วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2558

REVIEW : BEGIN Nature Moisturizing Mist

ตอนนี้บ้านเราก็เข้าสู่summer แบบเต็มตัวแล้วว ช่วงนี้อากาศร้อนจริงจังมากๆเลยว่ามั้ยคะ 
สาวๆบางท่านมีปัญาหาเรื่องผิวหน้าแห้งบ้าง หรืออยากเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าระหว่างวันบ้าง
และกำลังมองหาไอเท็มพิเศษเพื่อเป็นตัวช่วยเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าเราอยู่ 
วันนี้ดาวมีไอเท็มคูลๆมาสนองนี้ดดดดให้ชมกันคะ



สำหรับไอเท็มดีๆที่อยากบอกต่อและที่กล้าพูดได้เลยว่ามัน cool มากๆ ใน summer นี้ ที่สาวๆไม่ควรพลาดกันเลย... 
นั่นก็คือ Moisturzing Mist คะ ตัวนี้เป็นการรวมตัวกันของ 3 การบำรุง
อย่าง Toner Moisturizer และ Serum เข้าด้วยกัน 
และเบลนรวมอยู่ในรูปแบบเดียวนั่นคือ สเปรย์พ่นแบบน้ำ... 





ตอนนี้สเปรย์ที่มอบความชุ่มชื่นมีหลายหลาย แต่หลายๆคนก็รู้ว่าสเปรยมันไม่ได้มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวหน้าอย่างตรงๆเท่าใดนัก 
เพราะฉะนั้นตัวนี้จึงแตกต่างออกไปเพราะมันเน้นการบำรุงเข้าไปด้วย 
มาดูส่วนผสมกันแล้วจะรู้ว่ามันบำรุงได้อย่างไร



ส่วนผสมที่เค้าเคลมกันว่ามาจากสารสกัดธรรมชาติที่หลากหลาย(จากกล่อง)ได้แก่.....
น้ำกุหลาบ, น้ำมันกุหลาบ, น้ำมันมะรุม, สาหร่ายทะเลแดง, สารสกัดจากใบลูกพลับ, ลูกเกาลัค, ต้นกระบองเพชรเกาหลี, ส้มและมะนาว, ว่านหางจะเข้, ไฮยาลูรอนิค, อาบูติน, วินตามิน c และ b3    

จากส่วนผสมเราจะเห็นตัวหลักๆ ก็คือ ส่วนผสมจาก ส้มและมะนาวที่เป็นกรดวิตามินซีที่จะช่วยทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้น 
และมี Hyaluronic จะช่วยทำให้หน้าชุ่มชื่น ยืดหยุ่น แม้ว่าเป็นเซลล์ผิวที่ไม่ได้ติดต่อกับเส้นเลือดโดยตรงก็ตามแต่ กรดไฮยาลูรอนิคจะช่วยเพิ่มการนำสารอาหารเข้าสู่เซลล์ผิวในส่วนนั้น  และยังช่วยกำจัดของเสียออกจากเซลล์เหล่านั้นอีกด้วย 
ดังนั้นนอกจากเติมความชุ่มชื่นหลังฉีดแล้วยังช่วยมอบสารอาหารและคุณประโยชน์ต่อผิวของเราอีกด้วย 
และที่สำคัญส่วนประกอบทั้งหมดมาจากธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมของแอลกฮอล์ 
ดังนั้นกลิ่นของมันก็ค่อนข้างที่จะแรงและฉุนนิดนึงสำหรับคำที่ยังไม่ชินและอาจจะกังวลเกี่ยวกับในเรื่องของความปลอดภัย 


