วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

เบื่อแล้วลิปสีเดียว! จับลิปหลายสีมาทำ OMBRE แล้วการทาลิปของคุณจะสนุกขึ้นกว่าที่เคย ( Wet n' wild Ombre Lips)

สวัสดีคะเพื่อนๆ ดาวเองนะคะ
วันนี้ชวนมาทำอะไรสนุกๆกันดีกว่าคะ
วันนี้จะเป็นเรื่องราวของการทาลิปสติกที่จับเอามาผสมสีกัน
ซึ่งดาวเชื่อว่าสาวๆหลายๆคนมีลิปสติกในกรุกันมากกว่า 2 สีขึ้นไปแน่นอน 
ยังไงวันนี้ดาวจะชวนมาเล่นสนุกโดยการจับลิปสติกมาผสมสีกันใหม่ให้หายเบื่อหายเซ็งกันนะคะ
หรือที่หลายๆ คนรู้จักว่า Ombre นั่นเอง 

---------------------------------

“Ombre” หรือ “ออมเบร” มาจากคำในภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “การไล่เฉดสี”
สำหรับการแต่งหน้าคือ การไล่เฉดสีจากโทนสีเข้มไปหาโทนสีอ่อน ไล่สีให้กลมกลืนกัน 
สามารถจับคู่สีที่ใกล้เคียงกัน อย่างสีม่วง-สีนู้ด  หรือแม้แต่คู่สีที่ต่างกันสุดขั้วอย่าง ชมพู-ส้ม , ดำ-ชมพู ก็สามารถนำมาทำการ Ombre ได้เช่นกัน
การ Ombre กำลังเป็นที่นิยมสำหรับสาวผู้คลั่งแฟชั่นแต่งหน้า-แต่งตัว เช่น การ Ombre สีของเสื้อผ้า, การ Ombre สี Eye Shadow, Ombre สีลิปสติก, Ombre สีเล็บ หรือแม้กระทั่งการ Ombre สีผมก็ตาม (อ้างอิง Ombre คืออะไร )
---------------------------------
วันนี้ดาวจะมาแชร์เทคนิคและการทาลิปombre ในหลายๆแบบให้เพื่อนๆได้ดูกันนะคะ
ซึ่งวันนี้เลือกใช้ลิป Wet n 'wild เนื่องจากว่า อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ลิปสติก Wet n' wild นั้นมีหลายสีม๊ากกกกกกกกกกก มีสีแปลกใหม่ที่มันน่าโดน แต่ละสีนี่เป็นสีค่อนข้างแฟชั่น ตามติดกระแสได้ดี 
เฉดสีเยอะมากกก หยิบมาทาได้หลายสีไม่น่าเบื่อ 
อยากทาลุคไหนก็จัดได้ทั้งเปรี้ยวทั้งหวาน แถมราคานี่ประหยัดสุด! 
เพื่อนๆอาจจะมีอย่างต่ำไม่น้อยกว่า 2-3 แท่งนะคะ
ส่วนใครที่ยังไม่เคยใช้ แนะนำให้ไปมีติดกระเป๋าไว้สักแท่งสองแท่งคะ เพราะว่ามันถูกและดี 
แนะนำว่าควรจะมีติดกระเป๋าไว้นะจ๊ะ


---------------------------------


เอาละคะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า กับการทาลิปสติกแบบ Ombre
ซึ่งอย่างที่หลายๆคนเคยทราบว่ามันทาที่ขอบปากข้างในกับข้างนอกคนละสีกัน โดยใช้ได้ตั้งแต่สองสีขึ้นไปผสมกัน ซึ่งจริงๆ แล้วเพื่อนๆอาจจะยังไม่ทราบว่า Ombre มันมีมากมายหลายแบบเลยนะ
ซึ่งวันนี้ดาวก็จะมารวบรวมให้ดูว่ามันสามารถทาออมาได้แบบไหนบ้าง

