วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Review เทียบแป้ง 3 รุ่น ที่เคยได้ลองใช้ในแต่ละ gen ตั้งแต่ระดับมัธยมจนถึงมหาลัย มีอะไรบ้างมาดูกัน

สวัสดีค่ะ ดุจดาวเองค่ะ 
วันนี้ว่างๆเลยจะมารีวิวแป้งให้ดูตั้งแต่สมัยยังสก๊อยอยู่จนถึงช่วงวัยปัจจุบันว่าดาวใช้อะไรมาบ้าง
ตามหัวข้อที่บอกว่าในแต่ละ generation นั่นก็คือ  
สมัยเด็ก(มัธยมปลาย) ถึงสมัยปัจจุบัน(ช่วงมหาลัยถึงตอนเรียนจบแล้ว) ก็ประมาณนี้แหละค่ะ 
ยังไม่ใช้คำว่าโตแล้วกันเนาะ เพราะยังไม่ได้อายุเยอะขนาดนั้น (เข้าข้างตัวเอง 55)

เกณฑ์การให้คะแนวันนี้ 
กลิ่นหอม
ปกปิด
ควบคุมความมัน
ติดทนนาน
ราคา 

ส่วนรูปที่ใช้ในกระทู้นี้เป็นการถ่ายใหม่ตอนปัจจุบันเพื่อให้เห็นเนื้อแป้งนะคะว่ามันปกปิดมั้ย
ส่วนรายละเอียดในการใช้อื่นๆขอให้อ่านจากประสบการณ์ดังด้านล่างนะคะ 

มาดูกันเลยดีกว่า 
ตัวแรกค่ะ Etude Secret Beam Powder Pact #2
แป้งตลับม่วง พลาสติก เนื้อมุก
ลายฟรุ้งฟริ้งเจ้าหญิง


ตัวนี้เป็นเครื่องสำอางยี่ห้อแรกนะที่ใช้ในชีวิต ตอนนั้นสมัย ม.5 จำได้ว่า นั่งอยู่ในหองเรียน เพื่อนเอาแคตตาล๊อคมาให้ดู คือมีคนจะไปเกาหลีแล้วก็ต้องฝากซื้อ ประมาณนั้น ไอ้เราก็ไม่รู้เรื่องเอาตามๆเพื่อน ตอนนั้นเหมือนเริ่มอยากจะสวย อยากจะใช้เครื่องสำอางละ ก็เลยสั่งไป แล้วก็ได้มาลองใช้จนทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่นะค่ะ แต่อาจจะไม่บ่อย เพราะพอโตขึ้นเราก็ได้ลองอะไรใหม่ๆมากขึ้น


ให้คะแนนดังนี้ 
กลิ่นหอม 3/5 แป้งมีกลิ่นค่ะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกหอมขนาดนั้น
ปกปิด 2/5 
ควบคุมความมัน 3/5 
ติดทนนาน 2/5
ราคา ประมาณ 700 ไม่เกินนี้ ถือว่าราคาสูงสำหรับอายุช่วงมัธยมปลายสมัยนั้น



อธิบายเพิ่มเติม 
แป้งเป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งดังนั้นมันจึงไม่ค่อยปกปิดค่ะมันจะเหมือนแค่ทาให้รู้ว่าทาแป้งนะ และจะเหมาะสำหรับคนที่มีผิวหน้าดีอยู่แล้ว เหมาะกับเด็กวัยแรกที่กำลังใช้เครื่องสำอาง ส่วนใหญ่จะมีผิวหน้าที่ดีอยู่แล้ว ก็จะทำให้ใช้ดีค่ะ เพราะยังไม่ต้องปกปิดอะไรมาก แต่สำหรับดาวปัจจุบันตอนนี้มันอาจจะไม่ตอบโจทย์เพราะรอยสิวมันเยอะมาก ตอนนี้เลยรู้ว่าแป้งตัวนี้มันให้การปกปิดที่บางเบามากๆจริงๆ เพราะแป้งไม่ปิดรอยดำรอยแดงเลย


ส่วนเฉดสีนางก็ยังคงขาวอยู่แม้นี่จะใช้เบอร์ 2  คือทาแล้วมันยังไม่กลืนไปกับผิว ยิ่งเวลาเหงื่ออกมันจะยิ่งดูลอยๆไม่กลืนไปกับผิว แต่สิ่งที่ดีคือ นางควบคุมความมันได้ในระดับนึงนะค่ะ ส่วนเรื่องการติดทนนานอย่างที่บอกว่านางไม่ได้ผสมรองพื้น นางก็จะเลือนหายไปตามกาลเวลา เติมใหม่ก็จะเป็นคราบเล็กน้อย


