วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

REVIEW : YSL LE CUSHION ENCRE DE PEAU 'อิ้งค์-อิน-คุชชั่นสูตรแรกจากอีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์ โบเต้ รองพื้นในรูปตลับหมึก เพื่อผิวให้สวยสมบูรณ์แบบ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ และแล้วก็ถึงคราวของประเทศไทยเราสักทีที่ได้นำคุชชั่นตัวนี้เข้ามา
วันนี้ดาวรีบมาอัพเดทให้ดูเลยสำหรับ สำหรับของที่อยู่ในมือดาวตอนนี้
ดาวเชื่อว่าสาวๆ จะต้องกรีดร้องกันอย่างแน่นอน เพราะตอนที่ของมาถึงมือดาวก็กรีดร้องหนักมาก
เค้าคือตัวนี้นั่นเอง “YSL LE CUSHION ENCRE DE PEAU”
คุชชั่นสูตรแรกของ อีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์ โบเต้ เป็นตัวใหม่ล่าสุดที่เข้ามาวางขายในประเทศไทย ที่บอกเลยว่าก่อนเข้ามาก็กระแสแรงมากๆแล้ว และเป็นคุชชั่นที่ดาวเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งตัวที่สาวๆ ตั้งหน้าตั้งรอรอคอย
เพราะนอกจากมันจะมีคุณสมบัติเป็นรองพื้นแล้วแพคเกจของเค้ายังไฮโซโก้เก๋สะดุดตาผู้หญิงอย่างเราๆ ด้วย
ดาวเชื่อเลยว่าเป็นคุชชั่นอีก 1 ตัวที่สาวๆ ใฝ่ฝันอยากจะครอบครอง >< ก็แหมมม มัน
เอาเป็นว่าเราตามมาดูรีวิวกันก่อนดีกว่าว่าคุชชั่นตัวนี้เค้าจะน่าเป็นเจ้าของกันขนาดไหน


คุชชั่นตัวนี้เป็น New Product ใน Line ของ ENCRE DE PEAU เป็นรองพื้นที่สาวๆ ทุกคนเคยกรี๊ดกร๊าดกันมาก่อนเพราะมันให้ลุคที่เป็นงานผิ๊วผิว

คนรักงานผิวจะชื่นชอบและกดเลิฟ แต่! คุชชั่นตัวนี้เป็นสูตรที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ เพราะฉะนั้นมันก็มีความต่าง
ซึ่งเป็นอะไรที่เราจะเลิฟมากกว่าเดิม เพราะสิ่งที่ต่างออกไปนั่นคือ....
คุณสมบัติที่ให้การปกปิดที่มากขึ้น แต่ผิวยังดูธรรมชาติอยู่
แถมเป็นตลับพกพาง่าย สามารถเติม touch up ระหว่างวันได้ พกแล้วก็แสนเก๋ ถือแล้วสวยหรูดูแพงมีคลาสมากๆ






ในส่วนของ Package ก็อย่างที่เห็นแหละว่าแพคเกจเค้าสะดุดตาขนาดไหน
ตลับหรูหรามีระดับด้วยสีทอง-ดำมันวาว แฝงไปด้วยความเท่ ความมั่นใจและทำให้ดูหรูหรา คลาสสิค น่าใช้งาน
มีสัญลักษณ์ YSL ฝังอยู่ข้างหน้าแบบขลังๆ
สำหรับตัวนี้แบรนด์ จัดได้ว่าเป็น accessory แนวสตรีทสไตล์ที่ดูดีมีระดับ
สำหรับดาวคิดว่าไม่ใช่แค่เครื่องสำอางแต่ยังเป็นเครื่องประดับที่พกแล้วดูสวย​หรู​อีกด้วย
ในส่วนของแพคเกจนี้ดาวเทคะแนน+เทใจให้เลยเต็ม 100 เลย แบบว่าเห็นแค่เพคเกจสาวๆอย่างเราก็อยากจะครอบครองแล้วจริงมั้ย ?


ส่วนด้านหลังก็จะมีบอกเบอร์สีที่เราใช้ และบอกรายละเอียดผลิตภัณฑ์ เค้าเขียนว่า Liquid Foundation Compact – All day wear. Flawless Coverage Shine Free. Moisturising Freshness ซึ่งใครที่ยังไม่ทราบพอมาอ่านดูคร่าวๆ ก็ต้องร้องอ๋อว่ารองพื้นตัวนี้งานผิวแน่นอน


เอาหละ พอกดเปิดเข้ามาก็จะเจอแผ่นพัฟฟ์ (pillow applicator) อยู่ข้างในตลับ วางอยู่ข้างบนฝาปิดตัวคุชชั่นเพื่อไม่ให้ระเหย
สำหรับฟองน้ำของเค้านุ่มมากกกกกกก มีความละมุนหน้าที่สุด ด้านหน้าจะเป็นสีดำมีสายคาดที่ปักลาย YSL ให้ขนลุกยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนอีกด้านจะเป็นฟองน้ำสีเนื้อ มีรูเล็กละเอียด ช่วยเกลี่ยรองพื้นได้สม่ำเสมอและนวลเนียน
สามารถจับผิวได้ดี ซึบซับเนื้อคุชชั่นได้ในปริมาณที่เหมาะสม (เทคนิคคือ เราต้องกดคุชชั่นแต่พอดี ไม่แรงจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้มีปริมาณคุชชั่นติดมาที่ฟองน้ำเยอะเกินความพอดีในการลงรองพื้น)