 มีฝาพลาสติกใสปิดมาให้อีกชั้นนึง และหัวพ่นเป็นสเปรย์แบบ ปิ๊ดๆ อ่า



จากที่ดาวได้ใช้แล้ว จะได้ความรู้สึกได้ว่า พอฉีดไปได้สักพักนึง หน้าของเราจะเย็นขึ้น 
พร้อมได้กลิ่นสรรพสิ่งของสมุนไพรมากๆ แบบรู็เลยว่าธรรมชาติมากๆจากตัวสเปรย์ และพอมันเย็นขึ้นเราก็จะรู้สึกสดชื่นขึ้นมานิดนึง (คิดว่าอย่างนั้นนะ)
ส่วนใหญ่ดาวใช้ฉีดระหว่างวันก็ช่วยทำให้มันสดชื่นขึ้นเพราะมันเย็นๆ เบื่อๆก็ฉีด ไม่มีอะไรทำก็ฉีด 555


และนอกจากนั้นวิธีใช้อีกวิธีในคือ ใช้ทาร่วมกับครีม (ครีมที่เราใช้ทาบำรุงหน้าในทุกๆวันนั่นหล่ะ) 
สเปร์ยจะช่วยผลักครีมให้เข้าไปบำรุงได้ดีขึ้น โดยเฉพาะใช้ร่วมกับครีมลดรอยต่างๆจะยิ่งช่วยรอยให้จางลงได้มากกว่าใช้เดี่ยวๆ 
แต่ส่วนใหญ่ดาวพกไว้เพื่อเติมความชุ่มชื่นระหว่างวันนั่นแหละ เพราะด้วยอากาศบ้านเราแบบว่าร้อนมาก เดินกลางแดดตอนกลางวันนี่แสบหน้าสุด! 
พอร้อนแดดแสบหน้าดาวก็เอามาฉีดๆ พรมๆ ก็ช่วยทำให้สดชื่นระหว่างวันคือเวิคสุด

และเคล็ดไม่ลับการใช้คือ ดาวจะเขย่าขวดก่อนใช้เพราะที่ก้นขวดถ้าวางทิ้งไว้มันจะมีตะกอนอยู่
แต่ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะมันเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติจะไปรวมอยู่ที่ก้นขวด 
ก็เขย่าๆก่อนใช้ค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร

แต่ข้อเสียคือ ฝาเปิดสองรอบอาจจะยุ่งยากไปหน่อย ดาวก็เลยทิ้งฝาใสข้างในไป เหลือแต่ฝานอก
ส่วนหัวสเปรย์พ่นแล้วมันเป็นวงตรงกรอบหน้า พ่นแล้วไม่โดนตรงกลาง พอจะพ่นให้โดนตรงกลางสเปรย์ก็เลยไปโดนหู อีกอย่างก็คือ มันซึมออกมาเองได้ด้วย (เสียดาย)



ส่วนขวดมีสองขนาดนะค่ะ ขวดใหญ่กับขวดเล็ก เลือกเอาตามสะดวก แต่ขวดเล็กก็พกพาง่ายดีแต่หมดไวเพราะขวดก็ขนาดกระทัดรัด พวกพาสะดวก เก็บในกระเป๋าง่าย


อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าไอเท็มสุด cool ใน summer นี้
สำหรับดาวก็มีสเปรย์ moisturzing mist ตัวนี้แหละ 
ฉีดแล้วเย็น! เย็นจริง เย็นชื่นใจ เย็นดับร้อน 
มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่อันตรายต่อผิว ดาวใช้ไม่แพ้...

ใครกำลังที่มองหาสเปรย์น้ำแร่ หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยมอบความชุ่มชื่นอยู่ก็ลองดูตัวนี้ได้นะคะ 
จบแล้วสำหรับวันนี้ หวังว่ารีวิวนี้คงจะเป็นประโยชน์สำหรับสาวๆหลายๆท่านนะคะ 
เจอกันใหม่กระทู้หน้าค่า

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปดูได้ที่ 
https://www.facebook.com/thebeginofficial

วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558

REVIEW : Olay Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essense


สวัสดีค่ะ ดุจดาวกลับมาพร้อมกับข่าวคราวในเรื่องบิวตี้ๆกันอีกแล้ว
วันนี้จะมารีวิวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจากโอเลย์ที่ดาวได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวนี้พร้อมกับสาวๆบิ้วตี้บล๊อคเกอร์มากรวม รวมทั้งสาวๆจีบันทั้งหลายด้วย



