Sabina Pretty Perfect Collection Let’s play Twin Twin [Fashion Blog]

Sabina Pretty Perfect Collection Let’s play Twin Twin

..........

สวัสดีค่ะทุกคน ดาวกลับมาพร้อมกับแฟชั่นบล็อกอีกครั้งนึงแล้วค่ะ

เห็นว่า Sabina เค้าออกชุดชั้นในรุ่นใหม่เป็น รุ่น Pretty Perfect คอลเลคชั่น Let’s Play Twin Twin 

ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้นั้นก็คือสายชุดชั้นในที่มีลูกเล่นด้านหลัง โดยมีลวดลายและรูปทรงที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น สายไขว้ สายตัว Y หรือจะเป็นทรง sport เท่ห์ ๆ หรือแบบสวยๆ อื่นๆ ก็มีเยอะแยะเลยนะคะ

ซึ่งแน่นอนว่าชุดชั้นในรุ่นนี้ทำให้ดาวเราสนุกสนานกับการ Mix & Match เสื้อผ้าให้เข้ากับชุดชั้นในได้อย่างเต็มที่

ที่สำคัญ เราสามารถเลือกใส่เสื้อผ้าเปิดหลังได้โดยไม่ต้องหลบซ่อนชุดชั้นในกันเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป เราไม่ต้องกังวลว่าชุดนี้จะเห็นเสื้อในของชั้นมั้ยนะ ชุดนี้จะโป๊มั้ยนะ 

เพราะตอนนี้ Sabina เค้าได้จับเอาชุดชั้นในมาทำให้เป็นแฟชั่นมากขึ้น

 ทำชุดชั้นในให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเสื้อผ้า โดยผสานคำว่าชุดชั้นในกับแฟชั่นเข้าไปด้วยกัน ซึ่งเหมาะมากๆ โดยเฉพาะกับเสื้อโชว์หลัง และดาวว่ามันก็สามารถไปด้วยกันได้ดีทีเดียวค่ะ

แล้วทีนี้ไม่ว่าจะใส่อะไรโชว์หลังก็ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ สายเสื้อในอีกต่อไป เราก็จับเอามาทำแฟชั่นกันซะเลย สำหรับใครที่นึกไม่ออกว่ามันจะไปด้วยกันได้อย่างไร 
วันนี้เราดาวพาไปดูแฟชั่นเซทของ ดาวและ ไอซ์พาดี้ ที่ได้จูงมือกันไปถ่ายรูปสวยๆ กันถึงสวนสยาม เพื่ออวดชุดชั้นในตัวสวยของเราทั้งคู่กันเลยทีเดียว

ใครพอนึกไม่ออกว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร จะสามารถ mix and match fashion ได้ออกมาประมาณไหน เอาเป็นว่าไปดูภาพ แล้วให้ภาพเล่าเรื่องความสนุกของเรากันเลยดีกว่า เย้!

Let's Go

ในวันที่ร้อนๆ ไม่ต้องใส่เสื้อปกปิดทุกสัดส่วนให้มันร้อนตามอาศก็ได้นะ

ใส่เสื้อเปิดหลังโชว์หลังบ้าง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องโป๊เลยนี่นา..

แดดร้อนมากๆ แต่เราก็สนุกกันมากๆ ด้วยเช่นกัน

Let's Fun 

เห็นบอลลูนสีสวยๆ ใครจะไปรู้ว่ามันหมุนแรงเหมือนกันนะ 

เล่นเอามึนหัวเหมือนกันนะเนี่ย ฮ่าๆ

ด้วยความที่เป็นการไปสวนสยามครั้งแรกของเราจึงหลงทางบ้างเล็กน้อย

เลยต้องนั่งงมเปิดแผนที่ดูกันสักหน่อย

             

ถึงหลงก็ไม่สน ขอเล่นเป่าลูกโป่งก่อนแพร๊บนึง อิอิ

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับ Fashion set Sabina Pretty Perfect 
คอลเลคชั่น Let’s play Twin Twin ( Dujdow x Icepadie ) 
จะบอกว่าดาวกับไอซ์พาดี้สนุกมาๆ เลยแหละ 
ตากแดด ตากลม ร้อนแค่ไหนเราไม่หวั่นค่ะ เพื่อรูปสวยๆ เราทนได้ ฮ่าๆ
ใครอยากมาถ่ายบ้างก็แนะนำเลยนะคะ

ทีนี้เรามาดูรายละเอียดของชุดชั้นในรุ่นใหม่ที่ดาวใส่กันบ้างนะคะ

มาดูกันที่ตัวแรกเลย เป็นชุดชั้นในคล้ายๆ sport bra ซึ่งตัวนี้ชอบมากๆ เพราะว่ารูปทรงคล้ายsport bra แต่ไม่รัดอึดอัด เมื่อใส่แล้วสามารถโชว์ข้างหลังได้เพราะว่าไม่มีรอยต่อเหมือนเสื้อในทั่วไป (ตะขออยู่ด้านหน้า)

 สามารถใส่โชว์ได้จนนึกว่าเป็น sport bra เลยทีเดียว ตัวนี้สีดำสุขุม สามารถมิกซ์เข้ากับเสื้อผ้าอื่นๆได้ง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกล้ามคว้านหลังหรือเสื้อเปิดหลัง ลุคที่ได้คือมันจะเป็นผู้หญิง sport ว่องไว กระฉับกระเฉง ดาวเลยเลือกใส่คู่กับผ้าใบที่พร้อมจะลุยได้ทุกเมื่อค่ะ

อย่างที่บอกว่าชุดชั้นในรุ่นนี้จะเน้นโชว์หลัง ดังนั้นตะขอมันจึงมาอยู่ด้านหน้าทั้งหมดเพื่อความต่อเนื่องของสายทางด้านหลัง ซึ่งดาวว่าก็ดีเพราะส่วนตัวชอบตะขอหน้าเนื่องจากเราเห็นง่ายกว่าเวลาเราติดตะขอชุดชั้นใน

รายละเอียดเล็กน้อยของเสื้อในตัวนี้นอกจากจะเป็นสีสุภาพขาวดำลายจุด ตัดขอบด้วยสีขาวแล้ว ยังมีดอกไม้น่ารักๆเพื่อไม่ให้เลี่ยนลายจุดเกินไป และมีที่ดันทรงเป็นฟองน้ำรูปหัวใจน่ายั๊กกกกก..... ทีนี้มาดูอีกตัวกันบ้าง 

ชุดชั้นในสีน้ำเงินสดใส ตัดขอบด้วยสีชมพู

และเนื่องจากว่ามันเป็นสีที่สดใสดาวเลยเอามามิกซ์กับเสื้อผ้าที่ดูแสนจะสดใสอย่างการใส่เอี๊ยม เพราะใส่เอี๊ยมเมื่อไหร่ก็ดูเด็กและสดใสทุกที

สำหรับตัวนี้ตะขอหน้า และฟองน้ำดันทรงเป็นลายหัวใจน่ารักเช่นกัน และก็เป็นบราที่มีโครงทั้งสองเลยเช่นกัน

แต่ทีต่างกันไปก็คือสายด้านหลังเค้าเป็นสายตัว Y (ซึ่งต่างจาก sport bra แบบแรก)

ซึ่งเพื่อนๆ ก็สามารถเลือกได้แตกต่างกันออกไปตามแบบที่ตัวเองชอบนะคะ

ส่วนสำหรับราคาทั้งสองตัวนั้นอยู่ที่ราคาชุดชั้นใน ตัวละ 570 บาท ส่วนกางเกงชั้นในนั้นราคา 190 บาท มีวางจำหน่ายแล้วทุกสาขา ซึ่งสามารถหาดูลายเพิ่มเติมหรือไปลองสวมใส่กันได้ที่ได้ที่เคาเตอร์ Sabina ทุกสาขา หรือ สามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ www.sabina.co.th

หรือ www.facebook.com/SabinaTeenClub

Instagram @Sabina_ig

สำหรับวันนี้ดาวต้องขอตัวลาไปก่อนแล้วนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามรับชมเสมอมา ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรอย่าลืมติดตามกันนะคะ

Cheers,

Dujdow

ลิป Stain ที่แสนจะ Strong กับ Gino Macray Lip stain marker #ติดทนไปยันชาติหน้า

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้กลับมารีวิวไอเท็มเด็ดอีกครั้ง

ที่ว่าเด็ดมากก็เพราะว่า เจ้าลิปตัวนี้มันติดทนแบบเด็ดดวงจริงๆ!

ใครที่หาลิปแบบไม่หลุดเลยทั้งวันก็คงต้องแนะนำเจ้าตัวนี้แหละค่ะ 

เพราะขนาดว่าล้างปากไปแล้วแม่ยังถามเลยว่าทำไมปากแดงจัง 

เหตุผลก็คือมันล้างไม่ค่อยออกค่ะ 

เพราะมันเป็นลิป stain (ที่stain สมชื่อจริงๆ) และก็ Strong มากๆจริงๆ

ติดทนกว่าเจ้าตัวนี้ก็ต้องไปสักปากชมพูแล้วหล่ะค่ะ!

 Gino Macray Lip stain marker แท่งอ้วนดำ

ลักษณะคล้ายปากกาเมจิกที่เราเขียนกันตอนเด็กๆ นั่นแหละ

กลิ่นก็หอมคล้ายๆกับปากกาที่มีกลิ่นหอมเลย หอมอ่อนๆ

เอ๊ะ! หรือว่ามันจะคือปากกาเมจิกเขียนกระดาษ

โอ้ววววว ถ้าดูผ่านๆก็นา่จะคล้ายค่ะ แต่มันไม่ใช่! 555

มันคือลิปสติกจริงๆค่ะ อย่าเข้าใจสับสนนะคะ

มาด้วยกันทั้งหมด 3 สี และแซ่บทั้งนั้นเลย 

นั่นก็คือ 

no.01 - Rouge Libertine สีแดงสด แดงเลือด แดงมั่นใจ

no.02 - Fuchsia Desinvolte สีแดงผสมชมพู แดงเชอรี่ แดงหวาน (สีอุทัยทิพย์)

no.03 - Orange Fougueux สีส้มสดใส เปรี้ยวซ่า 

ทีนี้เรามาดู Swatch แต่ละสีกันบ้างค่ะ

เริ่มที่

no.01 - Rouge Libertine สีแดงสด แดงเลือด แดงมั่นใจ

(ปากแห้งมากค่ะ ขออภัย)

no.02 - Fuchsia Desinvolte สีแดงผสมชมพู แดงเชอรี่ แดงหวาน 

no.03 - Orange Fougueux สีส้มสดใส เปรี้ยวซ่า 

สรุปค่ะ สรุป

จากการที่ได้ลองใช้แล้ว รู้สึกว่าเป็นลิปที่ติดทนแบบทนม๊ากกก ทนทานสุดๆ ทนแบบไม่ต้องกลัวการทำลายล้างอะไรทั้งนั้น SRTONG!!

ส่วนความรู้สึกตอนทามันจะเย็นๆตามสไตล์ลิปน้ำอะ ทิ้งไว้สักพักมันจะแห้ง พอมันแห้งแล้วจะแห้งผากเลยติดทนคือทนนานไปเลย (ย้อนกลับไปดูรูปสวอชจะเห็นว่าปากดาวแห้งมากและลิปไม่ได้ช่วยพรางเรื่องปากแห้ง)

สำหรับคนที่ปากแห้ง +ปากแตกเหมือนดาว ตอนที่ทาจะรู้สึกแสบนิดๆ ด้วยนะ

สรุปว่า ลิปตัวนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนปากแห้งแตกลอก สักเท่าไหร่ เพราะมันจะดูเป็นขุยๆ

แต่! มีวิธีแก้ไข และ วิธีที่เหมาะกับคนอยากให้ลิปติดทนนานก็คือ

ใช้ลิปตัวนี้ลงไปก่อนเป็นตัวแรกเพื่อให้สีมันติดทนนาน แล้วใช้ลิปสติกเนื้อทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ matte เนื้อ cream หรือ gloss ทาตามลงไป 

วันไหนที่อยากให้ลิปติดทนกว่าปกติดาวก็ใช้วิธีนี้เช่นกันค่ะ

เพราะดาวว่าลิปตัวนี้เนื้อมันติดทนกว่าตัวอื่นๆทั่วไป

ให้ลงลิปตัวนี้ไว้ก่อนแล้วลงลิปสติกปกติที่สีใกล้เคียงกันจะช่วยทำให้สีลิปสติกของเราไม่ดูหลุดและซีดจางไวกว่าปกติ และทำให้ไม่ต้องเติมบ่อยๆด้วยจ้า

จบแล้วค่ะสำหรับรีวิวนี้

มันติดทนแน่นจริงๆ สวอชให้แค่ 3 สีเอง แต่ปากเบิร์นเลยทีเดียว 

คือมันลบยากมากจนปากเปื่อย 5555

ต้อง strong แข่งกับลิปค่ะ

ขอบคุณผลิตภัณฑ์จาก Beauty Buffet - Gino MaCray Thailand 

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆหลายๆคน

ถ้าชอบหรือสนใจยังไงก็ไปหาดูได้ที่เคาเตอร์ หรือร้าน Beuaty buffet ทุกสาขานะค่ะ 

สำหรับวันนี้ไปก่อนนะค่ะ เจอกันใหม่กระทู้หน้าค่ะ

Scrub ผิวเตรียมพร้อมรับลมหนาว ดูแลผิวสาวๆให้สวยด้วย H Bella by Watsons shower scrub

หน้าหนาวก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว หลายคนเริ่มกังวลว่า แล้วจะดูแลผิวของยังไงดีหล่ะ?

เพราะสาวๆ เรารู้ดีว่า หน้าหนาวทีไร ผิวก็แห้ง แตก ลอกทุกที เผลอๆ ไม่ใช่หน้าหนาวบางคนก็ผิวแห้งจนผิวลอกเป็นขุยก็มีนะคะ 

และสาวๆ ที่อยากมีผิวสวยอย่าได้ปล่อยผ่านละเลยไม่ดูแลบำรุงผิวตัวเองเด็ดขาด! วันนี้ดาวมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการดูแลผิวในหน้าหนาวนั่นมาฝากก็คือการ Scrub ผิวในขณะอาบน้ำนั่นเอง

หลายๆคน อาจจะเคยได้ยินมาว่า ไม่ควรสครับผิวในหน้าหนาว เพราะจะทำให้ผิวแห้งกร้านกว่าเดิม แต่รู้หรือไม่คะ ว่าแท้จริง แล้วนั้น การสครับผิวนั้นสำคัญในทุกๆ  ฤดูกาล เพราะจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป เผยผิวใหม่ของเราที่กระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ เนียนนุ่มน่าสัมผัสมากขึ้น 

 ซึ่งสามารถทำได้ทุกสัปดาห์หรือ เดือนละ 1-2 ครั้งก็ได้ อาจจะไม่ต้องทำบ่อยทุกวัน เพราะเช่นนั้นอาจจะการรบกวนผิวและทำร้ายผิวมากกว่าการบำรุงแทน

และวันนี้ดาวจะมาแนะนำสครับจากธรรมชาติตัวใหม่ ซึ่งคือ H Bella Caviar Lime & Orange Oil  ที่เป็นขั้นสุดของนวัตกรรมการบำรุงผิว คุณค่าสารแอนตี้ออกซิแดนท์ประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อการดูแลผิวแบบครบวงจร

H Bella by Watsons shower scrub มาพร้อมกับ 3 การปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระแบบครบวงจร ด้วย Astaxanin สารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติที่ผ่านการค้นคว้าและวิจัยด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินซี 6,000เท่า และสูงกว่า โคเอนไซม์คิวเทน800เท่า ซึ่งจะช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัยอันควร มาพร้อมกับ Essential Oil สารสกัดจากผลไม้และสมุนไพร ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้แลดูมีสุขภาพดี และยังมี Fruit and Herb Extracts น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ ซึ่งสกัดได้จากลำต้น ดอก ใบ ราก เมล็ด ฯลฯ ของพืชพรรณหลากหลายชนิด ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้ผ่อนคลายความตึงเครียด ช่วยให้เกิดอารมณ์และความรู้สึกที่ดีแก่ร่างกายและจิตใจ

H Bella Caviar Lime & Orange Oil  ผสานคุณค่าการบำรุงจากสารสกัดจากผลไม้และน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติไว้ ด้วยสารสกัดจาก Caviar Lime จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งอุดมด้วย AHAs วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโนหลายชนิด ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้เรียบเนียน แลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติและ Orange Oil ช่วยบารุงให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกลิ่นหอม ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย

Package ของ shower scrub นี้เป็นขวดพลาสติกใสค่อนข้างหนาไม่ตกแตกง่ายๆ สามารถมองเห็นปริมาณการใช้งานและสีของผลิตภัณฑ์ได้โดยง่าย