ชื่นชมข้างบนเสร็จแล้วเปิดตลับมาเจอข้างล่าง แต่เอ๊ะยังไม่เจอของจริงหรอก เพราะต้องเจอ Seal ก่อน
ทีนี้พอเราจะใช้ก็แกะมันออกมาค่ะ (ขนาด Seal ยังขลังโดยการพิมคำว่า YSL ดาวนี่ไม่กล้าทิ้งเลย เอาไปแปะไว้บนชั้นบนฝาปิด มันเลอค่าจนไม่อยากทิ้งแม้กระทั่งพลาสติก ฮ่าๆ ) 



ตื่นเต้นมากกกกกตอนเปิด พอเปิดออกมาก็จะเป็นเยี่ยงนี้เนื้อคุชชั่นจะอยู่ในแผ่นฟองน้ำ ขอบอกว่าคุชชั่นฟูมาก อิ่มมาก ไม่ต้องกดก็ติดนิ้วมือแล้ว อ่อ ช่วงที่ใช้แรกนี่ต้องระวังอย่ากดแรง ไม่งั้นมันจะติดฟองน้ำมาเยอะไปค่ะ)

สำหรับรองพื้นตัวนี้มือเทคโนโลยี อิ้งค์-อิน (ink-in) ที่เค้าบอกว่าจะหลอมรวมรองพื้นเป็นหนึ่งเดียวกับผิวราวกับน้ำหมึกพร้อมความติดทนนานด้วยสูตรเทคโนโลยีแอร์ไลท์ ฟิล์ม ฟอร์มมิ่ง (Air-light Film Forming System)
พอทาไปแล้วจะรู้สึกได้เลยทันทีว่าเย็นสบายผิวและเบาผิวหน้ามาก เพราะมีสูตรลิควิด-ทู-พิกเม้นต์ (liquid-to-pigment)

ตัวนี้การปกปิดจะอยู่ที่ระดับ Light to Medium เนื้อ คือสามารถปกปิดได้ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว
สามารถ Buildable ได้แต่ก็อยู่ในระดับ medium ไม่ถึงกับปิดปกได้เนียบกริ๊บ เพราะเค้าเน้นที่ความเป็นธรรมชาติ ย้ำว่ายังคงเป็นงานผิวอยู่ สำหรับคนที่มีปัญหาผิวจริงๆก็แนะนำให้ใช้คอนซีลเลอร์ช่วยค่ะ

ดาวชอบเนื้อสัมผัสของรองพื้นตัวนี้ที่กึ่งแมทท์เบาๆ ทาแล้วแห้งซึมเข้าสู่ผิวทันที
ลูบแล้วไม่มีติดมาตามมือเลย แห้งคือแห้ง
ด้วยเทคโนโลยีที่เค้าว่า Ink-In อารมณ์เหมือนเวลาเราทำน้ำหมึกหยดลงเสื้อแล้วน้ำหมึกซึมลงเสื้อ มันก็จะแห้งติดเสื้อไปเลยทันที ทำนองเดียวกันกับสัมผัสการใช้รองพื้นตัวนี้....เหมือนกันเลย คือทาไปแล้วซึมสู่ผิวทันที
พอทาสักพักแล้วลองไปจับที่หน้าอีกทีก็รู้สึกได้เลยว่าเหมือนไม่ได้ทา คือมันซึมลงสู่ผิวทันทีแถมรู้สึกเบาสบายผิว
และชอบตรงที่มีความชุ่มชื้นที่ผิวหน้ากำลังดี ไม่แห้งไป ไม่ฉ่ำเกินไป


แต่ในขณะที่เนื้อสัมผัสของรองพื้นตัวนี้กึ่งแมทท์เบาๆ ทาแล้วแห้งซึมเข้าสู่ผิวทันที
ลูบแล้วไม่มีติดมาตามมือเลย แห้งคือแห้ง
ด้วยเทคโนโลยีที่เค้าว่า Ink-In อารมณ์เหมือนเวลาเราทำน้ำหมึกหยดลงเสื้อแล้วน้ำหมึกซึมลงเสื้อ มันก็จะแห้งติดเสื้อไปเลยทันที ทำนองเดียวกันกับสัมผัสการใช้รองพื้นตัวนี้....เหมือนกันเลย คือทาไปแล้วซึมสู่ผิวทันที
พอทาสักพักแล้วลองไปจับที่หน้าอีกทีก็รู้สึกได้เลยว่าเหมือนไม่ได้ทา คือมันซึมลงสู่ผิวทันทีแถมรู้สึกเบาสบายผิว
และชอบตรงที่มีความชุ่มชื้นที่ผิวหน้ากำลังดี ไม่แห้งไป ไม่ฉ่ำเกินไป


มี 6 เฉดสีให้เลือก มีตั้งแต่เบอร์ 10-60 ดาวมีโอกาสได้ลองเป็นช่วงแรกๆ ที่มีแค่สีเดียวเลยได้เบอร์ 20 ซึ่งขอบอกว่ามันยังขาวกว่าหน้าดาวไปมากและคิดว่าเหมาะกับคนที่มีผิวเฉดชมพู ซึ่งยังไม่ค่อยตรงกับผิวของดาวสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นสี 30 ทีลดลงมา 1 เฉดนี่น่าจะกำลังโอเค ซึ่งเพื่อนๆสามารถไปลองเทสดูสีที่เหมาะกับเราได้ทีที่เคาเตอร์กันได้เลยนะคะ
และสำหรับตัวนี้มี SPF 23/ PA++ ที่ช่วยปกป้องแสงแดด แต่ทางที่ดีเราก็ควรทากันแดดที่หน้าเพื่อป้องกันไว้ก่อนนั่นและจะดีที่สุด
ส่วนสำหรับกลิ่น มีกลิ่นของน้ำหอมสไตล์ YSL นั่นแหละ หอมอ่อนๆ น่าหลงใหล กลิ่นไม่โอเว่อร์จนเกินไป 
ปริมาณสุทธิ 0.51 oz./ 14g. ราคา 2300 บาท