ภายในงานนั้นมีการพูดคุยเกี่ยวกับเคล็ดลับการบำรุงผิวมากมาย พร้อมทั้งเคล็ดลับจาก หมอเอิง
พญ.อังศวรา ธีระตันติกานนท์ ที่มาแชร์เคล็ดลับส่วนตัวในการทำความสะอาดผิวหน้ารวมถึงการบำรุงผิวหน้าทำให้ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ของหมอเอิง เธอบอกว่าเธอใช้ Yogurt พอกลงไปที่ใบหน้าในทุกๆเช้าที่ตื่นนอนทุกวัน จะช่วยทำให้ผิวหน้านุ่ม (เคยลองแล้วมันนุ่มจริงๆ แต่พอกทุกวันต้องตื่นเช้ามากๆ เลยนะคะสาวๆ) และยังกระจ่างใส แล้วก็ยังพูดถึงการป้องกันริ้วรอยด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ตรงกับความต้องการของผิวอีกด้วย 

และ ยังได้พบกับ พี่ทราย Feonalita ที่มาสาธิตการใช้เครื่องตรวจสภาพผิวหน้ารวมไปถึงการพูดคุยเกี่ยวกับการบำรุงผิวหน้าและยังมาแต่งหน้าแบบรวดเร็ว ให้เราได้ดูกันอีกด้วย พี่ทรายน่ารักจริงๆ :)

เมื่อจบพิธีการขั้นตอนแล้วดาวก็ขอลองไปตรวจวัดสภาพผิวหน้าบ้างคะ
ตอนตรวจที่อึ้งสุดๆ เพราะเครื่องตรวจมันซูมลงไปได้ลึกมากๆ จนน่าตกใจ
และอึ้งกว่าเมื่อพบกับผิวหน้าตนเองที่เห็นที่ที่จอ !!!


สรุปคือ ดาวเป็นคนรูขุมขนกว้าง หน้ามัน ทำให้ริ้วรอยเกิดยากกว่าจำพวกคนหน้าแห้ง
แต่ว่าก็ไม่ใช่ไม่เกิดขึ้นนะค่ะ เพราะลองซูมไปที่หน้าผากแล้วก็พบว่า รอยมันเริ่มมาละ กรี๊ดมาก!
เค้าก็เลยแนะนำให้ลองเพิ่มเจ้าผลิตภัณฑ์ตัวใหม่
Olay Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence
เข้าไปในขั้นตอนก่อนการบำรุงผิวของเราค่ะ เพราะว่าเจ้าพรีเอสเซนส์ตัวนี้จะไปช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
ทำให้ผิวเรานั้นดูเปล่งปลั่งและอ่อนเยาว์ เหมือนเป็นการชะลอให้ผิวของเรานั่นร่วงโรยช้าลงนั่นเองค่ะ
ซึ่งดาวก็คิดว่า ช่วงวัยอายุขนาดดาวเนี่ย แม้ว่ายังจะไม่เยอะ
แต่เราก็ต้องเริ่มดูแลก่อนที่จะสายไปมากกว่านี้ค่ะ

มา พูดถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวเด่นของวันนี้แบบเจาะลึกกันค่ะ นั่นก็คือ
Olay Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence

พรีเอสเซนส์สูตรน้ำที่สามารถตรงเข้าบำรุงผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกกว่าครีมปกติถึง เท่า
ใช้เป็นขั้นตอนแรกสุดก่อนการบำรุงผิวด้วยเซรั่มหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ 
เจ้า Miracle Boost Pre-Essence ตัวนี้จะช่วยกระตุ้นสร้างเซลล์ผิวใหม่เพื่อให้ผิวคงความอ่อนเยาว์และยังเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของครีมที่เราใช้อยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและซึมซาบลงสู่ผิวได้ล้ำลึกยิ่งขึ้นกว่าเดิมแม้ว่าจะเป็นครีมตัวเดิมก็ตาม 
ลักษณะภายนอกคือเป็นขวดพลาสติกสีแดง ที่แลดูหรูและบรรจุผลิตภัณฑ์ไว้ 40ml.
จุดเด่นของเจ้าตัวนี้คือ บรรจุภัณฑ์นั้นอยู่ในรูปของหลอดหยดอัตโนมัติ 
เป็น Auto-Dropper ที่เราไม่ต้องบีบเอง เพราะเค้าจะกำหนดปริมาณการใช้ของเราในแต่ครั้งไว้ให้เราอย่างเหมาะสมแล้ว 
ซึ่งปริมาณการใช้แต่ละครั้งอยู่ที่ประมาณ 1-2 ดรอปเปอร์
เนื้อสัมผัสอยู่ในรูปแบบน้ำ วิธีใช้ก็หยดแล้วแตะไปที่ผิว เพื่อ 'เตรียมผิว' ก่อนการบำรุงผิวหน้าด้วยเซรั่มหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ปกติ หลังจากนั้นก็วนๆไปที่ผิว แปปเดียวเท่านั้นมันก็ซึมลงไปหมดแล้ว คือซึมง่ายแห้งไว ไม่มันเหนอะหนะค่ะ แล้วก็แนะนำให้บำรุงตามด้วยครีมบำรุงผิวตามปกติ หรือใช้คู่กับ Olay Regenerist Micro-Sculpting cream ที่เค้าแนะนำมา เพราะจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการบำรุงผิวได้ดียิ่งขึ้น เพื่อผลลัพธ์คือ ผิวจะดูอ่อนเยาว์ เนียนละเอียด และเปล่งปลั่ง มากยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ

ส่วนผสมของ Pre Essence เด่นๆคือ 
1. Niacinamide ช่วยกระตุ้นสร้างเซลล์ผิวใหม่ เพื่อผิวดูอ่อนเยาว์และริ้วรอยดูเลือนลง 
2. Amino Peptide - Pro Collagen molecules สารบำรุงสำคัญเพื่อผิวดูกระชับและริ้วรอยดูเลือนลง 
3. Olive สารสกัดจากผลมะกอก มีฤทธิ์เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากมลภาวะภายนอก พร้อมช่วยฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรง 
4. Lys'lastine สารสกัดจาก Dill Seeds ช่วยเพิ่มความนุ่มเด้ง ความยืดหยุ่นของผิว 
สรุปคือคุณประโยชน์ของเจ้าตัวนี้ยังมีมากมาย 
นอกจากจะซึมได้ไวมากแล้ว ยังช่วยเสริมทำให้ครีมบำรุงผิวเราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและซึมซาบได้ล้ำลึกยิ่งขึ้น
และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ความสามารถในการช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เพื่อผิวดูอ่อนเยาว์ เนียนละเอียด ริ้วรอยและจุดด่างดำดูลดเลือน
จากการทดลองจะเห็นได้ว่า แอปเปิ้ลข้างซ้ายถูกทาด้วย Preessence ยังคงสดใสเต่งตึง ไม่เหี่ยวไม่คล้ำหลังจากถูกวางทิ้งไว้
เพราะ Pre-essence มันช่วยมอบความชุ่มชื้นและอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ซึ่งต่างจากด้านขวาที่ไม่ได้ทา จะเห็นได้ว่าเนื้อของแอปเปิ้ลดูแห้งเหี่ยวและเป็นสีน้ำตาลคล้ำ

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น 
อายุดาว 20 กว่าๆแล้ว แม้ว่าอายุจะยังไม่เยอะมาก แต่แต่งหน้าเยอะมาก
จึงควรต้องเริ่มดูแลตัวเองเรื่องริ้วรอยด้วยแล้ว แม้มันจะยังไม่ได้ปรากฎชัดให้เราเห็น 
ดังนั้นควรเริ่มบำรุงด้วยเจ้า Olay Miracle Boost Pre-Essence
เพื่อคงความอ่อนเยาว์ให้อยู่กับเราได้นานที่สุดดีกว่าค่ะ 




สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถมองหา Olay Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence ได้แล้ววันนี้ที่ Beauty Store, Supermarket, และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปเดือนกรกฏาคมนี้นะคะ เก็บเงินรอไว้เลย 555
สนนราคา 899 บาท



ขอบคุณสำหรับ OLAY Thailand และ Jeban นะค่ะ 
สำหรับวันนี้ดาวไปแล้วนะค่ะ เจอกันใหม่กระทู้หน้า 
บ้ายบายย 

วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558

ฺReview : Bisous Bisous call me a crystal สวยเปล่งประกายดั่งคริสตัล

สวัสดีค่ะ ดุจดาวมาแล้ว ว ว 

วันนี้จะมารีวิวของที่ทางแบรนด์ Bisous Bisous ส่งมาให้นะค่ะ 
กับ Collection Call me a Crystal 
ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นที่เห็นตอนแรกคือมีความสง่างามน่าใช้มากๆ 
คอลเลคชั่นนี้ประกอบด้วย สีขาวและสีเงินเป็นหลัก

ประกอบด้วย 
Call Me a Crystal The Signature BB Cream SPF 27 PA++
Call Me a Crystal Universal Concealer
Call Me a Crystal Face Bright
Call Me a Crystal Brilliant Twist Mascara Extreme Volume
Call Me a Crystal Lipstick

**ในการรีวิวนี้จะพิจารณาด้วยความคิดเห็นส่วนตัวที่เกิดจากการทดลองใช้ด้วยตนเองนะคะ
 จะไม่ทำการอวยแบรนด์แต่อย่างใด ทุกความคิดเห็นเป็นความคิดเห็นส่วนตัว 
รีวิวเพื่อเป็นความรู้และเพื่อประกอบการตัดสินใจให้แก่ผู้ที่สนใจ


มาดูรีวิวกันทีละตัวนะค่ะ 
เริ่มกันที่

Call Me a Crystal The Signature BB Cream SPF 27 PA++



มีสองเฉดสี 01 ขาวอมชมพู 02 สำหรับผิวสองดี 
(ดาวใช้สี02เพราะจริงๆแล้วดาวไม่ได้ผิวขาวค่ะ แต่ออกไปทางเหลือง)

เป็นบีบีครีมสูตรใหม่ของทางBisous ใช้เทคโนโลยี Micro Rolling Grinding Technology ทำให้เนื้อบีบีมีอณูเล็กละเอียด ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนและปกปิดแพ็คเกจเป็น Airless Pump จะใช้ก็ปั๊มๆเอา แบบนี้จะปกป้องเนื้อครีมจากอากาศภายนอกซึ่งจะช่วยคงประสิทธิภาพของบีบีได้นานขึ้น 
นอกจากนั้นยังผสานการบำรุงไว้ด้วยสารบำรุงนานาชนิด 
เช่น Sodium Hyaluronate ตรงเข้าฟื้นบำรุงผิว ช่วยเติมเต็มน้ำหล่อเลี้ยงผิว และไม่ทำให้ผิวแห้งกร้าน
Willow Bark Extract ช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใส พร้อมผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ พร้อมเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และประสิทธิภาพจาก 
Actinidia Chinensis (kiwi) Fruit Extract และ Ananas Sativus (Pineapple) Fruit Extract ช่วยทำให้สีผิวแลดูสม่ำเสมอ รูขุมขนกระชับเรียบเนียน