 ส่วนตัวเนื้อแป้งมีวิ้งๆด้วยค่ะดังนั้นนางจะไม่เป็นธรรมชาติแต่นางจะให้ความผ่องเด้งค่ะ ใช้ทัชอัพในส่วนที่อยากให้กระจายแสง อยากให้หน้าไบร์ทๆ หรือใช้เป็นไฮไลท์ และเนื้อแป้งมีความละเอียดพอตัว แต่เวลาใช้แปรงวนแล้วไม่ออกเป็นผงเท่าไหร่ อาจะจะเป็นเพราะไม่ได้ผสมรองพื้นเลยมีความกระด้างอยู่นิดหน่อย (มันจะไม่นุ่มเหมือนพวกแป้งผสมรองพื้น)

สรุปคือ บางเบา ไม่ปกปิด คุมมันและหน้าผ่อง



ส่วนตัวต่อไปค่ะ
Laura mercierตลับม่วงเข้มค่อนไปทางดำ
แพคเกจสี่เหลี่ยมเฉยๆ เรียบๆ แต่ไม่หรู


พอเริ่มโตแล้วก็จะหาอะไรใหม่ๆมากขึ้น ได้ทดลองจากเพื่อนๆบ้าง นั่งเม้ามอยกันว่าอะไรดีไม่ดี 
พอได้ลองใช้ของเพื่อน พอมันใช้ดีก็อยากได้ก็ซื้อตาม
จนได้ลองใช้ Laura Mercier เค้าว่าแป้งเทพแต่ราคาสูงเอาการอยู่คะ
 ตอนนั้นก็คิดว่าลองดู แต่พอใช้หมดไป 1 ตลับ อยากใช้ต่อนะคะจะซื้อแต่ละครั้งก็ทำใจนานอยู่ เพราะราคา 1500 up ต่อตลับเลยนะ ตอนนี้ทำงานแล้วเลยซื้อได้แบบสบายใจหน่อย
ตอนนี้ดาวใช้Laura Mercier Foundation Powder เบอร์#2

ให้คะแนนดังนี้ 
กลิ่นหอม 2/5 ให้น้อยเพราะเหมือนไม่มีกลิ่น
แต่ดมดีๆจะเหมือนกลิ่นเครื่องเขียน ไม่ได้เหม็นแต่ไม่ได้หอม
ปกปิด 3/5 
ควบคุมความมัน 4/5 
ติดทนนาน 4/5



อธิบายเพิ่มเติม 
ตัวแป้งมีความละเอียดและเป็นผงมากถ้าใช้แปรงปัด เหมือนมันเหมาะกับการใช้ฟองน้ำในการทามากกว่า ซึ่งฟองน้ำที่ให้มานั้นถือว่าเหมาะกัน เนื่องจาก มันเป็นฟองน้ำที่มีรู้ขนาดใหญ่ กินแป้งแล้วมาทาที่หน้าได้พอเหมาะพอดีแบบ ไม่หนาด้วย


แป้งตัวนี้ให้การปกปิดรอยสิวดาวได้ (ไม่ลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์)รอยเล็กๆหายหมดแต่ถือว่าปกปิดในระดับนึงคือเพราะว่ามันผสมรองพื้นด้วยแหละ มันเลยให่้ลุคการปกปิดที่ดีกว่าตัวเมื่อกี้
สามารถทำได้ทั้งเปียกและแห้งโดยทีเราไม่ต้องทารองพื้นก่อนก็ได้หน้าก็ยังเนียน
และลุคที่ได้คือ บางเบา มีความเป็นธรรมชาติ



สีแป้งอันเดอร์โทนเหลืองสีเหมาะกับหน้า พอทาไปแล้วมันจะกลืนและเนียนไปกับหน้า มีเหงื่อก็ไม่วอกนะแต่ยิ่งกลืนยิ่งเนียนยิ่งผ่อง
ควบคุมความมันได้ดี เวลาผ่านไปมันกลายเป็นหน้าเงาๆ ไม่ได้ดูมัน ส่วนความติดทน ก็ติดทนพอสมควรคือ แต่งหน้าตั้งแต่เช้าถึงกลางวันในห้องแอร์หน้าก็ยังดูเนียนๆ อยู่
ส่วนเรื่องการทาทับลงไปไม่เป็นคราบนะค่ะลองตอนเหงื่อโชกๆแล้วทาทับลงไปยังดีอยู่
สรุป  บางเบาแต่ปกปิด เเป้งเนื้อแมท คุมมัน