สรุป สำหรับตัวนี้ดาวหลังจากที่ดาวได้ทดลองใช้ไป ดาวอินกับเนื้อคุชชั่นของเค้ามาก ให้ผ่านเลยค่ะคุณภาพของรองพื้น(ยกเว้นสีของมันที่ยังไม่ตรงผิว ถ้าได้ตรงสีผิวจะปลื้มปริ่มกว่านี้เลย)
ช่วงนี้บอกเลยว่าดาวเอาพกติดกระเป๋าไว้ตลอด เพราะเวลาออกไปข้างนอกก็หยิบมาอวดคนอื่นได้ ฮ่าๆ
ถือได้ว่าเป็น must have item accessory ของสาวๆ fashionista เลยแหละ


จะบอกว่าช่วงนี้ดาวติดคุชชั่นมากๆ เพราะนอกจากพกพาสะดวกแล้วยังช่วยประหยัดเวลาการลงรองพื้นไปได้เยอะเลย(แถมให้ผลลัพธ์ที่เนียนและบางเบากว่าด้วย) อย่างที่เค้าว่ามีรองพื้นดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง แต่แค่นั้นไม่พอต้องรู้วิธีใช้ด้วย
สำหรับวันนี้ดาวจะมาบอกเทคนิคการใช้ Cushion ตัวใหม่ของ YSL ใน Line ENCRE DE PEAU​ กันคะ นั่นก็คือ
1.            PRESS : กดแผ่นพัฟฟ์ลงบนตลับหมึกเบาๆ
2.            INK : ปล่อยให้เนื้อรองพื้นถ่ายเทจากตลับหมึกสู่แผ่นพัฟฟ์ และจากแผ่นพัฟฟ์สู่ผิว
3.            STAMP: สอดนิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางเข้าไปใต้แถบผ้า แล้วลงน้ำหนักมือทีละนิ้ว กดแผ่นพัฟฟ์ลงบนผิวเบาๆ โดยเริ่มจากขอบพัฟฟ์ด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง เหมือนคุณกำลังม้วนแผ่นพัฟฟ์ไปบนผิวช้าๆ
แค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆ เท่านี้ก็ได้ผิวสวยพร้อมอวดแล้วหล่ะค่ะ




ดาวแอบแต่งหน้าลุคสุขุมแต่เรียบหรูสไตล์ Cara Delevingne มาให้ดูกันด้วย จะแต่งให้เหมือนไม่ได้จริงๆเพราะแต่ด้วยเบ้าหน้าที่อยู่คนละแถบซีกโลก เลยขอเอาแค่สไตล์มาพอ  โดย Makeup Point  เริ่มจากผิวดีโดยใช้ cushion ตัวใหม่ของ YSL​ ทาตาเข้มๆ ด้วยอายแชโดว์สีน้ำตาลและทาอายไลน์เนอร์สีดำให้ลุคขรึมแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นจากลิปสติกสีส้มอมชมพู แค่นี้ก็เรียบร้อย




ซึ่งใช้ไอเท็มเหล่านี้
  1.   YSL LE CUSHION ENCRE DE PEAU - no.20
  2.   Naked Smoky สี Radar ทาลงไปใหทั่วบริเวณเปลือกตาแล้วเบลนให้ดูฟุ้งกระจาย
  3.   Beauty People Flash Fix Pearl Pigment - no.06 Wood Light ทาทับลงไปกึ่งกลางดวงตาให้ดูมี    ประกาย
  4.   NARS Minorque Kohliner ทาอายไลน์เนอร์สีดำสนิทลงไปทั้งขอบตาบนและล่าง
  5.  Charlotte Tilbury Cheek to Chic Blusher สี Ecstasy ปัดแก้มสีชมพูอมส้มเพื่อให้ผิวดูสุขภาพดี

      6   YSL Rouge Volupte Shine Lipstick – no.15 Corail Intuitive สีส้มอมชมพูเนื้อครีมมีทำให้ปากดู              ชุ่มชื้น

                                       และเมื่อแต่งออกมาทั้งหมดก็จะได้ลุคตามนี้เลยค่ะ ^^





หวังว่าบล็อกนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆที่กำลังหาข้อมูลอยู่นะคะ
สำหรับวันนี้ดาวต้องขอตัวลาไปก่อนแล้ว เจอกันใหม่ครั้งหน้าจะเป็นอะไรต้องติดตามค๊า


ดุจดาว

Like DujdowFanpage on Facebook. www.facebook.com/dujdowfanpage
Follow @darudow on Instagram.For questions, product reviews, advertisements and partnership, email me at dow.swnchot@gmail.com


วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2559

เห่อ Babalah Limited Edition Set ฉลองครบรอบ 1 ปีกับเซ็ตของขวัญสุดพิเศษ



สวัสดีค่ะเพื่อนๆ กลับมาอัพเดทเรื่องบิวตี้ ความสวยความงามกับดาวอีกแล้ว
สำหรับวันนี้ดาวเพิ่งมีโอกาสได้รับสิ่งๆนี้มา นั่นก็คือ..... Babalah Limited Edition Set นั่นเอง เย้ๆซึ่งดาวก็ได้มาเห่อให้ดูในคลิปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สามารถจิ้มๆ เข้าไปดูได้ที่วีดีโอที่แปะไว้เลยนะคะ
อารมณ์เห่อมันล้นเหลือเกินตัวหนังสือจริงๆ

ที่ดีใจเพราะว่าสิ่งที่ได้รับมานี่เค้าเป็นกล่องที่มีความพิเศษ คือเป็น Limited edition ที่ทำออกมาเฉพาะ 5000 กล่องเท่านั้นบนโลกนี้ OMG!