ว่าแต่...มันจะเป็นอย่างไร อยากรู้แล้วลองตามไปดูกันเลยดีกว่าคะ

----------------------------------

วิธีที่ 1   การไล่สี  แบบแรกเป็นการไล่จากอ่อนไปเข้ม (สีอ่อนอยู่ข้างนอก สีเข้มอยู่ข้างใน)
โดยดาวเลือกใช้เฉดสีส้มอ่อน และใช้สีชมพูทาบางๆระเรื่อๆ เพื่อทำให้เรียวปากดูสุขภาพดี


วิธีที่ 2 การไล่สีจากเข้มไปอ่อน (สีเข้มอยุ่ข้างนอก สีอ่อนอยู่ข้างใน)
แบบนี้ดาวจะเลือกเฉดสีเดียวกันซึ่งก็คือสีม่วง แต่คนละโทนเพื่อให้้มันดูเป็นไฮไลต์บริเวณปาก



วิธีที่ 3 ไล่สีจากบนลงล่าง หรือ ล่างขึ้นบนก็ได้
ดาวเลือกใช้สีแดง กับ สีม่วงเพื่อให้มันตัดกันอย่างเห็นได้ชัดแต่ออกมาแล้วดูแปลกใหม่แต่ลงตัว



วิธีที่ 4 ไล่สีจากด้านข้าง ซ้ายไปขวา หรือ ขวาไปซ้ายก็ได้
ใช้เฉดสีโทนเดียวกันไล่จากสีเข้มไปสีอ่อนเพื่อทำให้เห็นว่ามันไล่สีกัน 



วิธีที่ 5 เลือกเฉดสีที่คล้ายกัน 
ดาวทำให้มันดูมีมิติของริมฝีปาก ซึ่งการทาลิปสติกสีน้ำตาล เผิญๆอาจจะดูสูงวัยได้
 ดาวจึงทำการไล่สีเพื่อให้มันดูมีมิติ จะได้ดูมีอะไรๆมากขึ้นคะ




วิธีที่ 6 ทาบริเวณขอบมุมปากแล้วไล่สีเข้ามา
เป็นอีกวิธีนึงที่จะสร้างสรรค์สีลิปของเราให้ดูเก๋ไก๋ ไม่ซ้ำใคร โดยการเลือกทาสีเข้มตั้งแต่ขอบปากไล่สีเข้ามาให้ดูเป็นสีอ่อนตรงกลาง นอกจากจะไล่สีไม่เหมือนใครแล้วยังช่วยทำให้นเรียวปากเล็กดูเอิ่บอิ่มขึ้นมาได้ด้วยนะ




ทีนี้เราลองมาดูไอเดียการผสมสีแบบอื่นๆกันบ้างนะคะ 
ซึ่งสีที่ดาวเลือกนี้ก็สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วยเพราะว่าแต่ละสีไม่แรงมากเกินไป
ซึ่งถ้าใครชอบสีไหนหรือ มีลิปสีไหนก็อาจจะลองนำไป ombre ตามกันได้นะคะ


แบบที่ 7 


แบบที่ 8


แบบที่ 9


แบบที่ 10

มาดุรวมๆกันนะคะ



(คลิ้กเพื่อดูรูปใหญ่)


เอาละคะ พอเป็นไอเดียคร่าวๆสำหรับการ Ombre ให้ดูทั้ง 10 เฉดสี
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ที่ดาวทำมันน่าสนุกใช่ไหมล่ะ
แล้วเพื่อนๆ ละคะ รออะไร หยิบลิปขึ้นมาสร้างสรรค์การ Ombre กันให้ไว
แล้วอย่าลืมมาอวดกันให้ดาวเห็นนะคะ ว่าลิปที่เพื่อนๆทาออกมาแล้วมันจะออกมาเป็นแบบไหน
ชักอยากจะเห็นไอเดียของคนอื่นบ้างแล้วล่ะสิ ><



#dujdowmakeup
Like DujdowFanpage on Facebook. Dujdowfanpage
Follow @darudow on Instagram.For questions, product reviews, advertisements and partnership, email me at dow.swnchot@gmail.com

2 ความคิดเห็น: