นได้เลยว่าทั้งชี้ฟู แล้วก็ดูแห้งเสียมากค่ะ (แข็งและสากมากเลยด้วย)


งั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาเริ่มทดสอบประสิทธิภาพของ Pantene 3 Minute Miracle  กันเลยดีกว่าค่าา
ขั้นตอนแรก ดาวจะเอาแปรงที่ทำจากผมสากๆ แห้งๆ ที่ยังไม่ได้รับการบำรุงมาลองจุ่มสีและวาดให้ดูก่อนว่าเส้นที่วาดออกมาจะเป็นยังไงค่ะ

Before

ผลที่ออกมาคือ ลายเส้นที่วาดจากขนแปรงที่ผมเสีย(หนักมาก) ที่ยังไม่ได้ผ่านการบำรุงจาก Pantene 3 Minute Miracle
พอลองวาดออกมาเส้นที่ได้ก็จะดูขาดๆ ไม่สม่ำเสมอค่ะ  
มาดู  AFTER บ้าง

            

ขั้นตอนต่อไป เราลองเอาแปรงไปจุ่มกับ Pantene 3 Minute Miracle  เป็นเวลา 3 นาที อันนี้ดาวเอาผลิตภัณฑ์มานวดๆ กับแปรง เหมือนเวลาเราเอาไปนวดกับผมของเราจริงๆค่ะ เสร็จแล้วก็ล้างน้ำออกให้สะอาดออกค่ะ

            พอลองเอาแปรงที่นวดด้วย  Pantene 3 Minute Miracle มาลองจุ่มสีแล้ววาดลงในกระดาษอีกครั้ง เส้นที่ออกมาแตกต่างกันมากกกกกกค่ะเพื่อนๆ เส้นที่ออกมานอกจากจะดูแน่น เรียบเนียน เส้นไม่ขาดแล้วก็ไม่ดูเป็นซี่ๆ ด้วยค่ะ เพราะขนแปรงหลังจากที่ดาวเอาไปนวดกับ Pantene 3 Minute Miracle แปรงขนนิ่มลง ไม่แข็งท่อ แล้วก็ไม่แห้งชี้ฟูเลยค่ะ   



เทียบให้ดูชัดๆ ระหว่าง Before กับ After ค่ะ



            หลังจากการทดลองก็เกิดความรู้สึกว้าวววว! ตะลึงไปเลยเมื่อได้พิสูจน์ความนุ่มของขนแปรงหลังจากได้ทดลองด้วยตัวเอง
            เพราะฉะนั้นไม่รอช้า หลังจากทดลองกับแปรงได้ผลไปแล้ว เดี๋ยวดาวจะลองไปใช้กับผมดาวจริงๆ กันนะคะ พิสูจน์กันให้เห็นไปเลยดีกว่า ดาวจะพาไปทดสอบที่ร้านทำผมประจำของดาวกันค่ะ มาติดตามผลการทดสอบไปพร้อมๆกันเลยดีกว่า
            ฮัลโหลลลล นี่ผมจริงไม่ใช้แสตนอินอะไรทั้งนั้น ก่อนหน้านี้ดาวย้อมผมค่อนข้างบ่อย บวกกับต้องไดร์ ดัด ยืด เกือบทุกวันทำให้สภาพผมของดาวแห้งเสีย และยังขาดง่ายด้วยค่ะ ค่อนข้างเศร้าใจ T T


หลังจากพี่ช่างทำผมตกใจกันไปสักพักใหญ่ว่าไปทำอะไรกับผมมา
ดาวก็จะลองให้พี่ช่างทำผมเอา  Pantene 3 Minute Miracle ไปใช้แทนครีมนวดของที่ร้านแทนค่ะ
ไปขึ้นเตียง..สระผมกันดีกว่าาา



ระหว่างที่พี่นวด Pantene 3 Minute Miracle ให้ดาว
ที่สัมผัสได้เลยคือกลิ่นเจ้านี้ก็ดีมากค่ะ หอมอ่ะ เพิ่มความสุขในการสระผมขึ้นเยอะเลย นอนฟินไปเลยค่ะ

หมักไว้ประมาณ 3 นาทีตามที่ผลิตภัณฑ์เคลมกันมาว่า 3 Minute Miracle หลังจากนั้นก็รอพบกับความมหัศจรรย์ของผม  จากนั้นก็ล้างน้ำให้สะอาดค่ะ