 คือหมดแล้วหมดเลย....แล้วเรามีอยู่ในครอบครองก็เลยรู้สึกชนะ 555
โดยความพิเศษที่ว่านี้มาจาก...กล่องนี้เค้าทำพิเศษขึ้นมาเพื่อฉลองครอบรอบ babalah 1 ปี โดยจะเป็นการรวมกันตัวกันของสินค้าขายดี 3 อย่าง สำหรับดาวได้เซทผิวขาวนะมานะคะ
ซึ่งมีอะไรบ้างขออุบไว้ก่อนเพราะอยากให้ตามไปดูในวีดีโอเอง แอร้ยยย...


เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้แล้วว่ามีอะไรบ้าง อย่าลืมตามไปดูกันนะคะ เย้




สำหรับวันนี้ก็มาอัพเดทกันให้ดูพอหอมปากหอมคอ สำหรับ Limited Edition ของบาบาร่าตัวนี้
ราคาเซ็ตนี้อยู่ที่ 1190 บาท สำหรับสาวกบาบาร่าต้องห้ามพลาดกันเลยทีเดียว!
เอาเป็นว่าสำหรับวันนี้ดาวขอตัวลาไปก่อน เจอกันใหม่บล็อกหน้าจะมาอัพเดทความสวยอะไรอย่าลืมติดตามนะคะ สำหรับวันนี้ไปก่อนแล้วจ้า 

บ้ายบาย


#hual#babalah#babalahset#babalahlimitededition#limitedset#แป้งบาบาร่า#แป้งหน้าเด้ง#แป้งหน้าเนียน#ลิมิเต็ดเซ็ต
#dujdowmakeup

Like DujdowFanpage on Facebook. www.facebook.com/dujdowfanpage

วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559

Review ทำผมสีส้มไฉไลด้วยตัวเอง Lolane Z cool Milk Color Y16 – Orange Yogurt (New Color!)


สวัสดีค่ะทุกคนดาวกลับมาอัพเดทความสวยกันแล้ว วันนี้เป็นเรื่องของสีผม
และเป็นการทำสีผมด้วยตัวเองด้วย เอ้อออ 
ทำเอง สวยด้วยตัวเองไปอี๊กก...

หลังจากที่มีช่วงนึงย้อมผมแบบตะบี้ตะบันย้อม 5 สี ใน 1 เดือนก็มีเวลาพักผมไปนานเลย
ดาวปล่อยให้ผมดำขึ้นอยู่ซักพัก เพราะคิดว่าจะพักผมแล้วจะย้อมเข้มแล้ว

แต่ Lolane ดันออกสีมาใหม่มายั่วอีก (ออกมาใหม่ 4 สี)
เห็นแล้วอดใจไม่ไหวจริงๆ เลยขอโดนสักหน่อย

ซึ่งวันนี้ดาวก็มาปักหลักลงที่ยี่ห้อที่เคยใช้แล้วชอบสำหรับการทำสีผมเอง
นั่นก็คือ Lolane Z-cool Color Milk

ครั้งที่แล้วดาวทำสีบลอนด์อ่อนประกายทองจัด (สี Y-1) ของโลแลนด์แล้วรู้สึกติดใจม๊ากกกกก
สีติดชัด ติดทน คือสีติดดีมากจนติดใจเลยแหละ และครั้งนี้ก็เลยตัดสินใจทำเองไม่ง้อร้านเลย

ครั้งนี้เลือก Lolane Z-cool Milk Color สี Y-16 Orange Yogurt น้ำตาลอ่อนประกายทองแดง
เป็นธีมสาวมั่น รักเสียงดนตรี รักอิสระและเป็นตัวของตัวเอง
จะบอกว่าทำแล้วเป็นตัวของตัวเองมากๆ ทำสีผมสีนี้ใครๆ ก็จำได้ ฮ่าๆ


ก่อนย้อมดาวดูสีผมที่เราคาดหวังไว้ตรงข้างกล่องก่อน ดาวดูสีอ่อนสุดก่อนเลยเพราะว่าผมดาวสีทองมาก ซึ่งเป็นสีทองที่ผ่านการฟอกมาแล้ว เพราะฉะนั้นย้อมยังไงสีก็ติดแน่นอน

ที่ดาวเลือกสีนี้จริงๆ ขอสารภาพว่าดาวนึกว่ามันจะออกสีแดง หน่อยๆ แต่สรุปลืมอ่านชื่อภาษาอังกฤษ
ว่ามันคือสีส้ม ดาวเลยทำผมสีส้มแบบไม่ได้ตั้งใจซะงั้นอะ...
แต่ถึงไม่ได้ตั้งใจ สุดท้ายดาวก็แฮปปี้กับสีนี้มากนะ

เอาหล่ะ อย่าช้า เรามาดูขั้นตอนการทำผมด้วยตัวเองกันดีกว่า


เริ่มจากต้องอ่านข้อมูลให้ละเอียดก่อนนะ แม้ว่าจะเคยทำมาแล้วก็ตาม เพราะว่าบางยี่ห้อเค้าอาจจะมีข้อควรระวังและขั้นตอนการใช้ที่แตกต่างกันกันไป 
เพราะฉะนั้นเราศึกษาให้รอบคอบก่อนจะดีที่สุด และเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่จะเกิดด้วยหละ...

