สวัสดีค่ะเพื่อนๆ หน้าหนาวกำลังจะผ่านไป ฤดูใหม่กำลังจะมา
วันนี้ดาวมีไอเท็มใหม่กิ๊ง! อยู่ในโหมดงานผิวๆ
วันนี้จะมาแนะนำรองพื้นตัวใหม่จาก Nars
พร้อมทั้งการรีวิวการใช้งานให้ดูด้วย!
ซึ่งก็คือตัวนี้นี่เอง Nars Velvet
Matte Skin Tint เป็นรองพื้นเนื้อแมทท์ที่ทำให้ผิวดีแบบไม่ต้องไปเกิดใหม่ให้เสียเวลา
โดยปีนี้เทรนแมทท์มาแรงม๊ากกกกกกก
โดยเฉพาะหน้าร้อนบ้านเรา อะไรแมทท์ ติดคงทนนานนี้น่าจะตอบโจทย์สุด
ซึ่งดาวจะมาแนะนำเพื่อให้สาวๆ ได้เตรียมผิวสวยต้อนรับซัมเมอร์ในปีนี้ให้ปังสุดๆกันเลยทีเดียว
ท๊าดาาาา.... โฉมหน้า 3 เกลอที่ดาวได้มาใหม่และได้ลองใช้แล้ว
สำหรับรองพื้นตัวนี้
เป็นรองพื้นรุ่นใหม่ที่เค้าบอกว่าเหมาะกับผิวสาวในช่วงซัมเมอร์มากกก
ใครที่ไม่ชอบความโกลว หรือทารองพื้นตัวไหนๆ หน้าก็ยังแลดูมันอยู่ดี
และโดยเฉพาะคนหน้ามัน
เราแนะนำให้ลองตัวนี้เลยนะ
สำหรับตัวนี้เป็นรองพื้นสูตรปราศจากน้ำมัน เนื้อสัมผัสลื่นเนียน ให้การแต่งเติมแบบกึ่งแมทพร้อมปกป้องผิว
พร้อมปฏิบัติการควบคุมความมัน และช่วยฟื้นบำรุงผิว
เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกความต้องการของผิวในฤดูร้อนนี้
อย่างที่เรารู้ๆ กันว่า Nars กับงานผิวเค้าก็เป็นของคู่กัน
แต่เราว่าตัวนี้ทาง Nars ทำออกมาได้ดีมากๆ คือทาแล้วให้ความรู้สึกว่าผิวคือผิวจริงๆ
ถ้ายิ่งเลือกสีรองพื้นที่เข้ากับหน้าแบบพอดีหน้าเปะนี่ขอบอกว่าว่าจะยิ่งแนบเนียนชนิดธรรมชาติแทบจับไม่ได้ว่าหน้ามีรองพื้น
ไม่ได้โม้เท่าไหร่ เพราะหลังจากที่ลองใช้ไปเองแล้วรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
นอกจากบางเบา แล้วยังปกปิด ที่สำคัญติดทนด้วยแหละ
ลองใช้เช้าถึงเย็นนางก็ไม่หลุด
ไม่เยิ้ม โอเคเลยอะ
รุ่นนี้ไม่ได้ออกมาเล่นๆ จริงๆ ออกมาครองใจสาวๆ
อย่างดาวคนนึงนี่แหละ!
มาดูลักษณะภายนอกกัน ครั้งนี้มาเป็นหลอดบีบพลาสติกสีดำ
ผิวพลาสติกจะมีเนื้อสัมผัสด้านนิดหน่อย แต่ลื่นมือไม่หนืดเหมือนผิวสัมผัสตัวบตลับบรัชออน
มีเขียนชื่อ Nas ไว้อย่างชัดเจน มีชื่อรุ่นอยู่ข้างล่าง
ส่วนด้านหลังก็มีบอกชื่อสี ส่วนประกอบ และปริมาตรไว้อย่างชัดเจน
ส่วนตัวแพ็คเกจแม้จะเป็นหลอด แต่ด้วยความที่เป็นสีดำด้าน
มันทำให้รู้สึกว่า ไม่ได้ก๊องแก๊ง แถมยังรู้สึกว่าขลังตามฉบับ Nars
ส่วนตัวคิดว่าแพ็คเกจแบบนี้ทำให้เราพกพาง่ายในการใช้งาน
เป็นรองพื้นที่สามารถพกไปได้ทุกที่โดยที่ไม่หกเลอะเทอะ
และเราสามารถใช้รองพื้นตัวนี้ได้ทุกวัน ซึ่งสอดคล้องกับตัวเนื้อของมันที่เป็น Everyday foundation
ถือว่าเค้าทำแพ็คเกจมาให้เหมาะสมกับเนื้อรองพื้นตัวนี้แหละ
เอาใจไปอีกเลยเช่นกัน
(ก่อนเปิดเค้าจะมีสติ๊กเกอร์ Seal ไว้ให้ก่อนด้วยนะ)
สำหรับตัวนี้มี Velvet Illusion
Complex Technology นวัตกรรมจาก NARS ปฏิบัติการที่ช่วยปรับผิวให้แลดูเรียบเนียน
ด้วยความสัมผัสที่บางเบา อณูเม็ดแป้งโปร่งใส Transparent Blurring Powders
ช่วยทำให้ผิวดูเป็นธรรมชาติทันทีที่ทา!
พร้อมด้วยการอำพรางริ้วรอย
และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอสร้างผิวมีมิติเป็นธรรมชาติ
ไม่ดูแบน ไม่หนาไม่หนักและไม่ทิ้งตัวเป็นคราบขาวด้วยนะ
ดี๊ย์ดี
ในขณะเดียวกันก็มีส่วนผสมจาก Rose Fruit Extract ช่วยลดสภาพปรากฏของบรรดารูขุมขน
และช่วยควบคุมความมันระหว่างวันได้!
“ครบเครื่องทั้งการปกปิดและการบำรุงทีเดียวเชียวแหละ”
อย่างที่บอกข้างต้นว่ารองพื้นตัวนี้มีอณูเม็ดแป้งโปร่งใส Transparent Blurring Powders
ที่เข้าทำงานผนึกแนบเนื้อ
ส่วนฟีลลิ่งที่ได้นั้นเมื่อทาลงไปแล้วจะเหมือนเนื้อกำมะหยี่ค่อนไปทางแมทท์
ฟีลลิ่งจะเบาสบายๆ ไม่เหนาะหนะมือแม้แต่น้อย
รองพื้นมีการปกปิดระดับปานกลาง สำหรับดาวคือมีจุดด่างดำ
รอยแดงด้วยอยู่บ้าง
รองพื้นตัวนี้สามารถปกปิดได้หมดเลย สำหรับดาวแค่ทาตัวเดียวอยู่แล้วไม่ต้องเพิ่มเติมคอนซีลเลอร์
ส่วนใครจะเติมแป้งทับอีกทีหรือไม่ทับก็ได้ แล้วแต่ความชอบ
หรือความต้องการในวันนั้น
นอกจากนั้นรองพื้นตัวนี้มีส่วนผสมจาก
วิตามิน ซี, อี เพื่อบำรุงผิว และสารกันแดดค่า SPF30ด้วยนะ
จริงๆ
ทางนาร์สเค้าแทบจะไม่อยากเรียกว่ามันเป็นครีมรองพื้นด้วย
เค้าเรียกว่า
มอย์เจอร์ไรเซอร์ มีสี ที่มีทั้งมีการบำรุง ทั้งปกปิด ทั้งควบคุมความมัน
คือคุ้มกว่านี้มีอีกมั้ย
กรี้ดดดด ><
(
นี่ทาไปแล้วนะ แทบรู้เลยใช่ไหมหล่ะว่าทา คือบางเบา ธรรมชาติสุดๆอะ ยอมใจ )
อีกอย่างสำหรับรองพื้นตัวนี้ดาวว่าเหมาะกับผู้ชายที่ต้องแต่งหน้าด้วยนะ
มันจะให้ฟีลบางเบาผิวมาก ไม่เหนาะหนะ ไม่หนักน่า
ไม่มีเอฟเฟครบกวนจิตใจแน่นอน
เพราะคิดว่าผู้ชายไม่น่าจะชอบความเหนาะหนะแบบลิปกรอส
มันคงไม่สบายผิวน่าดู
แต่ตัวนี้พอทาไปแล้วเรียบลื่นและงานผิว
คิดว่าผู้ชายที่แต่งหน้าน่าจะชอบด้วยนะ
นอกจากนั้นที่สำคัญที่สุดในการเลือกรองพื้นตัวนี้คือการเลือกสีรองพื้นที่เข้ากับสีผิวเราให้มากที่สุด
เราก็จะได้งานผิว ผิ๊ว ผิว ที่สุดๆ แค่นั้นเอง
เพราะอย่างที่บอกว่าตัวนี้ มันปกปิด และบางเบาม๊ากกกก
ทีเหลือคือแค่เลือกสีที่ตรงกับหน้าแค่นั้น ก็แทบจะจับไม่ได้แล้วว่าทารองพื้นมาใช่มั้ยยยย
(ดาวว่าขนาดนั้นเลยแหละ)
ดาวมีสองสีให้ดู ที่มันเข้ากับสีผิวดาวนะคะ ได้แก่ สีAlaska – Light 2 เฉดสีอ่อนเจือประกายเหลือง
และชมพูในส่วนที่สมดุล ส่วนตัวว่ามันค่อนข้างเหมาะกับคนสีเหลืองขาว
และอีกสีคือสี Greenland
- Light 3 เฉดสีอ่อนระดับกลางเจือประกายสีชมพู/ส้มพีชโทนกลาง
ส่วนตัวว่าเหมาะกับคนขาวค่อนข้างอมชมพู (ที่ไม่ได้ผิวขาวจั๊วแบบเบอร์ 1)
สองสีนี้เหมาะกับหน้าดาวมาก วันที่ดาวอยากผิวขาวๆหน่อยก็จะใช้เบอร์ 2 ส่วนวันที่อยากผิวธรรมชาติ เนียนไปกับผิวเลยคือดาวใช้เบอร์
3
ดาวแปะสีช้าตไว้ให้ดูนะคะว่าผิวสีไหนควรใช้อะไรบ้าง
(แต่อย่างไรก็ตามควรไปลองสีที่เคาเตอร์คือความชัวร์ที่สุด
Terre-Neuve (แตร-เนอฟ)
LIGHT0 -อ่อนสุดเจือประกายชมพูโทนกลางอย่างดูเป็นธรรมชาติ
|
Annapurna (แอนนาเพอร์น่า)
MEDIUM2 – โทนสีระดับกลางเจือประกายสีส้มพีชโทนกลางอย่างดูเป็นธรรมชาติ
|
Finland (ฟินแลนด์)
LIGHT1 – อ่อนสุด เจือประกายเหลืองโทนกลางอย่างดูเป็นธรรมชาติ
|
Cuba (คิวบา)
MEDIUM3 – โทนสีระดับกลางเจือประกายสีเหลือง และชมพูในสัดส่วนสมดุล
|
Alaska (อลาสก้า)
LIGHT2 – เฉดอ่อน เจือประกายสีเหลือง และชมพูในสัดส่วนสมดุล
|
Malaga (มะละกา)
MED/DARK1 – สีเข้มระดับกลางเจือประกายอบอุ่นในโทนสีคาราเมล
|
Greenland (กรีนแลนด์)
LIGHT3 – เฉดอ่อนระดับกลางเจือประกายสีชมพู/ส้มพีชโทนกลาง
|
|
St. Mortiz (แซงต์มอร์ติซ)
MEDIUM1 – เฉดกลางเจือประกายเหลืองโทนกลาง
|
|
Cuzco (กัซโก้)
MEDIUM1.5 – เฉดกลางเจือประกายสีชมพู/ส้มพีชโทนกลาง
|
มาดูประสิทธิภาพการใช้งานกันบ้างดีกว่า
ลองทาครึ่งหน้า โดยที่ ด้านซ้ายยังไม่ได้ทา ส่วนด้านขวาทารองพื้นแล้ว
จะเห็นได้ว่า ผิวหน้าด้านขวาผิวดูไม่โทรม
ดูมีชีวิตชีวาแต่ไม่ได้ดูโบ๊ะว่าทารองพื้น
มาดูเปรียบเทียบกันทั้งหน้า ระหว่าง before
– after หลังทารองพื้นตัวนี้แล้ว
ดูเผินๆ ก็ไม่ต่าง แต่อยากให้ดูดีๆ
ถ้ามองดีๆ ผิวหน้าด้านขวาโดยรวมจะดูดีกว่า ดูผิวไม่โทรม
ดูสีผิวสม่ำเสมอ
ทั้งๆที่ความจริงแล้วเพราะเราทารองพื้นลงไปแล้วชั้นนึงนั่นเอง
เรามาดูรูปข้างล่างอีกชัดๆ เพื่อให้เห็นความบางเบา ปกปิด
แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติงานผิวไว้กันดีกว่า
แต่ข้อเสียของนางก็มีนะ ด้วยความที่เค้าเป็นเนื้อแมทท์
บางทีคนหน้าแห้งใช้อาจจะรู้สึกแมทท์เกินไป หรือกังวลว่าจะแห้งเกินไป
ดาวก็แนะนำให้บำรุงเยอะๆ หรือมาส์กหน้าลงไปก่อน หรือ!