เป่าแห้งตามปกติเลยจ้าา


ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผมอันชี้ฟูและพังยับเยินของดาว มันดีขึ้นจริงๆค่าา ไม่มีโม้ ไม่มีแสตนอิน จริงๆ ที่เห็นก็ตกใจมากเหมือนกัน! คือมันดูสุขภาพดีขึ้น ดูไม่แห้ง และไม่ชี้ฟู แถมนุ่มขึ้นมากกกด้วย
ย้ำว่ามากกก เพราะก่อนหน้านั้นคือมันแย่มากๆ จริงๆ  ฮ่าๆ (พี่ในร้านขำกันใหญ่)

Before กับ After จ้าาา

หลังจากดาวลองทดสอบการใช้ Pantene 3 Minute Miracle ขอบอกว่าอึ้งจริงๆ ค่ะ
เพราะว่ามันช่วยให้ผมดาวกลับมาดูดีขึ้นได้ คือผมดูสุขภาพดี แข็งแรงขึ้น และนุ่มสวยขึ้นจริงๆ


 เพราะฉะนั้นสาวๆ คนไหนที่กำลังมีปัญหาเส้นผมชี้ฟู แห้งเสียเหมือนกันกับดาว ดาวขอท้าให้สาวๆ ให้มาลองใช้  Pantene 3 Minute Miracle กันดูนะค่ะ ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเหมือนกับเจ้าแปรง แล้วก็ผมของดาวกันหรือเปล่า?
เอาเป็นว่า... ดาวท้าตรงนี้เลยแล้วกัน เพราะเห็นผลลัพธ์ของตัวเองกับตาขนาดนี้ (ถึงได้กล้าท้ายังไงหล่ะ ฮ่าๆ)


            ดาวรู้ว่าสาวๆ หลายคนคงชอบทำสีผม และก็ทำผมทั้งดัด ยืด บางทีไม่ย้อมธรรมดา ทั้งกัด ทั้งฟอก ทำให้ผมของเราแห้งเสียเป็นเรื่องธรรมดาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 
ผมของบางคนซึ่งก็ไม่ใช่ใคร ผมดาวเนี่ยและปัญหาผมมาครบเลยค่ะ 
และเมื่อก่อนก็ท้อใจง่าย ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็แก้ไขปัญหาด้วยวิธีการตัดผม คือ ตัด ตัด ตัด และตัด 
อยากจะไว้ผมยาวแต่ก็ไม่ยาวสักที ล้วปัจจุบันนี้ถ้าเกิดว่าจะสั้นกว่านี้ก็กลัวจะกลายเป็นทรงสมัยมอต้นไปอีก เห้อออ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีตัดผมเสียออกอีกต่อไปแล้ว ^^ เพราะวิธีแก้ปัญหาของดาวคือการค้นหาตัวช่วยให้ผมที่แห้งเสียกลับมาดูเงางามและสุขภาพดีขึ้นค่ะ

            
ขอบคุณแพนทีนที่ส่ง Pantene 3 Minute Miracle  มาให้ดาวลองใช้และพิสูจน์ให้สาวๆ เห็นว่าถ้าเรายอมเสียเวลาแค่ 3 นาทีเพื่อบำรุงเส้นผมของเราเป็นประจำ บวกกับการมีตัวช่วยดีดีที่บำรุงผมแบบล้ำลึกอีก รับรองค่ะว่าผมของสาวๆ ทุกคนจะสุขภาพดี แข็งแรงและดูดีขึ้นแน่นอนค่าาา

#LikeNeverColoredBefore #Pantene #3MinuteMiracle #Conditioner

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Nars Orgasm Blush บลัชออนในดวงใจ สียอดฮิตตลอดกาล


ถ้าพูดถึง Nars สิ่งแรกที่เพื่อนๆ นึกถึงคืออะไรเหรอค่ะ?
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าจะไม่นึกถึง Orgasm Blush เพราะเป็นไอเท็มยอดฮิตและสียอดนิยมตลอดกาล และที่อยู่ในดวงใจของสาวหลายๆ คน พร้อมการันตีด้วยยอดขายอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา แถมยังได้รับรางวัลจากกองบรรณาธิการนิตยสารทั่วโลกและประเทศไทยอีกด้วย

ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์อันโด่งดังและขายดีมั่กๆ ของ Nars เลยนะ


เพราะนอกจากจะสีสวยแล้ว เม็ดสีของเค้าก็ยังติดคงทน  คือปัดแก้มตั้งแต่เช้า สีก็ยังติดอยู่ถึงเย็น
ซึ่งกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นบลัชออนในตำนาน ที่อยากจะแนะนำให้สาวๆทุกคนได้มีไว้ครอบครองจริงๆ


และอย่างที่บอกว่าบลัชออนตัวนี้ขายดีจริงๆ ทาง Nars เค้าเลยออก Special Edition Orgasm Blush บลัชออนสี Orgasm รุ่น ลิมิเต็ด อิดิทชั่น ที่บรรจุในตลับดีไซน์ใหม่ และ ยังมาในขนาดโอเวอร์ไซส์ด้วย

ก็บอกแล้วว่าขายดิบขายดีจริงๆ เค้าเลยออกมาเพื่อตอกย้ำความขายดี ออกขนาดจัมโบขึ้นไปอีกให้กับสาวๆ ที่ชอบสีนี้ได้ใช้ไปนานๆ ยังไงล๊า


แพคเกจของเค้าก็เป็นตลับดำหรูหราเป็น Signature กำมะหยี่สำดำเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้เพิ่มเติมด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นถึง 8 กรัม ราคา 1550 บาท (จากปกติ 4.8 กรัม ) และแผ่นฟิล์มป้องกันรอยก็มาในรูปแบบใหม่ที่เก๋ไก๋กว่าเดิมด้วยคุณผู้หญิงใส่แว่นใส่หมวกสุดสวยนี่แหละ

(แผ่นฟิล์มคุณผู้หญิงสุดสวย นางมีความชิคแบบ Nars)


และดาวเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้เค้าคงความเป็น No.1 Blush นั่นก็คือเหตุผลง่ายๆเลย
เพราะสีสวยมาก! เป็นสีที่ผสานระหว่าง Peach + Pink + Gold และยังเป็นสีที่ทำให้เข้าได้กับทุกสีผิว ปัดแล้วสวยปัดแล้วขึ้นเหมือนกัน ไม่ว่าจะเฉดขาวหรือเข้มก็ได้หม๊ดดดด และยังสามารถปัดทุกโอกาส และทุกภารกิจด้วย
เพราะอย่างนี้ไง ถึงตกหลุมรัก <3


แล้วยังมีจุดเด่นที่เรียกได้ว่าเป็นบรัชที่ดี ก็คือเม็ดสีแน่น ติดทนนาน ปัดแล้วติดทนตลอดวัน
โดยเค้าจะใช้เม็ดสีที่โปร่งใส ที่ต่างจากบรัชอันอื่น ซึ่งผลลัพธ์ก็คือสีบนแก้มสวยที่นุ่มนวล บางเบา แลดูเป็นธรรมชาติ


เรียกได้ว่าเป็นบรัชออนกันตายเลยก็ได้นะเนี่ย แนะนำว่าเกิดเป็นผู้หญิงต้องมีคนละ 1 ตลับ

 

และเป็นสีที่ยากจะเลียนแบบ คือถ้าไม่ใช่ Nars Orgasm ยังไงก็คือไม่ใช่....จริงๆ นะ
นอกจากนั้นยังเป็นบรัชที่ได้รับรางวัล Best of Sephora's Best Blush ในปี 2006, 2007 และ 2008 ด้วย เอ้าปรบมือ!


เมื่อปัดแล้วสามารถเข้าได้หลายกับลุค ในการแต่งหน้า จะแบ๊ว จะเซ็กซี่ก็ได้หมด
และยังเป็นบรัชออนที่เป็น  Everyday Look ของสาวๆทั่วโลกอีกด้วย
 เป็นบลัชที่มีความ Grand และคุ้มค่าการลงทุนมากข่ะ


และทั้งหมดนี้ก็คือเหตุผลว่าทำไมบรัชออน Nars Orgasm ถึงขายดิบขายดีตลอดกาล
และดาวก็ยกให้เป็นที่ 1 ในดวงใจเหมือนกัน....สวยและดีขนาดนี้ก็เอาใจไปเลยนะ


และสำหรับใครที่ยังไม่เคยลอง ต้องบอกเลยว่าควรค่าแก่การลอง เพราะว่าปัดแล้วมองมุมไหน หน้าก็สวยทุกมิติจริงๆ
ส่วนใครที่ชื่นชอบสีนี้ก็บอกเลยว่า Oversize ที่ออกมาใหม่คุ้มค่าแก่การซื้อมากักตุนม๊ากกกก
สำหรับ Orgasm Blush  รุ่น ลิมิเต็ด อิดิทชั่น (8กรัม/ราคา 1550บาท) วางขายแล้วที่เค้าเตอร์ Nars ทุกสาขา
สามารถไปจับจองกันได้นะคะ


#WHATMAKESYOUBLUSH #NARSORGASM #No1BESTBLUS


วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เปิดโพลของ 10 อย่างที่ใช้แล้วชอบ #unsecretpoll


สวัสดีค่ะเพื่อนๆ มาคราวนี้ขอมาแชร์อะไรที่นอกเหนือจากเครื่องสำอางบ้างเนอะ
เป็นไอเท็มลับเฉพาะที่คัดสรรมาแล้ว 10 อันดับหลังจากที่ใช้แล้วชอบจริงอะไรจริง เพราะตัวเองนี่แหละเป็นคนใช้เอง

ไอเท็มเหล่านี้ไม่เคยเปิดเยที่ไหนมาก่อน ประหนึ่งว่ามันคือสิ่งของล้ำค่าสำหรับตัวช้านนนนนน ซึ่งมันก็จริงอย่าที่ว่าแหละ!

ล้ำค่าเพราะมันมีประโยชน์ต่อชีวิตดาวมากๆๆๆ (แม้จะดูโอเว่อร์ไปนิด แต่ของเหล่านี้มันดีต่อชีวิตเรามากๆเลยนะตัวเธอ) และดาวคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ ด้วยเหมือนกัน วันนี้เลยขออนุญาตมาแชร์ของดี แต่ละอย่างคละเคล้าของกันไป มีตั้งแต่หัวจรดเท้า มา! มาดูกัน


เริ่มที่อันแรกเลยค่ะ คือ 1. Phyto Polleine

อันนี้คือน้ำมันใส่ผม (Oil Treatment) จากปารีสเชียวแหละ ตัวนี้ดีมากกก ทรงคุณค่ามากสำหรับคนผมร่วง คือเราเป็นคนผมร่วงเยอะมากประหนึ่งว่าทำคีโม แต่พอได้ลองตัวนี้ไป ผมร่วงลดลงเลยจริงๆ แต่ข้อเสียคือ ต้องทาทิ้งไว้ 20 นาทีก่อน ซึ่งนานอะ บางวันก็ลืมใช้บางวันก็ขี้เกียด แต่ตอนได้มาใหม่ใช้ติดต่อกันไป1อาทิตย์คือลองใช้แล้วรู้สึกว่ามันช่วยลดอาการผมร่วงได้เริศมาก เพราะตัวนี้เค้าจะไปช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรงอะ ประมาณนี้

วิธีใช้คือ ทาทิ้งไว้ก่อนสระผม 20 นาที ในขณะนั้นก็นวดไปด้วยก็ได้ตามแต่ใจเราจะต้องการ ซึ่งถ้าวันไหนเราอารมณ์สุนทรีย์ก็จะนวด แต่บางครั้งรีบๆ ก็แค่ทาทิ้งไว้ ฟีลลิ่งคือ ทาทิ้งไว้สักพักจะเย็นๆ สบายหัวดี  แล้วกลิ่นก็ผ่อนคลายมาก 


2. สบู่ไข่ Grace Aura Astaxanthin Scrub

สบู่ไข่อีสเตอร์ กลิ่นกุหลาบอ่อนๆ หอมมากเว่อร์ เป็นสบู่ที่ละมุนนีมาก แน่นนอนว่าอาบสะอาด(แน่สิ)
อันนีฟลุ๊คไปเจอเพราะว่าเคยใช้ลิปสติกของแบรนด์นี้ แล้วเข้าไปดูไอจีเค้าก็มีสบู่ขาย (ปกติเป็นคนชอบใช้สบู่ก้อนมากกว่าสบู่เหลว เพราะใช้สบู่เหลวแล้วรู้สึกว่าสิวขึ้นหลัง) ก็เลยจัดมาลอง ลองแล้วสรุปว่าชอบเลยแหละ