อีกเรื่องคือควรทดสอบอาการแพ้ก่อนการย้อมสำหรับคนที่กลัวว่าจะแพ้และไม่มั่นใจนะคะ

สิ่งทีเค้าให้มาในกล่องคือ
  •       Lolane Z- Cool Color milk
  •       Lolane Cream Developer
  •       ถุงมือ 1 คู่
  •       ครีมนวดบำรุงผมหลังการทำสีผม Lolane Intense care keratin repair mask Rejunevating hair damaged from coloring เพื่อบำรุงผมหลังทำสีผม

แล้วก็เตรียมอุปกรณ์เพิ่มคือ
  •       ที่หนีบผม + หหนังยางรัดผม
  •       หวี
  •        กระจก

  • Egyptian magic หรือ วาสสลีนก็ได้ เพื่อป้องกันสีย้อมติดผิวหนังเรานั่นเอง



ขั้นตอนการทำสามารถทำได้เองที่บ้านง่ายๆ แค่ผสมส่วนผสมที่เค้าให้มาทั้งหมดให้เข้ากันแล้วก็ทาลงไปบนผม

ที่เหลือเป็นเรื่องของดวงว่าจะติดเท่ากันมั้ย เย้ยยยย! ไม่ใช่!! 
ขึ้นอยู่กับความชำนาญ ต่างหาก

เทคนิคส่วนตัวของดาวจะปาดครีมสองรอบ รอบแรกเหลือตรงโคนไว้ประมาณสองเซ็น
ส่วนรอบ2 ดาวจะย้อมเก็บตรงโคนที่เหลือค่ะ

***ทีต้องทิ้งที่โคนไว้ก็เพราะ ตรงโคนจะมีความร้อนกว่าตรงปลายผม แล้วความร้อนมันจะทำปฏิกิริยากับสารเคมีได้ดีกว่า เพราะฉะนั้นสีจะติดได้ไวและดีกว่า ดังนั้นเพื่อป้องกันการที่โคนผมสีติดดีกว่าปลายผมก็แนะนำให้ปาดครีมสองรอบแบบที่ดาวทำ เพราะถ้าย้อมไปรอบเดียวสีอาจจะติดไม่เท่ากันก็เป็นได้***


เอาหล่ะ เริ่มผสมเลย หมุนหลอดแล้วเจาะ เสร็จแล้วบีบผสมลงในขวด จากนั้นเขย่าๆให้เข้ากัน ซึ่งสะดวกมากๆ


รูปแรกให้ดูผมดำที่ขึ้นมาซะก่อน มีความด่างอะไรเบอร์นั้นหล่ะ
จากนั้นก็แบ่งผมบนล่างแล้วแบ่งครึ่ง ค่อยๆ ทยอยย้อมทีช่อเล็กๆ ทีละนิดๆ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องหยิบช่อผมเยอะ เพราะเดี๋ยวมันจะติดไม่ทั่วถึง



จากนั้นก่อนย้อมดาวทา Egyptian magic ลงไปบริเวณขอบๆ ผมก่อน สีมันจะได้ไม่ติดผิวหนัง โดยเฉพาะตรงขอบผมบนหน้าเรา ถ้าด่างนี่อายเค้าตายเลย



สวมถุงมือแล้วเริ่มเลย! ค่อยๆบีบใส่มือกับผม และขยี้ๆให้มันเข้าผมด้วยนะ





Lolane Z cool Color Milk สูตรนี้ดาวชอบมาก ตัวครีมย้อมผมเนื้อครีมสูตรน้ำนมใช้สะดวก เกลี่ยง่ายผมไม่เป็นก้อน มีเทคโนโลยี Micro Crystal ช่วยดับกลิ่นเคมี และยังช่วยพาเม็ดสีเข้าสู่โครงสร้างเส้นผมได้อย่างล้ำลึกสม่ำเสมอ ทำให้สีสดฉ่ำ ประกายสีชัดเจน เงางาม

ยังมีคุณค่าจากน้ำนมฮอกไกโด (Hokkaido Milk Extract) น้ำนมโปรตีนสูง ช่วยมอบความชุ่มชื้น ทำให้ผมนุ่มหลังการทำสีผมราวกับทำทรีตเม้นท์น้ำนมอย่างไงอย่างงั้นเลยแหละ
ยังมีอนุพันธ์วิตามินซี ที่ช่วยทำให้ผมประกายสวย จัดจ้านขึ้นด้วยนะ มิน่าหล่ะ สีออกมาแหล่มม๊ากก




แม้ว่ามันจะสะดวกโดยที่ผสมในขวดได้เลยก็ตาม  แต่ย้อมไปย้อมมาสุดท้ายกล่องที่สองดาวเลยผสมในถ้วยแล้วใช้แปรงปาด เพราะมันไม่สะใจอะนะ แนะนำสำหรับคนที่มีถ้วยย้อมอยู่แล้วจะสะใจกว่า



ย้อมไปแปปเดียวประมาณ 10 นาทีก็เริ่มทยอยเปลี่ยนสีแล้ว เร็วมากๆ เห็นได้อย่างชัดเจนเลย



 
หลังจากนั้นก็ย้อมผมให้ทั่วทั้งศรีษะ แบบใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบ ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ


ดาวใช้ทั้งหมด 4 กล่องเลยนะ เพราะว่าผมแห้งมากๆ
มันเลยกินเนื้อครีมย้อมผมไปเยอะเลยต้องใช้หลายกล่อง 
แต่ถ้าสำหรับคนผมปกตินี่ 2-3 กล่องปกติก็น่าจะเอาอยู่แล้วนะคะ

ทำเสร็จก็ม้วนผมเก็บให้เรียบร้อย จากนั้นก็นั่งรอสวยๆ ประมาณ 30-45 นาที
อันนี้แล้วแต่ผมคนนะ ถ้าอยากให้สีติดมากๆ ก็ทิ้งไว้นานๆ แต่ถ้าอยากให้ติดไม่เยอะก็ทิ้งไว้แปปเดียวพอ


พอได้เวลาแล้วหลังจากนั้นก็เตรียมตัวไป ล้างผมออกให้สะอาด
ตบท้ายด้วยครีมนวดบำรุงผมซึ่งดาวใช้ Lolane Intense Care Keratin repair mask กระปุกสีขาวนี้ 
ซึ่งจริงๆ เค้ามีมาให้แล้วในกล่องแหละเป็นซองเล็กๆ แต่ดาวมีอยู่แล้วส่วนตัวเลยหยิบมาใช้

ดาวรู้สึกว่ามันช่วยทำให้ผมดาวนุ่มขึ้นมากๆ  ทำให้ผมที่เป็นฟางนุ่มขึ้นได้ทันทีที่ใช้ สางผมแล้วไม่พันกัน ซึ่งถูกใจมากๆ ส่วนตัวชอบมาก เพราะใช้แล้วสิวที่หลังไม่ขึ้นด้วย


ล้างออกเสร็จแล้วก็ได้ออกมาเป็นอย่างนี้เลยจ้า มาดูเทียบก่อนและหลังกัน ><



******เพราะพื้นสีผมที่สว่าง จึงทำให้สีออกมาอ่อนกว่าหน้ากล่อง 
ดังนั้นเวลาที่เพื่อนๆจะเปลี่ยนสีผมจะต้องดูจากพื้นฐานสีผมก่อนนะคะ*******


โดยรวมดาวโอเคกับยี่ห้อนี้มากๆ เพราะลองใช้เองมาสองรอบแล้วรู้สึกว่าสีมันติดดี ติดชัดด้วย 
แล้วก็สีผมค่อนข้างสม่ำเสมอ คือรู้ว่าย้อมไปแล้วยังไงก็ติดแน่นอน แล้วก็ติดดีเกินคาด 
คือสีผมที่ออกมามันจะสว่างกว่าที่คิดไว้เสมอๆ แต่พอสระไป 2-3รอบ สีผมก็เข้าที่ สวยดีมากๆ สำหรับสีนี้รักเลย หัวส้มเด่น เดินหลงกับเพื่อนยังไงเพื่อนก็หาเจอแน่นอน

แล้วก็ที่ชอบคือหลังย้อมรู้สึกผมนุ่ม ไม่แห้งชี้ฟู ไม่รู้สึกผมเสียมากไปกว่าเดิม กลิ่นก็หอมถูกใจม๊ากกกก เป็นกลิ่นน้ำนมหอมอ่อนๆ ผิดจากยาย้อมผมแบบเดิมๆที่ฉุนและแสบจมูก

คือโลแลนด์รุ่นนี้ตอบโจทย์คนต้องการทำสีผมด้วยตัวเองทุกอย่างเลย ส่วนราคาก็กลางๆ ไม่ถูกไม่แพงเกินไป วัยรุ่นเข้าถึงง่าย ราคาอยู่ที่ 189 บาทต่อกล่อง  ซึ่งวันนี้ดาวทำไป 4 กล่อง ( 189*4 =756 บาท ) คือถูกกว่าไปทำที่ร้านเป็นไหนๆ



และนี่ก็คือสีผมที่ออกมา จะได้ประมาณนี้เลยตะ
แต่อาจจะแตกต่างกันไปตามสภาพผมของคนแต่ละคนนะคะ
สำหรับวันนี้ดาวต้องขอตัวลาไปก่อนแล้วจ้า เจอกันใหม่กระทู้หน้านะค๊า
ขอบคุณสำหรับการติดตาม ^^




วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559

BCC Serum Treatment ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดเพือผิวเปล่งประกาย อ่อนเยาว์อย่างแท้จริง



สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ดุจดาวจะมาอัพเดทเกี่ยวกับความสวยงาม
ซึ่งวันนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผิวพรรณและความสวยงาม
เพราะใครๆก็ปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยหล่ะ ว่าอยากสวยขึ้นกันทุกคน
แต่อยู่เฉยๆเราก็คงไม่สวย เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้ตัวเองดูดีเข้าไว้ค่ะ!

สำหรับวันนี้ดาวมีนวัตกรรมใหม่เพื่อความสวยมาบอกเล่าให้ทุกคนได้ฟัง ซึ่งสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า เฮ้ยยย! น่าลอง
ต้องเกริ่นก่อนว่าตัวนี้เป็น ผลิตภัณฑ์ทรีตเม้นท์ตัวใหม่ที่ดาวได้มาร่วมงานเปิดตัว
มีชื่อว่า BCC serum
เป็นทรีตเม้นท์นวัตกรรมใหม่ที่มีคุณสมบัติดีที่หลากหลายมากและดาวก็ได้ลองใช้แล้วด้วย!
ถ้าอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร ก็ติดตามอ่านต่อกันเลยจ้า...