ด้านหน้าผลิตภัณฑ์บอกชัดเจนว่ากลิ่นอะไร และสีของผลิตภัณฑ์ก็สีเดียวกับส่วนผสม ทำให้ดูง่าย เข้าใจง่ายไม่หยิบผิดดีค่ะ

และชอบตรงปากขวดเค้ามีพลาสติก กั้นไม่ให้ผลิตภัณฑ์ไหลเยิ้มออกมาโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจด้วยค่ะ

เจลอาบน้ำมีส่วนผสมของเม็ดสครับจากธรรมชาติ

ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป ไม่ทำให้บาดผิวเหมือนจนรู้สึกแสบ

เป็นเจลอาบน้ำสครับผิวที่อ่อนโยนสามารถใช้ได้บ่อยหรือสามารถใช้ทุกวันก็ได้

กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหย เป็นกลิ่นส้ม หอมไม่ฉุน กลิ่นพอดีไม่แรงเกินไป  ตอนที่ใช้ไปด้วยก็รู้สึกว่าผ่อนคลาย ขอบอกว่ากลิ่นหอมและติดทนผิวดีทีเดียวเชียวค่ะ

หลังจากใช้แล้วแอบดมตัวเองแบบไม่รู้ตัวอยู่บ่อยๆ เพราะรู้สึกว่าตัวหอม 55

และถ้าอยากให้กลิ่นติดทนผิวขึ้นก็ยังมี  H Bella  by Watsons ตัวอื่นๆ ที่มาช่วยดูแลผิวในหน้าหนาวให้ครบสูตรและยังช่วยเพิ่มความหอมให้ติดทนด้วย!

ยังมี H Bella Caviar Lime & Orange Oil Body Serum เซรั่มบำรุงผิวเข้มข้นมากถึง 50 เท่า และ Body Bella Caviar Lime & Orange Oil Body Lotion โลชั่นบำรุงผิวเนื้อบางเบา ไม่เหนียวหนะ

ผสานคุณค่าของ Lime & Orange Oil เพื่อผิวเรียบเนียนกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

มีกลิ่นหอมผ่อนคลายและมีแพ็คเกจที่หรูหรา สวยงามด้วยแพ็คเกตจิ้งสีเงินสะดุดตา

และเมื่อใช้กลิ่นเดียวกันหลังผลิตภัณฑ์อาบน้ำแล้วขอบอกว่ากลิ่นหอมติดทนที่ตัวเราดีสุดๆ ไปเลยค่ะ

ท้ายสุดนี้ยังมี

H Bella Caviar Lime & Orange Oil  Hand Cream กลิ่นเดียวกันที่ช่วยทำให้มือนุ่มน่าสัมผัสอีกด้วยนะคะ 

นอกจากกลิ่น Caviar Lime & Orange Oil  แล้วนั้นเค้ายังมีกลิ่น Rose & Mixed Berry, Strawberry & Cinnamon และ Verbena & Malted Barley ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าหอมขนาดไหนก็ต้องตามไปพิสูจน์กลิ่นกันเลยนะคะที่ร้านวัตสันทุกสาขา โดยผลิตภัณฑ์ของ H Bella by Watsons นั้นจะมีจำหน่ายที่ Watsons เท่านั้นค่ะ หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่ง online กันได้ที่นี่เลย  https://www.watsons.co.th หรือทาง https://www.facebook.com/watsonsthailand

สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนแล้ว

ขอขอบคุณผลิตภัณฑ์จาก Watsons Thailand ที่มอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสวยท้าลมหนาวค่ะ

และสาวๆ ก็อย่าลืมดูแลผิวตัวเองให้สวยสุดๆในหน้าหนาวกันด้วยนะคะ

ไปแล้วค่าเจอกันใหม่บล็อกหน้า

Xoxo J

[Preview] Jayoun เครื่องสำอางพรีเมี่ยมจากธรรมชาติแบรนด์ใหม่จากเกาหลีที่น่าลอง!