คือที่เราชอบเพราะมันมีใยบวบที่เอาไว้ขัดตัวไปในตัว คือเวลาอาบน้ำก็จะขัดผิว เอาเซลล์ผิวที่ตายแลวออกไปได้เลย แล้วใยบวบเค้าไม่บาดเลย นุ่มมาก ก้อนมีความใหญ่พอดีมือเลย แล้วสิ่งที่ดีงามคือไม่หมดไว คือดีงาม ไม่ระเหยหายไปกับน้ำไว ใช้ได้นานพอสมควร ไม่เหมือนกับพวกสบู่บางอันซื้อมาใช้ 3 วันหมดแล้วคืออะไร TT


3.Grace Aura White Sleeping Mask

อันนี้แบรนด์เดียวกับข้างบนแหละ จัดมาลองพร้อมกัน ตัวนี้ใช้แล้วมีความรู้สึกว่าช่วยทำให้ผิวขาว (แบบค่อยๆขาวนะ ไม่ใช่อารมณ์บีบีทาตัวที่ทาแล้วขาวเลย) มันจะแบบค่อยๆ ขาวอย่างมีที่มาที่ไป ผิวจะดูนุ่มดูนวลอะ ประมาณนั้น

เป็นมาส์กสำหรับตัว ใช้ก่อนนอน มันมีความเข้มข้นกว่าโลชั่น  ส่วนวิธีใช้ก็ง่ายๆ ใช้ช้อนที่เค้าให้มาด้วยตักแล้วทา กลิ่นมันจะหอมอ่อนๆ เนื้อมันจะเหมือนพุดดิ้งเด้งดึ๋งด้วย  ก็แปลกดีนะ ฟีลลิ่งที่ทาไปตอนแรกมันจะหนึบๆ อารมณ์แบบเข้มข้มอะไรขนาดนั้นอะ จะหนึบๆผิวนิดนึง แต่พอทิ้งไว้สักพักมันก็จะซึมเข้าสู่ผิวเราไปเองราวกับว่าไม่ได้ทาซะงั้น

ตัวนี้คือใช้แทนโลชั่นทาก่อนนอนได้เลยไม่ต้องล้างออก ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็พอ


4. เจลแต้มสิว และ ครีมแต้มสิว Tomei

หลังจากที่ได้ลองก็รักเลย มันคือยาแต้มสิวที่ดีมากตัวนึงที่ไม่แสบ ไม่อะไรเลยแต่ตื่นมาแล้วสิวยุบจ๊ะ
สองตัวนี้แนะนำว่าใช้ใช้คู่กัน มันจัดการได้หมดทั้งสิวอุดตัน สิวเสี้ยน สิวหนอง คือช่วงที่เป็นสิวเล็กๆมีรอยแดงๆ ทาไว้ข้ามคืนก็กลับมาเป็นปกติ ส่วนกับสิวอักเสบก็ดี ก็ยุบ เรียกได้ว่าเอาอยู่ คือเห็นผลดีและไวมากไม่น่าเชื่อ แล้วมันไม่แสบ ไม่แห้ง ไม่คัน ไม่ไหม้ ไม่ได้กลิ่นอะไรเลย

ตัวนึงที่เป็นหลอดเหมือนยาสีฟัน(อันล่าง) เนื้อเจล เราเอาไว้ทาสิวที่มันกำลังเริ่มจะอักเสบ ส่วนอีกตัวนึงมันเป็นเนื้อครีมที่จะช่วยฆ่าเชื้อ ช่วยเรื่องรอยแดง ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับด้วย วิธีใช้คือเริ่มจากทาเจลให้แห้งแล้วตามด้วยครีมทับลงไป เนื้อซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่งหน้าทับได


5.  3M Nexcare ที่แปะดูดสิว
มาดูไอเท็มที่จัดการสิวอีกตัว อันนี้คือดีเหมือนกัน เราเรียกมันว่า ที่แปะสิว
แปะแล้วมันจะดูดของเหลวใต้ผิวเราออกไป สิวก็จะยุบ จะใช้ตอนที่สิวอักเสบจนแตกแล้ว แล้วรู้สึกว่าสิวอันนั้นมันไม่ซื่อ คือยังมีเชื้อ มีหนองที่จะทำให้บวมต่อไปได้ สิวแบบนั้นมันจะรู้สึกได้เอง ( คือจะบีบเยอะก็ไม่ได้ เดี๋ยวมันแดงแล้วบีบมากก็จะเป็นแผล) วิธีจัดการง่ายๆคือ หลังเปิดหัวสิวแล้วก็แปะตัวนี้ลงไปจบเลย ให้มันไปจัดการกับสิวเอง