ดาวมีโอกาสได้ไปร่วมงานเปิดตัว เปิดตัว ทรีตเม้นท์ตัวใหม่
มีชื่อว่า BCC serum by Theraderm
ที่นำเข้าโดยบริษัท Celeste Thailand (ผู้นำเข้า Neuronox ที่ไปร่วมงานมาครั้งที่แล้ว)
หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคือทรีตเม้นท์อะไร ทำไมเป็นขวดๆ แล้วมันใช้ยังไง?
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า...

BCC serum คือเซรั่มบำรุงผิวเป็นสารสกัดจากโปรตีนธรรมชาติที่มีความบริสุทธิ์ถึง 99.99%เป็นนวัตกรรมใหม่จากเกาหลี


คุณประโยชน์ของ BCC Serum
คืนความอ่อนเยาว์พร้อมเผยผิวพรรณที่เปล่งประกายสดใส
- ผิวหน้าเนียนเรียบสว่างสดใสกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
เพิ่มการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินด้วยวิธีธรรมชาติ
ริ้วรอยเหี่ยวย่นแลดูจางลง
ช่วยกระชับรูขุมขน
ซ่อมแซมเซลล์ผิวเก่าและสร้างเซลล์ผิวใหม่
ฟื้นฟูผิวหน้าผิวคล้าเสียหน้าหมองคล้ำลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำที่เกิดจากสิว
ช่วยให้แต่งหน้าได้ง่ายและติดทนนานมากยิ่งขึ้น

รวมๆก็คือช่วยแก้ปัญหาได้แบบ all in one แก้ไขปัญหาผิวหน้าได้แทบทุกเรื่องเลยแหละ
ตัวเดียว คุ้มๆ


ส่วนวิธีการใช้ที่เห็นผลและเค้าแนะนำเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพแบบสูงสุด
ต้องใช้คู่กับเครื่องเลเซอร์ Fractional ,RF , Q-Swift , IPL หรือเครื่องผลักวิตามินเช่น Ionto ,Sono มันจะช่วยในการผลักวิตามินและเซรั่มให้เข้าสู่ผิวได้อยางล้ำลึกมากขึ้น

หรืออีกกรณีที่ไม่ได้ทำเลเซอร์มาก็สามารถใช้ได้ โดยเราต้องทำการเปิดผิวของเราก่อนแล้วถึงจะทำทรีตเม้นท์ตัวนี้ได้

ถ้าพูดง่ายๆ ก็คือ ทำหลังการทำเลเซอร์หรือมีการเปิดผิวแล้วใช้งานตัว BCC นี้จะดีที่สุด
และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่มันไว้ใช้สำหรับแพทย์โดยเฉพาะ ไม่ได้วางจำหน่ายทั่วไปเพราะ มันมีข้อจำกัดการใช้งานและราคาค่อนข้างสมเหตุสมผล

ดังนั้นจึงเหมาะกับใช้กับแพทย์และบุคคลเฉพาะทางมากกว่าทำเอง
เพื่อประสิทธิภาพที่สูงสุดของผลิตภัณฑ์รวมไปถึงความปลอดภัยในการใช้งานด้วย


ในกล่องของเค้าจะประกอบไปด้วยขวดแก้วใส่ตัวเนื้อทรีตเม้นท์มา 2 ขวด
แบ่งเป็นตัว Activator และตัว Powder ซึ่งในการใช้จะต้องเอาสองตัวนี้ผสมแล้วเขย่าให้เข้ากันก่อนการใช้งาน  ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งหมด 6 ครั้งต่อกล่อง สำหรับความถี่ในการใช้งานทีเค้าแนะนำคือ ให้ใช้สัปดาห์ละครั้ง นานต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ก็จะเห็นผลอย่างชัดเจน


ผลิตภัณฑ์ตัวนี้นำเข้าจากประเทศเกาหลีซึ่งคิดค้นเพื่อผิวเอเชียโดยเฉพาะ ได้รับการยอมรับกว่า 3,000 คลินิกในเกาหลีและเอเชียโดยมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารของแพทย์ผิวหนังหลายฉบับ ซึ่งการันตีได้ว่าแพทย์ผิวหนังทั่วโลกให้การยอมรับเพราะฉะนั้น ปลอดภัย และมั่นใจได้แน่นอน

เอาหล่ะ มางานวันนี้ทั้งทีดาวก็มีโอกาสได้ลองทำทรีตเม้นท์ตัวนี้ด้วย เพราะฉะนั้นเดี๋ยวดาวจะเล่าให้ฟัง...คือตอนแรกลังเลนานมากว่าจะทำดีไหม เพราะไม่อยากลบเครื่องสำอางนอกบ้าน เจ้ยยยย! ไม่ใช่ละตอนแรกที่ไม่กล้าทำเพราะกลัวแพ้ แต่สุดท้ายโดนบิ้วให้ลองทำดู ก็เลย โอเค! ลองก็ลอง สุดท้ายแล้วก็ไม่แพ้จ๊ะ.........ซึ่งดีใจมากกกก

และในระหว่างที่ดาวตัดสินใจอยู่ ดาวก็ให้พี่เจนนิภาลงมือไปทำก่อนเลยล่วงหน้า
ขึ้นเขียงชูมือยิ้มสู้เชียว อิอิ


จริงๆ วันนี้เป็นงานเปิดตัว BCC serumซึ่งจะอยู่สถานีที่  1 กับ 2 “BCC Station”
แต่ก็จะมีสินค้าตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นBlack Peel Resurfacing , Black Peel Clear,Melasma Peel เป็นต้น เป็นสินค้าที่อยู่ในเครือมาอยู่เป็นสถานีอื่นๆ ในงานด้วย 


ซึ่งเค้าก็ให้ลองเลือกทำทรีตเม้นท์ที่ตรงกับสภาพผิวหน้าของเราได้เช่นกัน
แต่ดาวเลือกลองของใหม่ดีกว่างั้นเราก็มุ่งหน้าไปที่ BCC Station กันเล้ยยย!