โดยผลลัทฑ์การใช้ที่เค้าเคลมไว้ มีด้วยกันอยู่ 12 ประการ นั้นก็คือ 
- เนื้อสัมผัสบางเบา
- ผิวหน้าไม่ดรอปหรือหมองระหว่างวัน
- กลมกลืนกับสีผิว 
- ป้องกันผิวจากแสงแดดและรังสี UV
- ปกปิดจุดด่างดำและริ้วรอยให้ดูจางลง
 - ปรับสีผิวให้แลดูกระจ่างใส
- ผิวเรียบเนียนน่าสัมผัส
- เติมเต็มความชุ่มชื่นแก่ผิว
- ติดทนนาน ไม่เป็นคราบ
- กระชับรูขุมขนให้แลดูเล็กลง
- ควบคุมความมันตลอดวัน
- ผลัดเซลล์ผิวที่เก่า และเร่งสร้างเซลล์ผิวใหม่
ราคา 995 บาท


ที่ซีดขนาดนีเพราะเอาบีบีมาทาปากด้วย แหะๆ

ความรู้สึกส่วนตัวเมื่อได้ลองใช้ รู้สึกว่า สูตรมันก็คล้ายๆกับของเก่าค่ะ กลิ่นหอมให้ความรู้สึกเหมือนกัน แตกต่างกันไม่มาก ใช้แล้วรู้สึกมันเหลวเกลี่ยยง่ายกว่า บีบีตัวนี้สำหรับดาวค่อนข้างหนาค่ะ ทาแล้วรู้สึกว่าทาไปตอนแรกมันยังไม่กลืนกับหน้า ต้องรอไปสักพักมันจะเนียนเข้ากับสีผิว ส่วนในเรื่องของการปกปิด ดาวรู้สึกว่ามันปกปิดได้ดีค่ะ อาจจะเพราะว่ามันหนาด้วยทารอบเดียวอยู่ะค่ะ เห็นได้จากการที่ทดลองใช้ที่หน้าดาวมีรอยสิวอยู่ตรงแก้มประปราย ดาวไม่ทาคอนซีลเลอร์เพิ่มก็กลบรอบได้เกือบมิดแล้วเหลือแต่รอยใหญ่ๆไว้  ส่วนรอยเล็กๆมันอำพรางได้ดีค่ะ



Call Me a Crystal Universal Concealer

คอนซีลเลอร์เนื้อครีมเข้มข้น เกลี่ยง่าย แห้งเร็ว และเรียบเนียนกลมกลืนไปกับสีผิว ปกปิดริ้วรอยและจุดบกพร่องด้วยเทคโนโลยี Soft Focus & Silicon Powder ที่ช่วยในการหักเหของแสงทำให้อำพรางร่องรอยปกปิดไว้ได้ และเทคโนโลยี Lasting-Polymer Net-work System ที่ช่วยผนึกกำลังปกปิด และปรับสีคอลซีลเลอร์ให้กลืนไปกับสีผิว
ราคา 495 บาท 


Call Me a Crystal Face Bright

เฟส ไบรท์ เนื้อลิควิค สัมผัสนุ่มดุจแพรไหม ตัวช่วยที่ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใสทันที มีเทคโนโลยี Shining Mineral Powder ที่ช่วยผลักอณูแป้งเข้าสู่ผิวเพื่อผิวกระจ่างใสในพริบตา และเทคโนโลยี Silicone Gel Net-work System ที่รวมพลังปกปิดริ้วรอยและรูขุมขนได้อย่างตรงใจ สามารถใช้เกลี่ยเน้นเฉพาะจุดที่แสงตกกระทบเพื่อยกระดับความสว่างให้ใบหน้าดูมีมิติยิ่งขึ้น หรือจะทาทั่วใบหน้าเพื่อผิวที่ดีเปล่งประกายดั่งคริสตัล 
ราคา 495 บาท 



ดาวชอบสองตัวนี้เป็นพิเศษค่ะ ใช้คู่กันคือ เวิร์คมากๆ คอนซ๊ลเลอร์มีความเข้มข้นและปกปิดในระดับนึงสำหรับคนที่่มีรอยสิว ส่วนตัวดาวรอยสิวเยอะนะค่ะ ซึ่งมันก็ให้ผลลัพธ์การปกปิดได้น่าประทับใจเลยทีเดียว(ก็แหง่สิไม่งั้นไม่ประทับใจหรอก) แต่อาจจะไม่มากเท่าพวกเนื้อครีมแบบตลับ เพราะอันนั้นมันจะแห้งและข้นกว่าแบบนี้แต่คือมันเกลี่ยนยาก สำหรับเนื้อครีมแบบนี้และการปกปิดที่ทำได้ดีไม่รวมว่าเกลี่ยได้ง่ายถือว่าเป็นตัวที่น่าแนะนำอีกตัวเลยแหละค่ะ 