เราจะใช้แปะตอนนอน ตื่นมาตรงที่แปะจะขาวๆ นั่นแหละคือหนองที่มันดูดขึ้นมา สิวและผิวเราก็จะยุบ จะเรียบลง อาการสิวก็จะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ


6. แป้งเต่าเหยียบโลก
อันนี้ดีแบบไม่ต้องพูดเยอะ มันคือผงดับกลิ่นตัว ป้องกันกลิ่นเต่า สยบทุกกลิ่น ไม่ว่ากลิ่นจะแรงแค่ไหน เชื่อว่าตัวนี้เอาอยู่

สำหรับตัวนี้คิดว่าเป็นไอเท็มในตำนานเลยแหละ เราชอบที่มันเป็นธรรมชาติ มาจากสมุนไพรและใช้แล้วเห็นผลจริง ประกอบกับราคาไม่แพง แล้วยังสามารถใช้ดับกลิ่นเท้าโดยการโรยผงในถุงเท้าก่อนสวมรองเท้าเข้าไปได้ด้วย รับรอง ไม่เหม็นชัวร์
ข้อเสียนิดนึงคือ บางทีใช้แล้วมันเป็นคราบ


7. Log maneage สเปรย์ดับกลิ่นเต่าและเซรั่มบำรุงรักแร้
ยังอยู่ในโซนของรักแร้ อันนี้เคยรีวิวไปแล้วเหมือนกัน ตัวนี้ใช้แล้วเต่าไม่เรียกแม่ ไม่ทิ้งคราบ และสกัดมาจากสารธรรมชาติ

แพ็คเกจน่ารักดี ดูหรูดูแพง และดึงดูดให้ใช้มาก ที่ชอบกว่านั้นคือตัวเซรั่มของเค้า (ขวดสีส้ม) ตัวนี้จะเป็นเซรั่มสำหรับรักแร้ วิธีใช้ก็ง่ายๆ หลังอาบน้ำเสร็จอะ ก็ฉีดลงไป เหมือนเราลงเซรั่มหน้าอะ แต่อันนี้เพิ่มขึ้นมาคือดูแลรักแร้ด้วย

ตัวนี้จะทำให้รักแร้เนียบขึ้น หนังไก่จะค่อยหายไป อาจจะไม่เนียนกริบเท่ารีทัช แต่โดยรวมดูดีขึ้น
ข้อเสียคือ มันจะหนึบๆหน่อยต้องพัดจ่อให้มันแห้งก่อน


8. Eyetape ที่ทำตาสองชั้นแบบตาข่าย
หลังจากเมื่อปีที่แล้วที่ได้รู้จักกับอายเทปแบบตาข่าย มันก็เป็นเหมือนสวรรค์ของสาวตาชั้นเดียว! คือเลิกใช้เลยพวกสติ๊กเกอร์แปะตา ( มีนานๆใช้ทีถ้ารีบๆ ) เพราะว่าอายเทปตัวนี้แปะได้เนียนกว่า แทบไม่เห็นเลยว่าแปะตาสองชั้น

ซึ่งมันดีมากกก สำหรับคนใจฝ่อ ไม่กล้าทำตาสองชั้นอย่างดาว ก็ยังจะคงใช้ไอเท็มนี้ต่อไปอย่างกาลนานเทอญ เพราะมันช่วยทำให้ชั้นตาชัดขึ้น แต่งหน้าแล้วดูชั้นขึ้น ตาหวานขึ้นประหนึ่งว่าทำตาแต่ไม่เจ็บตัว และที่ชอบคือเนียนมากๆ แบบที่ว่าจับไม่ได้เลยว่าแปะตาสองชั้น มีความไม่โป๊ะสูง ผู้ชายเห็นแล้วไม่ถามอะว่าอะไรติดอยู่ที่ตา เชรดดดด