ก็แนะนำอีกแหละว่าให้ใช้ร่วมกับเจ้าตัวนี้ Nars Pro Prime pore refining primer
ซึ่งดาวใช้วิธีนี้เลยนะ เวลาที่จะใช้รองพื้นตัวนี้
คือเป็นเทคนิคสำคัญเลยนะ ให้ใช้ไพร์มเมอร์ ตัวนี้ก่อน เพราะว่า Radiance Enhancing เป็นไพร์มเมอร์
สำหรับคนหน้าแห้งค่ะ
สรุปคือ หน้าแห้งอย่าเพิ่งถอดใจว่าใช้รุ่นนี้ไม่ได้ เพราะเนื้อมันดีมว๊ากกกกกก
แนะนำให้ลองใช้เทคนิคนี้แทนนะ
สำหรับตัวนี้เป็นไพร์มเมอร์ที่เป็นลักษณะหลอดสีดำเช่นเดียวกับรองพื้น
ใช้ทาก่อนลงรองพื้นตัวข้างบน
ตัวนี้นอกจากจะช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทนแล้วเค้ายังช่วยมอบความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย
ด้วยความที่มันเป็นเนื้อเจล พอทาไปแล้วก็จะเย็นๆ สบายหน้า ช่วยเคลือบผิวหน้าให้มีความชุ่มชื้น
ไม่แห้งมากเกินไปสำหรับคนหน้าแห้งขอแนะนำให้ลองตัวนี้เลยคะ โดยเฉพาะคนหน้าแห้งที่อยากลองใช้รองพื้นงานผิวแบบตัวข้างบนแต่มันดันเป็นเนื้อแมทท์
สำหรับคนที่กลัวว่าผิวจะแห้งไปมั้ยดาวก็แนะนำให้ใช้วิธีนี้นะ
เพราะดาวก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน
ในช่วงนี้ดาวได้กลายเป็นคนหน้าแห้ง
แล้วก็ลองใช้คู่กับตัวรองพื้นมันทำให้หน้าดาวดูกลมกลื่นกันพอดี แบบว่า
ไม่แห้งเกินไป เป็นอะไรที่ผิวคู่ควรมากๆ
ด้านล่างเป็นรูป Overall รูปที่ยังไม่ได้แต่งฟิลเตอร์นะคะ ปรับแค่แสงสว่างแค่นั้นเพื่อความสบายตา และเพื่อให้เห็นว่ารองพื้นตัวนี้
ทาออกมาแล้วเป็นยังไง
มีความละมุนนี...
นอกจากแนะนำให้ดูกันแล้ว ต้องขอพูดเลยว่าดาวยกไอเท็ม Velvet Matte Skin Tint ให้เป็นรองพื้น 1 ชิ้นในตัวโปรดของดาว เพราะดาวชอบม๊ากกกก
ยอมรับว่าดาวรีวิวด้วยความชอบล้วนๆ อาจจะดูเห่อไปบ้าง ซึ่งก็เห่อจริงๆนั่นแหละ... ก็ชอบบบบ
และขอแนะนำให้สาวๆได้ทดลอง!
เพราะนอกจากมันจะบางเบาเป็นธรรมชาติแล้ว มันยังให้การปกปิดด้วย
ครบ-เครื่อง
สำหรับดาวมัน ง่าย สะดวก และรวดเร็ว มากๆ บีบจากหลอดแล้วทาจะใช้นิ้วก็ไม่เป็นคราบ
จะใช้แปรงก็ผิวละมุนนี
สำหรับราคาของตัวนี้คือ 1700 บาท ไม่แพงถ้าลงทุนแล้วคุ้มค่าขนาดนี้
ต้องลองเองจริงๆ
สำหรับคนที่อยากทดลองก็ขอให้ไปเลือกสีที่เคาเตอร์เพื่อดูสีที่เหมาะกับสีหน้าเราจริงๆนะคะ
ดาวเชื่อว่ารองพื้นตัวนี้เมื่อได้ทดลองใช้แล้วก็จะเข้าไปอยู่ในดวงใจของสาวๆอีกตัวหนึ่งเหมือกัน
ใครที่มีข้อสงสัยสำหรับรองพื้นก็แว้บเข้ามาถามได้ที่แฟนเพจน้า Dujdowfanpage
สำหรับวันนี้ดาวต้องขอตัวลาไปก่อนแล้วจ้า เจอกันได้ใน Blog ถัดไป
แต่หน้าแบบที่ลองแต่งรีวิวรองพื้นในลุคนี้นะคะ
สามารถดูฮาวทูลุคนี้ได้ที่…. ฮาวทู เตรียมผิวรับหน้าร้อน
คลิ๊กเพื่อดูวีดีโอ
ขอบฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ สำหรับวันนี้ไปก่อนแล้ว บ้ายบายจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น