สำหรับขั้นตอนแรกในวันนั้น เค้าก็จะล้างเครื่องสำอางเราออกให้หมดก่อน แล้วเปิดผิวเราด้วยกรดอ่อนๆ (เพราะว่าเราไม่ได้ทำเลเซอร์ก่อนการใช้งาน) ซึ่งแต่ละคนก็จะใช้แต่ละสูตรแตกต่างกันไป ตามที่เค้าประเมินว่าเหมาะกับสภาพผิวหน้าของเรา


หลังจากนั้นก็รอกรดทำปฏิกิริยา 3 นาที แล้วก็ล้างหน้าออก ซึ่งในขณะที่พี่เจนรอดาวก็เริ่มลบเครื่องสำอางออกเพื่อที่จะทำทรีตเม้นกับเขาบ้างแล้ว....ขึ้นเขียงค่ะ ลุย!!


ในขณะที่รอให้ยามันทำปฏิกิริยานั้นจะรู้สึกยิบๆ มากๆ คันหน้ามากๆ เพราะว่ามันกำลังเปิดผิวเราอยู่ แต่ไม่ต้องตกใจไป เป็นปฏิกิริยาปกติ เราแค่ต้องอดทนแล้วคิดว่าจะสวย ต้องสวย ฮ่าๆ


มีการเซลฟ์ฟี่ด้วยแหละ เก็บภาพบรรยากาศกันหน่อยก็แหมมม คนเกาหลีแท้ๆ มาทำหน้าให้เลยนะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆเลยนะโอปป้า!


ในขณะที่ดาวรอ 3 นาที เค้าก็หันไปเตรียมผสมทรีตเม้นท์

อย่างที่บอกตั้งแต่ตอนแรกว่า ต้องเอาสองขวดมาผสมกัน แล้วใช้ตัวช่วยในการผลักรีตเม้นท์ตัวนี้ลงไปซึ่งก็คือเจ้าเครื่องนวดหน้าตัวในรูปแหละ มันจะช่วยผลักตัวยาให้ซึมสู่ผิวหน้าเราได้ดียิ่งขึ้น

วิธีการก็คือ หลังจากทำขั้นตอนการเปิดผิวหน้าหรือหลังการทำทรีตเม้นท์แล้ว ให้เทตัวนี้ลงไปบนผิวหน้าทีละนิดๆ พร้อมใช้เครื่องนวดหน้านวดวนไปมาเพื่อให้ตัวทรีตเม้นท์ซึมเข้าไปในชั้นผิวมากที่สุด

ขอบอกว่าขั้นตอนนี้สบายมากเลย แอบเผลอหลับไปแปปนึงด้วย ฮ่าๆ ซึ่งในขณะทำก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ไม่เจ็บไม่แสบ ไม่อะไรเลย แค่รู้สึกว่าผ่อนคลาย ได้นวดหน้า ได้รับการพักผ่อนหน้า สบายยยยย.....
หลังจากนวดเสร็จก็รอให้ทรีตเม้นซึมเข้าสู่ผิวโดยไม่ต้องล้างออก


โดยจำนวนครั้งที่เค้าแนะนำให้ทำก็คือ ทำสัปดาห์ละครั้งติดต่อกัน 4 ครั้ง ถึงจะค่อนข้างเห็นผล
ส่วนดาวทำไปแค่ครั้งเดียว ผลลัพธ์ที่ได้คือ...หน้านุ่ม และดูกระจ่างใสขึ้นกว่าก่อนทำ คือหน้าดูเฟรชขึ้น ส่วนเรื่องรอยสิว รอยแดง กระ หลุมสิว ผิวเรียบเนียน ในครั้งแรกยังไม่เห็นผลมากเท่าใด เพราะดาวใช้เพียงครั้งเดียว แต่ถ้าอยากให้เห็นผลอาจจะต้องได้รับการใช้งานอย่างต่อเนื่องจริงจัง


เมื่อทำเรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นก็รอให้แห้งแล้วตามด้วยการปกป้องผิวจากแสงแดด
หลังจากนั้นทากันแดด BB Sunblock เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดให้เรียบร้อยเป็นอันเสร็จครบถ้วนกระบวนการจ้า




สำหรับสถานที่จำหน่าย ก็จะมีคลินิกและโรงพยาบาลทั่วประเทศซึ่งสามารถเช็คกับทาง BCC ได้ที่ โทร 02-4128100-2 หรือ 098-2863582

สำหรับอัพเดทความสวยให้ผิวออร่ากับดาววันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนแล้วจ้า
ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ BCC Serum และบริษัท เซเลส (ประเทศไทย) จำกัดมากๆ นะคะ ที่เชิญดาวไปงานนี้ดีใจมากๆที่ได้ลองอะไรใหม่ๆ ดีๆ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากหน้าสวยแบบมีออร่ากันนะคะ

เจอกันใหม่บล็อกหน้าจะกลับมาอัพเดทให้ฟังกันอีก อย่าลืมติดตามนะค๊า