ซึ่งวิธีที่ทำให้เนียนสุดๆสำหรับดาวคือ ทาอายแชโดว์เอยอะไรเอยให้เสร็จเรียบร้อยแล้วแปะอายเทปลงไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย มันก็จะเนียนมว้ากกกกก (บางทีถ้าแปะก่อนอายแชโดว์มันจะตกหลุมตาข่าย และเบลนด์สีไม่ดีเท่าที่ควร


9. Fracora White Powder V90 ผงวิตามินซีสกัด
ตัวนี้เป็นไอเท็มลับ เชื่อว่าหลายๆคนอาจจะยังไม่รู้จัก ผงวิตามินซีที่ใช้ผสมกับครีมที่ใช้เป็นประจำนั่นแหละ (ประหนึ่งว่าทำทรีตเม้นท์วิตามินซี) ง่ายๆอย่างงี้เลยนะ  มันจะช่วยทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้น พวกรอยดำเอยอะไรเอยดูจางลง เพราะด้วยอิทธิฤทธิ์ของวิตามิน C ที่ไม่ต้องพล่ามยาวมากอะเนาะ  หรือใครจะใช้ผสมกับครีมแล้วใช้เครื่องนวดหน้าร่วมด้วยก็จะให้ผลลัพท์ดีมากๆ เพราะมันจะได้เข้าสู๋ผิวเราลึกขึ้นละยิ่งเห็นผลมากขึ้น
หมายเหตุ* ระวังอาการแพ้ของแต่ละบุคคลด้วยเน้อ


(เป็นกระปุกเล็กๆ เปิดมาข้างในเป็นผงขาวๆ เอาไปผสมกับครีมที่ใช้  ควรใช้ให้หมดภายในครั้งเดียว
เหลืออยู่อันสุดท้ายแว้วววว)


สุดท้ายละ 10. สเปรย์น้ำแร่
ตอนแรกก็ว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่พอได้อยู่กลางอากาศร้อนๆเท่านั้นแหละ ภาพสเปรย์ก็เด้งขึ้นมาในหัวและร้องโหยหาทันที เพราะว่าอากาศมันร้อนจริง! หึ้ยยยย เคยใช่ปะเวลาร้อนแล้วรู้สึกหน้าแห้งอะ มันจะแบบหน้าตึง ความรู้สึกเหมือนใบไม้แห้งกรอบ ประหนึ่งว่าไม่เหลือน้ำอยู่แล้วบนหน้า คือจะบอกว่า ถ้าเป็นฟีลนี้แล้วมีสเปรย์น้ำแร่มาฉีดนี่เหมือนชุบชีวิตใหม่ โอ้โห ถ้ามีอยู่ในมือก็จะฉีดเป็นว่าเล่นเลย หรับการพกไว้นี่มันช่วยทำให้หน้าเราสดชื่นได้จริงๆนะ หายหงุดหงิดกับอากาศได้แปปนึง

ถ้าฉีดก่อนแต่งหน้า+หลังแต่งหน้าก็จะทำให้เครื่องสำอางติดทน และสามารถฉีดระหว่างวันแล้วซับด้วยทิชชู่เบาๆออกก็จะทำให้หน้าหายมันและทำให้เครื่องสำอางยังดำรงอยู่บนหน้าได้ แล้วก็จะมีแบบที่เป็นสกินแคร์ด้วยอย่างขวดที่ 3 แบรนด์ Begin จะเป็นสเปรย์ผสมสมุนไพร ฉีดก่อนทาลงครีมก็จะช่วยบำรุงหน้าได้ด้วย ฉีดแล้วจะเย็นๆ สดชื่น เอามาฉีดระหว่างวันก็ได้ก็ดี

-----------------------------------------------------------------------
เอาแหละ ครบองค์ประชุมแล้ว จบ แยกย้าย
ใครมีอะไรเด็ดๆก็เอามาโชว์มาเล่าให้ฟังได้นะคะ อย่าเก็บไว้คนเดียว มาแชร์กัน (เพราะจะได้ลองตามไปใช้บ้าง)
ถ้าใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติมมก็สามารถไปพูดคุยกันที่แฟนเพจของดาวได้นะที่ www.facebook.com/dujdowfanpage
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆทุกคนนะคะ เจอกันใหม่กบล็อกหน้าค่ะ บายยย