วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

พาไปทำเล็บสวยต้อนรับช่วงเทศกาล ที่ร้าน Nail It! Tokyo

ในที่สุดเดือนธันวาคมก็มาถึง เดือนนี้ช่างเป็นเดือนที่แฮปปี้จริงๆ เลยว่าไหมคะ 
จะหันซ้ายหันขวาทุกคนก็ดูมีความสุข 
เป็นสิ้นปีที่ทุกคนต้องมีแแพลนที่จะทำไรใหม่ๆ ในปีหน้ากันบ้างแล้ว 
แน่นอนว่า ก่อนทิ้งทายไปในปีนี้ ดาวอยากทำอะไรที่ดาวไม่เคยได้ทำให้มากที่สุด เพราะว่าอยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆ และแน่นอนว่ามันไม่พ้นเรื่องของความสวยความงาม

วันนี้ดาวพาไปดู ประสบการณ์การทำเล็บครั้งแรกของดาว กับการใช้บริการที่ร้านทำเล็บอันโด่งดังที่สุดตอนนี้ นั่นก็คือ "Nail it Tokyo"
เป็นร้านอิมพอตมาจากญี่ปุ่น ซึ่งมีไฮลท์ไลต์สำคัญคือการปริ้นลายลงเล็บได้!
นี่ไม่เคยทำ คือตื่นเต้นมากกก

คือเค้ามีเครื่องเพ้นท์เล็บแบบอัตโนมัติ แบบว่า ไฮเทคมว้ากกกกกก
เลยทำให้ตัดสินใจมาทำแบบไม่ต้องคิด


อยากรู้แล้วหล่ะซิ้ งั้นตามมาดู....



 Nail it! TOKYO เค้ามีคอนเซป ทำเร็ว ทำถูก และคุณภาพเกินราคา
และไฮไลท์เด็ดคือ ปริ้นลวดลายลงเล็บได้ เพราะฉะนั้น ข้อดีกว่าก้คือ ได้ลายที่คมชัด สมจริงกว่าการเพ้นท์ แบบทั่วๆไป นอกจากนั้นยังสามารถทำเล็บได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งใช้เวลาแค่เพียง 40 วินาที/เล็บ เท่านั้นเองงงงงง คือดีย์

มาดูขั้นตอนการทำกันดีกว่า... 
เริ่มจากเล็บที่เน่ามากๆ กุดแล้วกุดอีก หักแล้วหักอีก ฉีกเข้าไปถึงเนื้อก็แล้ววววว
คือเป็นคนมือไม่สวยแบบมากๆ ขออภัย 555
แต่อยากจะบอกว่าคนมือไม่สวยก็สามารถดูดีขึ้นได้ภายในวันนี้แหละ! อิอิ



เล็บเน่ามาก กุดมากๆ พี่เค้าเลยบอกว่า น้องต้องต่อ pvc เพราะไม่งั้นมันทำลายแล้วมันจะไม่เห็นลาย 
เราอะ ก็ตกลง ทำเลยค่ะพี่  เพราะเกิดมาอยากรู้บ้างว่าเล็บยาวเป็นยังไง
เล็บเหมือนจะไม่เคยยาวเลย งอกมาก็หักตลอดๆ กุดอยู่แต่ที่นิ้ว 
สงสารตัวเองจัง

พี่เค้าก็เคลียเล็บแล้วตะไบหน้าเล็บ เพื่อต่อเล็บ pvc คะ
หาขนาด หาทรงที่พอดีเล็บเรา ทากาวแล้วแปะเล็บปลอมลงไป

การต่อเป็นการต่อแบบใหม่จากญี่ปุ่น ต่อ 3/4ของเล็บ 
ราคา 200 บาท

จากนั้นเค้าก็ตัดเล็บที่ยาวออกมาให้ขนาดพอดีที่เราต้องการ และเพื่อที่เราจะใช้ชีวิตได้ไม่ลำบากเกินไป


จากนั้นก็เริ่มทาเล็บกันคะ  เริ่มจากทาเล็บสีใสก่อนลงไปชั้นนึง
ขณะนั้นก็เลือกลายว่าเอาลาย เอาสี เอาแบบไหนดี 
ซึ่งดาวเครียดมาก เพราะลายมันเยอะม๊ากกกกกกกกกกกก คือเลือกไม่ถูก 
แล้วเป็นคนไม่เ่คยทำเล็บมาก่อน ไม่รู้ว่าต้องแมทช์ยังไงให้เข้ากันแบบสวยๆดี 
สรุปก็ลองปรึกษาพี่เค้า เค้าก็แนะนำที่เคยทำให้ลูกค้าคนก่อนๆ เอารูปมาให้เราตัดสินใจ

ซึ่งสุดท้ายแล้วดาวก็เลือกให้มันเข้ากับเทศกาล คริสมาสต์ปีใหม่เป็นลายขาวแดง 
เพราะฉนั้น ทาสีพื้นเล็บ ก็ลงเป็นลายขาวแดงสลับนิ้วกันไป


เมื่อทาสีพื้นเสร็จแล้ว จากนั้นนนนนน ได้เวลามาลุยกับเครื่องนี้แล้วคะ!