ถ้าพูดถึงแบรนด์เครื่องสำอางจากเกาหลี หลายๆ คนคงนึกชื่อแบรนด์ที่แตกต่างกันออกไป

แต่ถ้าพูดถึงแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต้องนึกถึงแบรนด์นี้เลย

“JAYOUN”

“แจยอน” เป็นแบรนด์เครื่องสำอางระดับพรีเมียม นำเข้าจากประเทศเกาหลี

โดยมีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติที่ได้รับการรับรองจาก ECOCERT 

ผลิตภายใต้ลิขสิทธิ์ของ แจยอน โคเรีย

หลายๆ คนอาจจะคิดว่ามันก็เหมือนเครื่องสำอางทั่วๆไป แต่สำหรับดาวมันแตกต่างออกไป

และเค้าเจ๋งว่าใครๆ ตรงที่มี Ecocert นี่แหละ!

หลายๆ คนอาจจะงงว่าแล้วยังไงหล่ะ? แต่ขอบอกเลยว่ากว่าจะได้ เครื่องหมาย ecocert มาประทับที่แบรนด์นั้น ส่วนผสมจะต้องมาจากธรรมชาติที่โดยผ่านกระบวนการ การรับรองคุณภาพเท่านั้น!

เพราะ Ecocert เป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการควบคุมกำกับกระบวนการการผลิตแบบอินทรีย์ ของประเทศฝรั่งเศส

เป็นหนึ่งในผู้นำของตรารับรองมาตรฐานการใส่ใจธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับสากลเชียวนะ

และเค้าจะมอบตรานี้ให้กับสินค้าที่มีคุณภาพสูงเท่านั้น

ผลิตภัณฑ์จะต้องมีส่วนประกอบทั้งหมดที่ทำมาจากพืชกว่า 95% โดยไม่มีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารพิษทุกชนิด รวมทั้งสถานที่สำหรับการผลิตและแปรรูปต้องได้รับการควบคุมด้วย

หืมมม ควบคุมกันอย่างเคร่งครัดขนาดนี้ แต่ Jayoun ได้รับการรับรองนี้มาเป็นประกัน

ทีนี้ก็มั่นใจหายห่วงเลยสำหรับเรื่องมาตรฐานและความปลอดภัยในส่วนผสม

สำหรับ ส่วนผสมหลัก ที่ใส่ลงในผลิตภัณฑ์ของแจยอน ได้แก่

- สารสกัดจากดอกเอเดลไวส์ (Edelweiss Extract) จากเทือกเขาแอลป์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (ผลติภัณฑ์ของเคาเตอร์แบรนด์บางตัวก็ใช้ส่วนผสมหลักตัวเดียวกันตัวนี้นะค่ะ )

- คอลลาเจน (Collagen) ช่วยฟื้นฟูผิวและลดริ้วรอย

- อโลเวร่า (Aloe vera) ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว

- วิตามินซี (Vitamin C) ช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย และช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน

- แตงกวา (Cucumber) ช่วยคืนความนุ่มชุ่มชื่นให้ผิว

ผลิตภัณฑ์ที่ดาวเห็นภายในงานหลักๆ เลยก็จะได้แก่ บีบี และแป้ง

นอกจากนั้นยังมี Night Cream ( จริงๆ เค้ามีอีกหลายตัวเลยในไลน์ผบิตภัณฑ์บำรุงผิว แต่ไม่ทันได้ถ่ายมาให้ดูค่ะ )

ภายในงานมีสาธิตการแต่งหน้าด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์จาก Jayoun โดยมีพี่  Alwaysfluke มาสาธิตการแต่งหน้าให้น้องนางแบบสุดสวยด้วยค่ะ

โดยลุคที่แต่งออกมาก็จะเป็นลุคธรรมชาติๆ ใสๆ เบาๆ แต่งได้ทุกวัน

เน้นงานผิว แต่สวยเปล่งประกายค่ะ ( แต่งออกมาแล้วสวยออร่าจริงๆ นะ )

ดาวได้เทคนิคดีๆ จากพี่ฟลุ๊คในการใช้ผลิตภัณฑ์เยอะเลย

อยากให้ติดตามต่อด้านล่างนะค่ะ ดาวจะแทรกๆ ไว้ให้ตอนพูดแต่ละผลิตภัณฑ์นะค่ะ

เจอพี่ alwaysfluke ทั้งที ขอแชะภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกหน่อยนะค่ะ