ตัวสุดท้าย
Bisou Bisous ตลับส้ม แพคเกจตลับลายดอกไม้สีส้ม มีที่ห้อยฟรุ้งฟริ้ง ผู้หญิงสุดๆ


Bisous Bisous Brightening Foundation Powder  Collagen, Vitamin C #2
เคยได้ลองใช้อยู่ครั้งนึงแล้วแล้วรู้สึกว่ามันเนียนดีแฮะ เลยไปตามหา
ตัวนี้ใช้สลับกับ Laura  เพราะราคาพอรับได้ ราคาอยู่ที่ตลับละ 985 
ชอบที่มันบางเบา ใช้กับวันที่ไม่หนักมาก เป็น Everyday ได้ 
ตัวนี้สูตรเค้าจะเน้นเรื่องความกระจ่างใสของหน้าด้วย เพราะดูจากที่เค้าใส่ คอลลาเจนกับวิตามันซีมาให้

มาดูก่อนนะว่าให้คะแนนเท่าไหร่
ให้คะแนนดังนี้ 
กลิ่นหอม 3/5 กลิ่นหอมบางๆ 
ปกปิด 4/5 
ควบคุมความมัน 3/5
ติดทนนาน 4/5




แป้งผสมรองพื้นเนื้อแมทเนียนนุ่มและเนื้อละเอียดเป็นผงๆ กว่าทั้ง 2 รุ่นด้านบน
ดาวใช้เบอร์1 ไม่ได้ ดาวไม่ขาว ทาแล้วหน้าวอก เบอร์สองจะ อันเดอร์โทนเหลืองพอดี


ส่วนคุณภาพแป้งตัวนี้เหมือนเป็นตัวกลางระหว่าง สองตัวบนอะ ราคาก็กลางๆระหว่างสองตัวบนด้วย
 คือไม่ลำบากกระเป๋าสตางค์มากและคุณภาพโอเค 
โอเคที่นี้คือ ทาแล้วให้ความเป็นธรรมชาติอยู่ รู้สึกบางเบาต่อผิวหน้า ไม่หนักหนา 
ส่วนการปกปิดทำได้ดีค่ะ ถือว่าเป็นจุดเด่นของตัวนี้
 รอยเล็กๆสามารถหายไปได้เลยแม้ไม่ทารองพื้นกับคอนซีล  สำหรับคนมีรอยเยอะไม่แนะนำให้ทาเดี่ยวๆ


เนื้อบางเบา ทาแล้วเนียน ดูสว่างไบรท์ๆขึ้น เนื้อแป้งติดทนนะ แต่การคุมมันทำได้ปานกลางเท่านั้น หน้ามันต้องซับ เช่น สมมุติทาตอนเช้าพอเทียงหน้าจะมัน ดังนั้นสำหรับคนหน้ามันมากไม่แนะนำ  แต่พอทาทับไม่เป็นคราบคะ 
สรุป บางเบาธรรมชาติ เนียน ปกปิด


จบแล้วค่ะ สำหรับรีวิวแป้งที่เคยได้ลองใช้ในแต่ช่วงชีวิต 
จริงๆมีเคยใช้อันอื่นด้วยแต่ก็ได้รีวิวผ่านการทำฮาวทูไปบ้างแล้ละ 
แต่เจ้า 3 ตัวนี้มันไม่ค่อยได้ออกสื่อเท่าใดนัก เลยอยากจะมอบประสบการณ์ให้ผู้อื่นได้ทราบผ่านการรีวิวนี้เนาะ 
แต่พึงระลึกนะค่ะว่า สภาพผิวของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป 
ใครที่ใช้แล้วอาจจะไม่เหมือนในรีวิวก็ไม่ต้องบอกว่าดาวไม่จริง ดาวโม้งี้555
อย่าลืมว่าการใช้มันก็แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลเนาะ 
อยากมาแชร์ให้ดูกัน เพราะคิดว่ามันคงจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่เลือกซื้อแป้งอยู่นะค่ะ
ส่วนใครที่ใช้อยู่แล้วก็มาแชร์กันได้นะค่ะ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
สำหรับวันนี้ บ้ายบายค๊าา 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น