ขั้นตอนการทำงานของมันคือ กดเบอร์ลายเล็บที่เราต้องการในตัวเครื่อง แล้วลายมันจะเด้งมาที่หน้าจอ
จากนั้นสอดนิ้วเข้าไป เราจะเห็นนิ้วเราและแบบลายที่มันจะมาอยู่บนนิ้วเรา 

พี่เค้าจะวัดขนาดของเล็บเราว่ามีพื้นทีเท่าไหร่ (หาโฟกัส) หลังจากนั้นหน้าที่ของเราคิอ อยู่นิ่งๆ ค่ะ 
ปล่อยทุกอย่างให้มันเป็นไปอย่างอัติโนมัติ 
เพราะถ้าไม่นิ้ง ลายเล็บอาจจะเคลื่อนได้! เพราะฉนั้น นิ่ง ไว้ ประมาณ 40 วินาที แปปเดียวเนาะ 
แค่นี่เราก็จะได้ลายเล็บสวยๆออกมาละ




จะบอกว่าแต่ก่อนเอาเข้าเครื่องเราต้องพันนิ้วด้วย สติกเกอร์พลาสติกกันก่อน เพื่อป้องกันการเลอะยังไงหล่ะ 
แล้วพอเอาออกมาก็อย่าเพิ่งไปแตะไปโดนนะ เพราะมันยังไม่แห้ง ไม่งั้นต้องทำใหม่นะ เสียเวลา เกินเวลาที่่จะอยู่ในบีทีเอสนะคะ 
เพราะฉนั้น นิ่งๆ และ พี่เค้าบอกอะไรก็ทำตาม 5555

หลังจากที่ปริ้นท์ลายเรียบร้อยแล้วก็มาเก็บรยาละเอียดตรงที่ปริ้นไม่ถึง ไม่โดน + เคลือบเล็บให้เงางาม คงทนกันต่ออีกนิด รอให้แห้งก็เป็นอันเสร็จแล้วจ้า 


แล้วถ้าคนไหนอยากมีลายเป็นของตัวเองก็สามารถถ่ายรูปตัวเองด้วยกล้องจากตัวเครื่องหรือจะใช้รูปในโทรศัพท์ที่เป็นภาพตัวเองก็สามารถเพ้นท์ที่เล็บได้เลยเหมือนกันนะ คือเจ๋งดี!


สำหรัดาวเลือกลายคริสมาสต์ ขาว-แดง ฟรุ้งฟริ้งมา
 แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วจ้า กับประสบการณ์การทำเล็บครั้งแรกของดาวที่ Nail It! Tokyo
ถือว่าประทับใจมากๆ เลยค่ะ ที่เปลี่ยนเล็บเสียให้เป็นเล็บสวยได้
ที่สำคัญคือ ร้านนี้ ดาวลองไปถามเพื่อนๆ มาเค้าบอกราคาไม่แพงเลยนะ (ปกติต่อเล็บเป็นพัน) 
แต่ดาวทำหมดนี่ค่าเสียหายไม่ถึง 1 พันบาทคะ
ทำขนาดนี้คุ้มเลย ราคานี้เล็บสวยได้ทุกเดือน

เอาเป็นว่าใครอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติมให้เข้าไปดูได้ที่ 

*** ข้อแนะนำ***
1. คนเยอะมาก ควรโทรไปจองคิวก่อน 
เพราะตอนที่ทำคนโทรเข้ามาตลอดเวลา คือ วอคอินมา ไม่ได้ทำแน่ๆ เพราะฉนั้น จองก่อนดีกว่าชัวร์ๆ
2.ควรมาให้ตรงเวลาไม่งั้นคิวยาวไปอีกหลายชั่วโมง
3. ร้านมันอยู่ในบีทีเอส ถ้าตั้งใจจะไปทำจริงๆ ต้องซื้อตั๋วเข้าไป และแนะนำว่าให้ซื้อที่ถูกที่สุดก่อน เลือกสถานีใกล้สุดไปก่อน แล้วเราก็สามารถนั่งไปช่องนนทรี แล้วกลับมาสถานีของเราอันเดิมในราคาไม่แพงไง
4. อยู่ในบีทีเอสได้ 2 ชั่วโมงเองนะ ถ้าเกินจะต้องโดนปรับค่าตั๋วที่แพงที่สุดของสถานี นั่นคือ 42 บาท
ต้องจ่ายเพิ่มจากค่าตั๋วที่จากไปแล้วอีกต่างหาก 
เพราะฉนั้น ถึงบอกว่า ให้ซื้อตั๋วข้อ 3 ในราคาถูกสุด เพราะไม่แน่อาจจะโดนปรับ (บางคนทำเกิน 2 ชั่วโมง)  สวยแบบฉลาดๆค่า


เอาหล่ะ ใครสนใจไปได้เลยที่สถานี BTS ช่องนนทรี ตรงทางออก 30 // ร้านเปิด 10.00 - 22.00 คะ
อย่าลืมว่าไม่ต้องออกไปนอกสถานีนะ ร้านเด่นเป็นสง่า คนเยอะมาก เห็นแน่นอน
ขอเล่าอีกนิดนึงสำหรับคนไม่เคยทำเล็บ
คือกลับบ้านมาแล้วรู้สึกลำบากมากกกกก ไม่ชินอย่างแรง 
จากเหตุการณ์ถอดคอนแทคเลนส์ทำให้รู้เลยว่าชีวิตลำบากและต้องระวังความสะอาดและความปลอดภัยต่อดวงต่อมากๆๆ
แต่ยังไงก็แฮปปี้นะที่ครั้งนึงได้ลองทำดู 555
สำหรับวันนี้ลาไปก่อนแล้วจ้า ถ้ามีโอกาสได้ไปเปิดประสบการณ์ไหนอีกเดี๋ยวมาเล่าให้ฟังนะ 
บ๊ายบายย

1 ความคิดเห็น:

  1. ชอบมากเลยค่ะ ร้านนี้ แต่คนเยอะมากเลย nailit สาขาอื่นๆก็คนเยอะเหมือนกันเลยคะ

    ตอบลบ