ส่วนสำหรับ เฟสไบรท์นี่คือ ชอบมากกกก แม้ว่ามันทาแล้วเหมือนไม่ทาอะไรเลยก็ตาม แต่มันให้ฟีลแบบเหมือนมีซิลโคนบางๆมาเคลือบหน้าเรา และพอเรามองรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแล้วจะพบว่า มันสามารถรับจุดกระทบแสงได้จริงค่ะ  ดูได้จากรูปที่แทรกไว้ ดาวทาบริเวณ T โซน คาง และโหนกแก้ม มันจะช่วยทำให้หน้าของเราดูมีมิติ และผิวดูใสมีออร่าได้ราวกับคริสตัลเลยอะ!





ใช้ฟองน้ำเบลนให้เข้ากับผิว พอแต่งหน้าเสร็จแล้วออกมาเป็นแบบนี้







คอนซีลเลอร์ให้การปกปิดดี เกลี่ยไว แห้งง่าย 
ส่วนเฟสไบร์ท ทาบริเวณ T-zone และจุดกระจายแสง จะช่วยทำให้แสงตกกระทบใบหน้าอย่างมีมิติ


สองตัวนี้ต่างกันที่สี เวลาใช้ก็ต้องดูดีๆ เพราะสีมันค้ลายกันมากก ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาของดาวก็คือ ต้องหยิบมันมาใช้ทั้งสองตั้วเวลาจะใช้ โดยใช้คอนซีลเลอร์กลบรอยก่อน แล้วใช้face Bright ทาตรงที่จุดตกกระทบกับแสง แล้วใช้ฟองน้ำเบลนให้เนียนไปกับผิว เพียงเท่านี่แหละ เราก็จะมีผิวหน้าที่ดีที่โกลวมีออร่าแบบดีงาม 








Call Me a Crystal Lipstick

ลิปสติกเนื้อ Cream Matte อณูเม็ดสีเล็กละเอียด ปราศจากความมันวาว พิกเม้นต์แน่นสีชัดแน่นติดทนนานด้วยสูตร Long Lasting เนื้อสมูธ ทาง่ายเนียนเรียบไปกับริมฝีปาก 



แพ็คเกจเลอค่ามากกก ถือมาทาใครก็ต้องมอง
เพราะมันน่ารัก ฟรุ้งฟริ้งมั่กๆๆๆๆ  เห็นแล้วงอแงจะเอาๆ กันเลยทีเดียว





Call Me a Crystal Lipstick ทั้ง 4 เฉดสี
พร้อมคุณค่าการบำรุงจาก Shea Butter สุดยอดมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่บำรุงให้ผิวชุ่มชื่นยาวนาน และ Vitamin E ที่มีประสิทธิภาพเป็นสารต้าน Anti-oxidant และอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องริมฝีปากไม่ให้แห้งกร้าน ให้คุณได้อวดริมฝีปากเปี่ยมเสน่ห์เย้ายวน
ราคา 795 บาท