พี่เค้าแต่งหน้าเก่งแล้วก็เป็นคนมีเทคนิคดีๆ เยอะมากเลยค่ะ

เอาละค่ะ ถึงเวลาที่ดาวจะมาพูดถึงตัวเด็ดของ Jayoun แต่ละตัวแล้วว่าเป็นยังไงบ้าง

วันนี้จะมาพรีวิวแต่ละตัวให้ดูกันนะค่ะ

ตัวแรก

Time Machine (Night Cream) (50 g)  ราคา 850 บาท

ครีมบำรุงผิวประสิทธิภาพสูง เป็นเนื้อเจลเบาสบายสูตร sleeping mask เพื่อผิวหน้าอันอ่อนเยาว์

อุดมด้วยคอลลาเจนเข้มข้น และสารสกัดจากดอกเอเดลไวส์ ซึ่งช่วยบำรุงและสร้างเกราะป้องกันผิว

ช่วยปรับสภาพผิวให้มีความยืดหยุ่นและยกกระชับขึ้นริ้วรอยดูเลือนลง รูขุมขนดูเล็กลง ผิวนุ่มเนียน เปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี มีชีวิตชีวาในชั่วข้ามคืน

 เนื้อครีมสีขาวขุ่น ส่วน texture ค่อนข้างเหลว และ เกลี่ยง่ายมากๆ

เมื่อสัมผัสแล้วให้ความรู้สึกบางเบามากกว่าที่คิด เนื้อครีมเหลว รู้สึกเหมือนน้ำเลย ทาไปแล้วรู้สึกเย็นนิดๆ บริเวณผิว

 เนื้อครีมพอทาไปแล้วแทบจะกลายเป็นน้ำ ที่สำคัญซึมไว แห้งไวมากๆ

Whitening BB Cream SPF 30 (15 ml) ราคา 750 บาท

บีบีครีม รองพื้นเนื้อใยไหม ผสมคอลลาเจน สูตรต่อต้านริ้วรอยและปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใส

ช่วยปกปิดจุดด่างดำ ริ้วรอย และอำพรางรูขุมขนให้เรียบเนียนสนิท เนื้อครีมละเอียดบางเบา เกลี่ยง่าย

พร้อม SPF30 ปกป้องผิวจากแสงแดด ให้คุณอวดผิวสวย  เรียบเนียน กระจ่างใส มีออร่า ในขั้นตอนเดียว

ลักษณะของเค้าจะเป็นขวดหัวปั๊ม ขนาดค่อนข้างพอดีมือ

สามารถดูได้ด้านข้างว่ามีปริมาณเหลืออยู่เท่าไหร่

ตัวบีบีเมื่อลองเทสกับมือจะรู้สึกหนา แต่พอนำมาใช้กับหน้า (โดยดาวเลือกใช้กับฟองน้ำ)

มันผิดคาดค่ะ!!! ไม่หนาเท่าที่คิดไว้ตอนแรกเลย 

สำหรับตัวนี้พี่ฟลุ๊คแนะนำว่าให้วอร์มตัวครีมสักพักเนื้อมันจะขึ้นเงาทาแล้วจะโกลวๆขึ้นค่ะ

ซึ่งตัวนี้ดาวได้ลองใช้เองแล้วค่ะ

 อย่างที่บอกว่ามันผิดคาด คิดว่าจะหนา แต่ทาแล้ว ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย

กลับกันคือกลายเป็นสบายผิว ไม่หนาเตอะแม้แต่น้อย

ให้การปกปิดค่อนข้างดีเลยค่ะ รอยเล็ก รอยน้อยหายเนียนไปหมด

Finished  look คือให้ความกระจ่างใส นวลเนียนค่ะ เพราะ บีบีเค้าค่อนข้างขาว ไปทางเฉดคนข๊าว ขาว

ตอนแรกก็กังวลว่าสีหน้าจะเพี้ยนไหม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นปัญหาค่ะ เพราะหลังจากที่ได้ลองใช้คู่กับแป้งที่จะแนะนำตัวต่อไปของเค้าคือเวิคสุดๆ ค่ะ

Whitening UV Protection Powder Cake  (12 g) ราคา 500 บาท

แป้งรองพื้นเนื้อละเอียดบางเบา ปกปิดเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ

ช่วยควบคุมความมันได้ตลอดทั้งวัน ไม่หนักหน้า เมคอัพติดทน สามารถเติมระหว่างวันได้ โดยไม่ทำให้หน้าหมอง

เนื้อแป้งอุดมไปด้วยคอลลาเจน และสารสกัดจากดอกเอเดลไวส์ ซึ่งช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม อีกทั้งมี UV Protection ช่วยปกป้องผิวคุณจากแสงแดด

ตัวแป้งมีกลิ่นหอมจากพืชส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติ

กล่องสีเหลือง eco เข้ากับธรรมชาติมาก

ข้างกล่องจะบอกรายละเอียดผลิตภัณฑ์ไว้ชัดเจน (มีแปะฉลากภาษาไทย) ใครที่แพ้ส่วนผสมไหนลองเช็คกันดูก่อนนะคะ

สำหรับภาพในกล่องก็มีซองใส่แป้งมาให้ด้วยนะ น่ารักดีค่ะ

ส่วนตลับแป้งเป็นสีเหลือง  สีเดียวกับกล่องเลยค่ะ

ข้างในตลับแป้งมีกระจก แยกชั้นแป้งกับฟองน้ำ

แป้งตัวนี้แนะนำว่าให้ใช้กับฟองน้ำจะเนียนมากค่ะ ส่วนระหว่างวันให้เติมเบาๆด้วยแปรงจะดีที่สุด

สีของแป้งจะมีอยู่ด้วยกัน 4 สี ค่ะ

เบอร์ 1 สำหรับผิวขาวถึงขาวมาก

เบอร์ 2 สำหรับ ผิวปานกลางถึงผิวขาว (ออกเหลือง)

เบอร์ 3 สำหรับผิวปานกลางถึงผิวสองสี (ออกชมพู)

เบอร์ 4 สำหรับผิวสองสี

-------------------------------

สำหรับผิวดาวเหมาะกับเบอร์ 02 จะเป็นเบอร์ที่พอดีกับหน้ามากที่สุดค่ะ

แป้งตัวนี้ดาวก็ได้ลองใช้อีกแล้วเช่นกัน ต้องบอกเลยว่า เด็ดค่ะ!

มันเป็นแป้งเนื้อค่อนไปทางแมทท์ คือทาแล้วหน้าจะเนียน เรียบ แต่ไม่หนา

คือแบบกลายเป็นผิวดีไปยังไงอย่างงั้นเลยอะ!

เนื้อแป้งหลังจากที่ได้ลองสัมผัสแล้วนุ่มมากๆ เกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบ

ตอนลองคือปาดไปครึ่งหน้าเพื่อเทียบก่อนแล้วถึงกับตกใจเลย เพราะหน้าด้านที่ทาแป้งแล้วเนียนกว่าหน้าอีกด้านนึงมาก

Finished look คือ ผิวดี เรียบเนียน Smooth

อย่างที่บอกว่าใช้คู่กับแล้วคือดี เพราะว่าบีบีเค้าออกขาวหน่อย แต่แป้งที่ดาวใช้ (ดาวใช้เบอร์ 2) เค้าจะโทนผิวสองสี-เหลือง สีมันจะพอดีกับผิว  คือท้ายสุดแล้วมันพอดีกับหน้าเราเว่อร์ เหมือนเธอเกิดมาเพื่อฉันอะไรทำนองนั้น

สรุปคือ หลังจากที่ได้ลองใช้ทำให้เราประทับใจแบรนด์นี้ไปเต็มๆ เลยค่ะ

แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่เพิ่งเข้ามาใหม่นะค่ะ หลายๆ คนอาจจะยังไม่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี

แต่ถ้าอยากลองเหมือนดาวก็สามารถสั่งซื้อได้ค่ะ

สำหรับวิธีการสั่งซื้อ ตอนนี้สามารถสั่งซื้อ ได้ที่เวปไซท์  www.jayounkorea.com

วิธีการจ่ายเงินก็มีหลายช่องทาง แต่ที่แนะทำ คิดว่าเคาร์เตอร์เซอร์วิช ของ 7-11 น่าจะสะดวกที่สุดค่ะ

จบแล้วค่ะ สำหรับกระทู้นี้ มีอะไรดีๆ ใหม่ๆมาอีกดาวจะรีบมาอัพเดทให้ฟังกันนะค่ะ

หวังว่ากระทู้นี้คงจะทำให้เพื่อนๆ อยากเสียทรัพย์ไม่มากก็น้อย อิอิ

แนะนำเลยค่ะแบรนด์นี้ชอบจากใจจริง

สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนแล้วค่ะ

XOXO ;)

ดุจดาว