เฉดสีโทนสีส้มทั้ง 4 สี



ความรู้สึกส่วนตัวที่ใช้ คือเนื้อครีมมันเหมือนกับคอลเลคชั่นที่แล้วที่เคยรีวิวไป เนื้อเป็น Creammy Matte ซึ่งจะเป็นเนื้อครีมที่เข้มข้น ไม่แฉะปากไม่เยิ้ม คือเป็นเนื้อครีมแต่ผลลัทธ์การทาคือเป็นแมทท์ ที่ไม่ทำให้เราดูปากแห้ง เหมาะสำหรับคนที่ชอบทาเนื้อแมทท์แต่ประสบปัญหาปากแห้ง ตกร่อง ทาไม่สวย ตัวนี้จะมาเติมช่องว่างระหว่างตรงนี้ให้ผู้ที่ประสบปัญหาเหล่านี้ได้ค่ะ 
และส่วนตัวคือชอบลิปของ Bisous อยู่แล้ว เพราะคือ เนื้อลื่นทาง่าย รอบเดียวอยู่ พิกเม้นแน่น โอเค พูดแค่นี้หลู่เลื่องนะค๊าา อิ้อิ้ 
ทีนี้มาดูแต่ละสีกันบ้างเลยดีกว่าค่ะ คอลเลคชั่นนี้เน้นสีส้มเนาะ ทั้งนู้ดส้ม ส้มจัด ส้มแดง 
แอบสปอยคอลเลคชั่นนี้ชอบ COR04 มากที่สุดเลยอะ 




COR01 - ส้มนู้ด ยังคงแลดูเป็นธรรมชาติ  ปากไม่ป่วยคะ สีสวย



COR02 - ส้มธรรมชาติ ทาแล้วเหมือนปากอมส้มแบบธรรมชาติๆเลยหละ



COR03 - ส้มจี๊ด เปรี้ยวสะบัด เหมาะกับวันที่เบื่อๆ หยิบสีนี้มาทาได้ลุคจี๊ดๆ แซ่บๆ



COR04 - ส้มอมแดง บอกไม่ถูกว่าทำไมชอบสีนี้มาก ทาแล้วหน้าแลดูผ่องสุด ทาแล้วดูสดใส





Call Me a Crystal Brilliant Twist Mascara Extreme Volume


ราคา 695 บาท
 คุณพระ! มันมาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบหมุนอัตโนมัติ โดยมีมอเตอร์อยู๋ตรงด้านที่จับตอนปัด
ตื่นเต้นมากถึงมากที่สุด  555

ขออภัยไม่มีรูปแต่มีวีโดโอที่เคยใช้ไว้ เดี๋ยวจะนำมาให้ดูภายหลังนะค่ะ 
ตัวเนื้อมันเมื่อปัดแล้วจะพบว่าเนื้อมันช่วยทำให้ขนตาหนาขึ้น ไม่ได้ช่วยในเรื่องของความยาว 
ปัดเฉยๆก็ได้ หรือจะใช้มอเตอร์ก็ได้ ใช้ได้สองแบบ 
แต่แหม่.. พอมีมอเตอร์ใครหล่ะ จะอยากปัดเอง 
ก็เปิดแล้วหมุน สนุกใหญ่เลย แต่ต้องใช้ดีๆเพราะมันจะดึงขนตาเรา เข้าไปในซอกแปรง

วิธีใช้คือ อย่าค้างไว้นิ่งๆค่ะ ต้องเอามือเราขยับเข้าขยับออกด้วย
ไม่อยากนั้นหัวแปรงมันจะเอาขนตาเราเข้าได้

และพบว่าแปรงตัวนี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีตาขนาดเล็ก เพราะหัวแปรงค่อนข้างใหญ่ และบางครั้งอาจเลอะเปลือกตาด้วย เพราะฉนั้นเราต้องปัดมันด้วยสติและความระมัดระวังดังสองเหตุผลที่ได้กล่าวมาค่ะ


จบแล้วค่า สำหรับรีวิวนี้ ถ้าใครสนใจก็สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 



ขอขอบคุณ Bisous Bisous Thailand ที่ส่งผลิตภัณฑ์มาให้ทดลองใช้ค่ะ 

หวังว่ารีวิวนี้คงจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ
และสำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนแล้วค๊าา เจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ


#dujdowmakeup #tudrummajor#drummajor70
Like dujdowmakeup on Facebook.
Follow @darudow on Instagram.
For questions, product reviews, advertisements and partnership, email me at dow.swnchot@gmail.com